1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. 10 ปลั๊กอิน WordPress สำหรับการทำ SEO
เผยแพร่เมื่อ: มีนาคม 30, 2023

10 ปลั๊กอิน WordPress สำหรับการทำ SEO

Table Of Contents

หลาย ๆ คนที่สร้างเว็บไซต์จาก WordPress ต่างก็ต้องการให้เว็บไซต์ได้อันดับที่ดีในการค้นหา ซึ่งปัจจุบันก็มีตัวช่วยอย่างปลั๊กอิน WordPress มากมาย แต่ในความเป็นจริงเราไม่ต้องใช้ปลั๊กอินหลายตัวบนเว็บเดียวกัน ทำให้เกิดคำถามว่า แล้วปลั๊กอินตัวไหนดีที่สุดสำหรับการทำ SEO ? วันนี้เราจะมาแจกลิสต์ 10 ปลั๊กอินที่มั่นใจได้ว่าติดตั้งแล้วเป็นประโยชน์ต่อเว็บไซต์แน่นอน!

WordPress Plug-in คืออะไร?

WordPress Plug-in หรือที่เราเรียกว่า ปลั๊กอิน WordPress คือ ส่วนเสริมของ WordPress ที่เสริมความสามารถของเว็บไซต์ WordPress ให้มีฟังก์ชัน หรือฟีเจอร์ที่สามารถทำงานได้ตามที่เราต้องการ ส่งผลให้เว็บไซต์ธรรมดา ๆ ของเราครบเครื่อง ดูสวยและเจ๋งขึ้นกว่าที่เคย โดยปลั๊กอินจะมีทั้งแบบฟรี และพรีเมียมให้ใช้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน

best-wordpress-plugin-1

วิธีเลือกปลั๊กอิน WordPress ที่ดีและมีคุณภาพ

1. ดู Last Updated หรือการอัปเดตล่าสุด โดยควรมีการอัปเดตล่าสุดไม่เกิน 1 ปี 

2. ดู Active Installations หรือจำนวนการติดตั้งปลั๊กอิน ปลั๊กอินที่มีจำนวนการติดตั้งมาก แสดงให้เห็นถึงความนิยมและมีคุณภาพ

3. ตรวจสอบ Version ว่าปลั๊กอินรองรับ WordPress เวอร์ชันใดขึ้นไป

4. เช็ก Ratings และ Reviews ว่าปลั๊กอินนั้น ๆ ได้รับ 5 ดาวเยอะหรือไม่ และมีคนพูดถึงอย่างไรบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

5. ไม่ติดตั้งปลั๊กอินเยอะจนเกินไป แนะนำว่าเลือกติดตั้งเฉพาะปลั๊กอินที่ฟังก์ชันการใช้งานตรงกับความต้องการจริง ๆ 

6. หาข้อมูลรีวิวจากเว็บไซต์อื่น ๆ เพิ่มเติม

ปลั๊กอิน WordPress ช่วยในการทำเว็บไซต์หรือทำ SEO อย่างไร

ปลั๊กอิน WordPress ถูกออกแบบมาให้ช่วยส่งเสริมการทำ SEO เช่น ปลั๊กอินที่ช่วยเรื่องความรวดเร็วของเว็บไซต์ ช่วยค้นหาและคัดเลือก Keyword ที่เหมาะสม หรือช่วยวิเคราะห์ภาพรวมของเว็บไซต์ว่าอยู่ในระดับที่ดีหรือไม่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถเป็นแนวทางในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพและถูกหลัก SEO มากขึ้นได้

best-wordpress-plugin-2

ปลั๊กอิน WordPress สำหรับทำ SEO เจ๋ง ๆ  ใช้งานได้ฟรี!

Yoast SEO

Yoast SEO คือปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมในหมู่เอเจนซี่การตลาดออนไลน์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO ซึ่งระบบการทำงานของ Yoast SEO จะช่วยวิเคราะห์บทความบน WordPress โดยแสดงเป็นสัญญาณไฟ พร้อมคำแนะนำว่ามีจุดไหนที่เราทำดีแล้ว หรือจุดไหนบ้างที่เราต้องปรับปรุง ดังนี้

  • สีเขียว หมายถึง ดีมาก ทำถูกต้องตามหลัก SEO
  • สีเหลือง หมายถึง ปานกลาง
  • สีแดง หมายถึง ไม่ถูกหลัก SEO ต้องแก้ไข 

สัญญาณไฟจะขึ้นตามเช็กลิสต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของ SEO เช่น Meta description length, Keyphrase length, Internal links เป็นต้น ช่วยให้เราได้รีเช็กบทความอีกครั้ง และปรับเพิ่มให้ถูกหลัก SEO เหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่ เพราะใช้งานง่ายและมีเวอร์ชันให้ใช้งานฟรีอีกด้วย

All in One SEO for WordPress

All in One SEO for WordPress หรือ AIOSEO ปลั๊กอินยอดนิยมอีกตัวที่มีฟีเจอร์การใช้งานครอบคลุมสมชื่อ All in One ไม่ว่าจะเป็นการบอกสิ่งที่ต้องทำเพื่อปรับปรุงหน้าเว็บ การตั้งค่า Title, Description การตั้งค่า Sitemap รวมทั้งเครื่องมือสำหรับเว็บไซต์ที่เป็น e-commerce เพื่อให้เว็บไซต์สามารถไต่อันดับและนำ Organic Traffic มาสู่ร้านค้าออนไลน์ให้มากขึ้น

Ahrefs SEO

มาถึงสุดยอดปลั๊กอิน SEO อีกหนึ่งตัวอย่าง Ahrefs ที่มาพร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ ได้แก่ การตรวจสอบ Keyword เพื่อเลือกคีย์เวิร์ดที่ใช่ การดูข้อมูล Backlink ว่ามีการทำ Backlink จากที่ไหนบ้าง รวมทั้งการเช็กประสิทธิภาพของหน้าเว็บ โดยจะแสดงเป็น % ให้ทราบง่าย ๆ ว่าอยู่ระดับใด มีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุง เป็นต้น ความโดดเด่นของปลั๊กอินตัวนี้คือนอกจากจะสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ของเราได้แล้ว ยังสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ของคู่แข่งได้อีกด้วย! จึงไม่แปลกใจว่าทำไมตัวนี้จึงได้รับความนิยมในหมู่คนทำ SEO

Semrush

Semrush อีกหนึ่งปลั๊กอิน All in one ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของคู่แข่ง เพื่อนำไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของคุณ โดยตัวปลั๊กอินมีฟีเจอร์ที่ช่วยวิเคราะห์ภาพรวมของเว็บไซต์ ค้นหา Organic Keyword ที่ช่วยให้ติดอันดับดี พร้อมแสดงคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งติดอันดับดี ๆ อยู่ วิเคราะห์ประสิทธิภาพของ Backlink และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย

Rank Math SEO

Rank Math SEO ปลั๊กอิน SEO ที่มีฟีเจอร์ครอบคลุมสำหรับการทำ SEO เช่น ฟีเจอร์ Focus Keyword และ Content Analysis ที่สามารถ Focus Keyword ได้สูงสุดถึง 5 คำ การลบคำที่ไม่สำคัญใน URL (Remove Stopwords) ทำให้ URL สะอาดและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สร้าง XML Sitemap เพื่อนำทางให้ Search Engine มาเก็บข้อมูล (Indexing) เนื้อหาบนหน้าเว็บเราเร็วขึ้น เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องบอกเลยว่า Rank Math เป็นปลั๊กอินที่ฟีเจอร์ครอบคลุมทุกด้านจนไม่ต้องไปพึ่งปลั๊กอินเสริมตัวอื่น ๆ เลยก็ว่าได้

Redirection

Redirection ปลั๊กอินที่ช่วย Redirect เส้นทางจาก URL เก่า ไป URL ใหม่ ป้องกันไม่ให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เข้าไปเจอหน้า 404 Not Found ที่อาจเกิดจากการลบหน้าเพจ การเปลี่ยนชื่อ URL  ซึ่งลิงก์เสีย หรือการที่หน้าเว็บแสดง 404 Not Found เช่นนี้ จะทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่ดีในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ทำให้ผู้เยี่ยมชมอยู่บนหน้าเว็บของเราสั้นลง

Imagify

Imagify ปลั๊กอินช่วยลดขนาดรูป โดยสามารถเลือกการบีบอัดได้ถึง 3 ระดับ คือ Normal, Aggressive และ Ultra ช่วยให้รูปมีขนาดเหมาะสมกับการแสดงบนหน้าเว็บไซต์ เพราะ Google ให้ความสำคัญกับเว็บที่เป็น Mobile Friendly หากรูปมีขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้เกิดปัญหาหน้าเว็บโหลดช้า และไม่มีความเป็น Mobile Friendly นั่นเอง

MonsterInsights

MonsterInsights ปลั๊กอิน Google Analytic สำหรับ WordPress ที่ช่วยแสดงผลข้อมูลสถิติเกี่ยวกับเว็บไซต์ของเรา ไม่ว่าจะเป็น ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรามาจากไหน ผู้เยี่ยมชมทำอะไรบ้างบนเว็บไซต์ของเรา โดยแสดงผลเป็นหน้า Dashboard ที่สามารถเปิดดูได้ทันที ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราปรับปรุงเว็บไซต์ให้คนเข้าดูเพิ่มมากขึ้น

W3 total cache

W3 total cache ปลั๊กอินที่ช่วยตรวจสอบความเร็วในการแสดงผลของหน้าเว็บไซต์ มาพร้อมกับระบบ Cache ที่ช่วยจัดการแคชให้เว็บไซต์มีความเร็วขึ้น และระบบ Lazyload ซึ่งจะเป็นการทำให้หน้าเว็บแสดงผลข้อมูลที่จำเป็นก่อน และแสดงส่วนอื่น ๆ ทีหลัง เช่น รูปภาพ วิดีโอ ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ได้ เมื่อเว็บไซต์แสดงผลเร็วจะทำให้ลดการออกจากเว็บไซต์ (bounce หรือ bounce rate) ลงได้ รวมไปถึงมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย

Site Kit by Google

มาถึงปลั๊กอินตัวสุดท้ายอย่าง Site Kit by Google ปลั๊กอินที่สามารถดูข้อมูลเชิงลึกของการเข้าชมเว็บไซต์บน Dashboard ของ WordPress โดยไม่ต้องผ่าน Google Analytics Dashboard แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำ SEO โดยตรง แต่เมื่อรู้ข้อมูลเชิงลึกแล้ว สามารถพัฒนาหน้าเว็บหรือคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นได้

ถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงเจอปลั๊กอิน WordPress ที่ถูกใจและเหมาะกับการใช้งานของตัวเอง ซึ่งทั้ง 10 ตัวก็ต่างมีจุดเด่น และคุณสมบัติที่ทั้งเหมือนและแตกต่างกัน แต่มั่นใจได้เลยว่าทุกตัวที่เราคัดเลือกมา ช่วยส่งเสริมการทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณสามารถไต่อันดับได้สูงขึ้นอย่างแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง

HubSpot คืออะไร? ช่วยดูแลธุรกิจ ครบจบในตัวเดียวจริงไหม?

สำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้ ทีมที่องค์กรขาดไปไม่ได้เลยคือทีมการตลาดและทีมขาย ทั้งสองทีมนี้ต้องทำงานร่วมกัน ในการดึงลูกค้าเข้ามาและปิดการขาย แต่ด้วยความที่ต่างทีมต่างมีลำดับขั้นตอนและรายละเอียดของเนื้องา
51

Google Analytics 4 คืออะไร ต่างจากเวอร์ชันเก่าอย่างไร

Google Analytics (GA) เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมาก สำหรับนักการตลาดและแบรนด์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพราะ GA จะช่วยให้คุณรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้งานบนเว็บไซต์มากขึ้น และทำให้คุณได้ข้อมูล
35

Technical SEO คืออะไร? กับ 8 เทคนิคการปรับปรุงฉบับพื้นฐาน

Search Engine Optimization (SEO) เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบน Google ได้อย่างยั่งยืนและนำมาซึ่งผลลัพธ์ด้านการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งการทำ SEO จะประกอบไปด้วยฝั่งของ On-Page S
41
th