
รวม 30 ปลั๊กอิน SEO WordPress เพิ่มอันดับเว็บไซต์ จากเอเจนซี่
WordPress คือเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูง และถ้าคุณมีเว็บไซต์แล้ว คุณก็ต้องทำ SEO WordPress ร่วมด้วย จึงจะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google ได้ เคล็ด (ไม่) ลับในการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ SEO ง่ายและยั่งยืนขึ้นคือคุณต้องเลือกใช้ปลั๊กอิน WordPress ให้เหมาะสม เพราะในระบบมีปลั๊กอิน SEO WordPress ให้คุณเลือกใช้จำนวนมาก จนเกิดไปเป็นคำถามว่าปลั๊กอินตัวไหนดีที่สุดสำหรับการทำ SEO และ WordPress SEO Plugin แต่ละตัวใช้สำหรับทำอะไรบ้าง? ด้วยเหตุนี้ ANGA จึงจะมาแนะนำ 30 ปลั๊กอิน SEO WordPress จากประสบการณ์เอเจนซี่รับทำ SEO ให้คุณรู้จักกัน
ปลั๊กอิน WordPress คืออะไร?
ปลั๊กอิน WordPress หรือ WordPress Plug-in คือส่วนเสริมที่สามารถติดตั้งเพื่อเพิ่มความสามารถของเว็บไซต์ WordPress ให้มีฟังก์ชันหรือฟีเจอร์ตามที่เราต้องการได้ ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ดูครบเครื่องและครบครันขึ้นนั้นเอง ส่วน ปลั๊กอิน SEO WordPress คือส่วนเสริมที่เราสามารถติดตั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ในด้านต่าง ๆ ของเว็บไซต์ โดย WordPress SEO Plugin ก็จะมีทั้งแบบฟรีและเสียค่าบริการเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแต่ละปลั๊กอินและความต้องการของผู้ใช้งาน

ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ Zealousys
วิธีเลือกปลั๊กอิน WordPress ที่ดีและมีคุณภาพ
- ดู Last Updated หรือการอัปเดตล่าสุด ซึ่งปลั๊กอิน SEO WordPress ที่ดีควรอัปเดตล่าสุดไม่เกิน 1 ปี
- ดู Active Installations หรือจำนวนการติดตั้งปลั๊กอิน ปลั๊กอินที่มีจำนวนการติดตั้งมาก แสดงให้เห็นถึงความนิยมและมีคุณภาพ
- ตรวจสอบ Version ว่าปลั๊กอินรองรับ WordPress เวอร์ชันใดขึ้นไป
- เช็ก Ratings และ Reviews ว่าปลั๊กอินนั้น ๆ ได้รับ 5 ดาวเยอะหรือไม่ และมีคนพูดถึงอย่างไรบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- ไม่ติดตั้งปลั๊กอินเยอะจนเกินไป แนะนำว่าเลือกติดตั้งเฉพาะปลั๊กอิน SEO WordPress ที่ฟังก์ชันการใช้งานตรงกับความต้องการจริง ๆ เท่านั้น
- หาข้อมูลรีวิวจากเว็บไซต์อื่น ๆ เพิ่มเติม
ปลั๊กอิน WordPress ช่วยในการทำเว็บไซต์หรือทำ SEO อย่างไร
ปลั๊กอิน WordPress เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ให้เว็บไซต์สามารถติดอันดับบน Google ได้ง่ายขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งและจัดการเว็บไซต์ได้ครบถ้วนในทุกด้าน ทั้งการวิเคราะห์ Keyword การจัดการ Meta Tags การสร้าง XML Sitemap และการปรับแต่งเนื้อหาให้เป็นมิตรกับ SEO นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สำหรับติดตามและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ทำให้เห็นภาพรวมและสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ได้อย่างตรงจุด
การใช้งานปลั๊กอิน SEO WordPress ยังช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรในการทำงาน เนื่องจากหลายฟังก์ชันสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ เช่น การปรับแต่งโครงสร้าง URL การจัดการ Redirects หรือการเพิ่ม Schema Markup ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากการทำงานด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีระบบแนะนำการปรับปรุงเว็บไซต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถพัฒนาเว็บไซต์ให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
30 ปลั๊กอิน SEO WordPress ฟรี อัปเดต 2025
วันนี้เราเอาปลั๊กอิน SEO WordPress มาแนะนำให้รู้จักกันแบบจัดเต็มถึง 30 ตัวก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณติดตั้งครบทุกตัว ควรเลือกติดตั้ง WordPress SEO Plugin ที่ตอบโจทย์การทำ SEO บนเว็บไซต์ของคุณเป็นอันดับแรก จากนั้นก็พิจารณาจากรีวิว เวอร์ชัน และวันล่าสุดที่อัปเดต เพราะการติดตั้งปลั๊กอินมากเกินไป อาจทำให้เว็บไซต์ WordPress ทำงานช้าลงและมีการแสดงผลที่ไม่เสถียรได้ เมื่อคุณเข้าใจแล้ว เราก็ไปทำความรู้จักกับเหล่าปลั๊กอิน WordPress สำหรับทำ SEO ทั้ง 30 ตัวกันเลย

1. Yoast SEO
Yoast SEO คือปลั๊กอิน SEO WordPress ยอดนิยมในหมู่เอเจนซี่การตลาดออนไลน์ เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO ได้เป็นอย่างดี ซึ่งระบบการทำงานของ Yoast SEO จะช่วยวิเคราะห์บทความ SEO บน WordPress โดยแสดงเป็นสัญญาณไฟ พร้อมคำแนะนำว่ามีจุดไหนที่เราทำดีแล้ว หรือจุดไหนบ้างที่เราต้องปรับปรุง ดังนี้
- สีเขียว หมายถึง ดีมาก ทำถูกต้องตามหลัก SEO
- สีเหลือง หมายถึง ปานกลาง
- สีแดง หมายถึง ไม่ถูกหลัก SEO ต้องแก้ไข
สัญญาณไฟจะขึ้นตามเช็กลิสต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของ SEO เช่น Meta description length, Keyphrase length หรือ Internal link เป็นต้น ช่วยให้เราได้รีเช็กบทความอีกครั้ง และปรับเพิ่มให้ถูกหลัก SEO เหมาะมาก ๆ สำหรับมือใหม่ เพราะใช้งานง่ายและมีเวอร์ชันให้ใช้งานฟรีอีกด้วย
2. All in One SEO for WordPress
All in One SEO for WordPress หรือ AIOSEO ปลั๊กอินยอดนิยมอีกตัวที่มีฟีเจอร์การใช้งานครอบคลุมสมชื่อ All in One ไม่ว่าจะเป็นการบอกสิ่งที่ต้องทำเพื่อปรับปรุงหน้าเว็บ การตั้งค่า Title, Description การตั้งค่า Sitemap รวมทั้งเครื่องมือสำหรับเว็บไซต์ที่เป็น e-commerce เพื่อให้เว็บไซต์สามารถไต่อันดับและนำ Organic Traffic มาสู่ร้านค้าออนไลน์ให้มากขึ้น
3. Ahrefs SEO
มาถึงสุดยอดปลั๊กอิน SEO WordPress อีกหนึ่งตัวอย่าง Ahrefs ที่มาพร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ ได้แก่ การตรวจสอบ Keyword เพื่อเลือกคีย์เวิร์ดที่ใช่ การดูข้อมูล Backlink ว่ามีการทำ Backlink จากที่ไหนบ้าง รวมทั้งการเช็กประสิทธิภาพของหน้าเว็บ โดยจะแสดงเป็น % ให้ทราบง่าย ๆ ว่าอยู่ระดับใด มีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุง เป็นต้น ความโดดเด่นของปลั๊กอินตัวนี้คือนอกจากจะสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ของเราได้แล้ว ยังสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ของคู่แข่งได้อีกด้วย! จึงไม่แปลกใจว่าทำไมตัวนี้จึงได้รับความนิยมในหมู่คนทำ SEO
4. Semrush
Semrush อีกหนึ่งปลั๊กอิน All in one ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของคู่แข่ง เพื่อนำไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของคุณ โดยตัวปลั๊กอินมีฟีเจอร์ที่ช่วยวิเคราะห์ภาพรวมของเว็บไซต์ ค้นหา Organic Keyword ที่ช่วยให้ติดอันดับดี พร้อมแสดงคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งติดอันดับดี ๆ อยู่ วิเคราะห์ประสิทธิภาพของ Backlink และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย
5. Rank Math SEO
Rank Math SEO ปลั๊กอิน SEO WordPress ที่มีฟีเจอร์ครอบคลุมสำหรับการทำ SEO เช่น ฟีเจอร์ Focus Keyword และ Content Analysis ที่สามารถ Focus Keyword ได้สูงสุดถึง 5 คำ การลบคำที่ไม่สำคัญใน URL (Remove Stopwords) ทำให้ URL สะอาดและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สร้าง XML Sitemap เพื่อนำทางให้ Search Engine มาเก็บข้อมูล (Indexing) เนื้อหาบนหน้าเว็บเราเร็วขึ้น เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องบอกเลยว่า Rank Math เป็น SEO Plugin ที่ฟีเจอร์ครอบคลุมทุกด้านจนไม่ต้องไปพึ่งปลั๊กอินเสริมตัวอื่น ๆ เลยก็ว่าได้
6. Redirection
Redirection ปลั๊กอิน WordPresss ที่ช่วย Redirect เส้นทางจาก URL เก่า ไป URL ใหม่ ป้องกันไม่ให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เข้าไปเจอหน้า 404 Not Found ที่อาจเกิดจากการลบหน้าเพจ การเปลี่ยนชื่อ URL ซึ่งลิงก์เสีย หรือการที่หน้าเว็บแสดง 404 Not Found เช่นนี้ จะทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่ดีในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ทำให้ผู้เยี่ยมชมอยู่บนหน้าเว็บของเราสั้นลง
7. Imagify
Imagify ปลั๊กอินช่วยลดขนาดรูป โดยสามารถเลือกการบีบอัดได้ถึง 3 ระดับ คือ Normal, Aggressive และ Ultra ช่วยให้รูปมีขนาดเหมาะสมกับการแสดงบนหน้าเว็บไซต์ เพราะ Google ให้ความสำคัญกับเว็บที่เป็น Mobile Friendly หากรูปมีขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้เกิดปัญหาหน้าเว็บโหลดช้า และไม่มีความเป็น Mobile Friendly นั่นเอง
8. MonsterInsights
MonsterInsights ปลั๊กอิน Google Analytic สำหรับ WordPress ที่ช่วยแสดงผลข้อมูลสถิติเกี่ยวกับเว็บไซต์ของเรา ไม่ว่าจะเป็น ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรามาจากไหน ผู้เยี่ยมชมทำอะไรบ้างบนเว็บไซต์ของเรา โดยแสดงผลเป็นหน้า Dashboard ที่สามารถเปิดดูได้ทันที ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราปรับปรุงเว็บไซต์ให้คนเข้าดูเพิ่มมากขึ้น
9. W3 total cache
W3 total cache ปลั๊กอินที่ช่วยตรวจสอบความเร็วในการแสดงผลของหน้าเว็บไซต์ มาพร้อมกับระบบ Cache ที่ช่วยจัดการแคชให้เว็บไซต์มีความเร็วขึ้น และระบบ Lazyload ซึ่งจะเป็นการทำให้หน้าเว็บแสดงผลข้อมูลที่จำเป็นก่อน และแสดงส่วนอื่น ๆ ทีหลัง เช่น รูปภาพ วิดีโอ ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ได้ เมื่อเว็บไซต์แสดงผลเร็วจะทำให้ลดการออกจากเว็บไซต์ (Bounce rate) ลงได้ รวมไปถึงมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย
10. Site Kit by Google
Site Kit by Google ปลั๊กอินที่สามารถดูข้อมูลเชิงลึกของการเข้าชมเว็บไซต์บน Dashboard ของ WordPress โดยไม่ต้องผ่าน Google Analytics Dashboard แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำ SEO โดยตรง แต่เมื่อรู้ข้อมูลเชิงลึกแล้ว สามารถพัฒนาหน้าเว็บหรือคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นได้

11. WP Super Cache
WP Super Cache ช่วยเพิ่มความเร็วให้เว็บไซต์ WordPress ด้วยระบบ Caching ที่สร้างสำเนาหน้าเว็บแบบ Static HTML เพื่อลดการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มาพร้อมตัวเลือกการตั้งค่าที่ยืดหยุ่น ทั้งโหมดพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น และโหมดขั้นสูงสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งการทำงานในรายละเอียด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO และประสบการณ์ผู้ใช้งาน
12. The SEO Framework
The SEO Framework ปลั๊กอินที่มีจุดเด่นอยู่ที่การทำงานอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง เน้นการปรับปรุง SEO แบบอัตโนมัติผ่านระบบที่ชาญฉลาด ทั้งการจัดการ Meta Tags, Open Graph และ Schema Markup มาพร้อมอินเตอร์เฟซที่เรียบง่าย ไม่รกรุงรัง ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการการตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลั๊กอิน SEO WordPress ที่ทำงานได้ดีโดยไม่ต้องการฟีเจอร์ที่ซับซ้อนมากเกินไป
13. Breadcrumb NavXT
Breadcrumb NavXT ปลั๊กอินสำหรับสร้างระบบนำทางแบบ Breadcrumb ที่แสดงลำดับชั้นของหน้าเว็บไซต์ ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจว่ากำลังอยู่ส่วนไหนของเว็บไซต์ สามารถปรับแต่งรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลายให้เข้ากับธีมเว็บไซต์ ช่วยให้ทั้งผู้ใช้งานและ Search Engine เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการทำ SEO และประสบการณ์การใช้งาน
14. Broken Link Checker
Broken Link Checker ทำหน้าที่ตรวจสอบและแจ้งเตือนเมื่อพบลิงก์เสีย (Broken Link) บนเว็บไซต์ โดยทำงานอัตโนมัติในพื้นหลัง ช่วยให้คุณสามารถจัดการและแก้ไขลิงก์ที่มีปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานเจอลิงก์เสียที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาคุณภาพของเว็บไซต์และอันดับ SEO
15. Squirrly SEO
Squirrly SEO เป็นปลั๊กอิน SEO WordPress อัจฉริยะที่มาพร้อมระบบวิเคราะห์ SEO แบบ Real-time ขณะเขียนเนื้อหา ช่วยแนะนำการปรับปรุงบทความให้เป็นมิตรกับ SEO มีเครื่องมือทำ Keyword Research ที่ช่วยค้นหาคำค้นที่มีโอกาสติดอันดับ พร้อมระบบติดตามอันดับและรายงานผลการทำ SEO แบบครบวงจร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลั๊กอิน SEO ที่มีฟีเจอร์ครบครัน
16. Auto Image Attributes
Auto Image Attributes เป็นปลั๊กอินที่ช่วยจัดการ Alt Text และ Title Attributes ของรูปภาพโดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาในการใส่ข้อมูลรูปภาพจำนวนมาก รองรับการกำหนดรูปแบบ Alt Text แบบกำหนดเอง และสามารถแก้ไขข้อมูลรูปภาพแบบ Bulk ได้ ส่งผลดีต่อทั้ง SEO และการเข้าถึงเว็บไซต์
17. WPSSO Core
WPSSO Core ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ด้วยการสร้าง Schema Markup ที่ครอบคลุมและแม่นยำ ทำให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น พร้อมระบบจัดการ Social Meta Tags ที่ช่วยให้การแชร์เนื้อหาแสดงผลได้สวยงาม ส่งผลให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับและได้รับการมีส่วนร่วมมากขึ้น
18. SEOPress
SEOPress เป็นปลั๊กอิน SEO WordPress ที่มีความสามารถครอบคลุมการทำ SEO ทั้งระบบ ตั้งแต่การจัดการ Meta Tags, XML Sitemaps ไปจนถึงการเชื่อมต่อกับ Google Analytics เพื่อติดตามผล มาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์เนื้อหาที่ช่วยให้คุณปรับปรุงบทความให้เป็นมิตรกับ SEO มากขึ้น ใช้งานง่ายผ่านหน้า Dashboard ที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ใช้งานระดับสูง
19. Rel NoFollow Checkbox
ปลั๊กอินที่เพิ่มตัวเลือก NoFollow ในรูปแบบ Checkbox ให้กับ WordPress Editor ช่วยให้สามารถกำหนดแอตทริบิวต์ rel=”nofollow” ให้กับลิงก์ได้ง่าย โดยไม่ต้องแก้ไขโค้ด HTML เอง เหมาะสำหรับการจัดการลิงก์ภายนอกที่ไม่ต้องการให้ส่งผลต่อคะแนน SEO หรือลิงก์โฆษณาต่าง ๆ
20. WP-Optimize
WP-Optimize ปลั๊กอิน WordPress ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฐานข้อมูลและเว็บไซต์ มีฟีเจอร์ครอบคลุมทั้งการทำความสะอาดฐานข้อมูล การบีบอัดรูปภาพ และระบบ Cache ที่ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น สามารถตั้งเวลาทำงานอัตโนมัติได้ เหมาะสำหรับการดูแลประสิทธิภาพเว็บไซต์ในระยะยาว

21. Smush
Smush เป็นปลั๊กอินที่ช่วยจัดการประสิทธิภาพของรูปภาพบนเว็บไซต์ โดยการบีบอัดขนาดไฟล์โดยไม่สูญเสียคุณภาพ มาพร้อมฟีเจอร์ Lazy Loading ที่ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น และระบบ Bulk Optimization ที่ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งรูปภาพจำนวนมากได้ในครั้งเดียว ส่งผลดีต่อทั้งอันดับ SEO และประสบการณ์ผู้ใช้งาน
22. WP Meta SEO
ปลั๊กอินที่ช่วยจัดการ Meta Data แบบครบวงจร ทั้ง Title Tags, Meta Description และ Keyword รวมถึงระบบวิเคราะห์ SEO ในหน้าเว็บที่ช่วยให้คำแนะนำในการปรับปรุงเนื้อหา มาพร้อมเครื่องมือจัดการ SEO แบบ Bulk ที่ช่วยประหยัดเวลาในการปรับแต่งหลายหน้าพร้อมกัน เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาจำนวนมาก
23. Simple SSL
Simple SSL ปลั๊กอินที่ช่วยจัดการการเปลี่ยนโปรโตคอลจาก HTTP เป็น HTTPS แบบอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจสอบและแก้ไขปัญหา Mixed Content ช่วยให้เว็บไซต์มีความปลอดภัยสูงขึ้นและเป็นไปตามมาตรฐาน SSL ที่ Google ต้องการ ส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือและอันดับ SEO
24. LiteSpeed Cache
LiteSpeed Cache ปลั๊กอิน Cache ประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ LiteSpeed Web Server มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันทั้ง Server-side Caching, CSS/JS Minification และการบีบอัด Gzip ช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด
25. Google XML Sitemaps
Google XML Sitemaps เป็นปลั๊กอินที่ช่วยสร้างและจัดการ XML Sitemap โดยอัตโนมัติ ทำให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์และ Crawl เนื้อหาได้ครบถ้วนมากขึ้น รองรับการสร้าง Sitemap ได้หลายรูปแบบ ทั้งหน้าเว็บ บทความ หมวดหมู่ และแท็ก พร้อมระบบแจ้งเตือน Search Engine อัตโนมัติเมื่อมีการอัปเดต Sitemap เหมาะสำหรับเว็บไซต์ทุกขนาด
26. Header and Footer Scripts
Header and Footer Scriptsปลั๊กอิน WordPress ที่ช่วยเพิ่มโค้ด JavaScript และ CSS ในส่วน Header และ Footer ของเว็บไซต์โดยไม่ต้องแก้ไขไฟล์ธีม เหมาะสำหรับการติดตั้งโค้ดติดตามต่าง ๆ เช่น Google Analytics, Facebook Pixel หรือโค้ด Schema Markup สำหรับ SEO โดยสามารถเพิ่มโค้ดเฉพาะหน้าหรือทั้งเว็บไซต์ได้
27. Slim SEO
Slim SEO ปลั๊กอิน SEO ที่เน้นความเรียบง่ายและประสิทธิภาพสูง มาพร้อมฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นครบถ้วน ทั้งการจัดการ Meta Tags, XML Sitemaps และ Redirections ด้วยขนาดที่เล็กและการทำงานที่รวดเร็ว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความเร็วของเว็บไซต์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลั๊กอิน SEO แบบไม่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพ
28. WooCommerce
WooCommerce ปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซยอดนิยมที่ช่วยเปลี่ยน WordPress ให้เป็นร้านค้าออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมระบบจัดการสินค้า ตะกร้าสินค้า และระบบชำระเงินที่หลากหลาย รองรับการขายทั้งสินค้ากายภาพและดิจิทัล สามารถปรับแต่งหน้าร้านได้อย่างอิสระ และมีส่วนขยายมากมายสำหรับเพิ่มฟีเจอร์พิเศษ เช่น ระบบสมาชิก การจองสินค้า หรือการขายแบบ Subscription
29. Widgets for Google Reviews
Widgets for Google Reviews ปลั๊กอินที่แสดงรีวิวจาก Google My Business บนเว็บไซต์ WordPress มาพร้อมวิดเจ็ตหลากหลายรูปแบบที่ปรับแต่งได้ สามารถกรองและจัดเรียงรีวิวตามต้องการ รองรับการแสดงผลแบบ Responsive ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจและส่งผลดีต่อ Local SEO
30. WP Fastest Cache
WP Fastest Cache ปลั๊กอิน Cache ประสิทธิภาพสูงที่ช่วยเพิ่มความเร็วให้เว็บไซต์ WordPress มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันทั้ง Mod_Rewrite, CDN Support, Cloudflare Integration และระบบ Preload Cache สามารถตั้งค่าการทำ Cache แยกตามอุปกรณ์และสถานะผู้ใช้งานได้ ช่วยปรับปรุงคะแนน PageSpeed และ Core Web Vitals
บทสรุป
อ่านมาถึงตรงนี้ เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเจอปลั๊กอิน SEO WordPress ที่ถูกใจและเหมาะกับการใช้งานของตัวเองกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปลั๊กอิน WordPress สำหรับทำ SEO ทั้ง 30 ตัว ต่างมีจุดเด่น และคุณสมบัติที่ทั้งเหมือนและแตกต่างกัน มั่นใจได้เลยว่าทุกตัวที่เราคัดเลือกมา ช่วยส่งเสริมการทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณสามารถไต่อันดับบน Google ได้สูงขึ้นอย่างแน่นอน แนะนำให้เริ่มจาก WordPress SEO Plugin พื้นฐานที่จำเป็นก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มเติมฟีเจอร์ตามความเหมาะสมของขนาดและประเภทของเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
บทความที่เกี่ยวข้อง

จดโดเมน .co.th ทำอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง จดที่ไหนดี 2025
