ทำความรู้จัก Yoast SEO ปลั๊กอินปรับแต่ง SEO สุดเจ๋งบน WordPress

เครื่องมือทำ SEO มีให้เลือกใช้งานเยอะมาก ทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าเราจะมาพูดถึงเครื่องมือทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ WordPress ล่ะก็ ตัวที่ขาดไม่ได้เลยคือ Yoast SEO ซึ่งเป็นปลั๊กอิน WordPress ที่ช่วยให้การปรับแต่ง SEO บนเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายและมีโอกาสติดอันดับบน Google มากขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยว่าทำไม Yoast ถึงกลายเป็นเครื่องมือ SEO อันดับต้น ๆ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ WordPress ไปทำความรู้จักกับ Yoast SEO ให้มากขึ้นผ่านบทความนี้จาก ANGA กันได้เลย

Yoast SEO คืออะไร

Yoast SEO คือปลั๊กอินขวัญใจนักทำเว็บไซต์บน WordPress ที่ช่วยจัดการและปรับแต่งองค์ประกอบด้าน SEO แบบครบวงจร โดยมีให้เลือกใช้ทั้งเวอร์ชันฟรีและเวอร์ชันพรีเมียม (เวอร์ชันพรีเมียมของ Yoast SEO ราคาเริ่มต้นที่ $99 ต่อปี) Yoast SEO มีระบบการวิเคราะห์และแนะนำการปรับปรุงผ่านสัญลักษณ์ไฟจราจรที่เข้าใจง่าย คือ สีเขียว (ดีเยี่ยม), สีเหลือง (ควรปรับปรุง) และสีแดง (ต้องแก้ไขโดยด่วน) ซึ่งสัญลักษณ์ไฟจราจรจะมาพร้อมคำอธิบายที่ชัดเจนว่าควรปรับปรุงอะไรบ้าง ทำให้มือใหม่หัดทำ SEO หรือเพิ่งจับเว็บไซต์สามารถใช้งาน Yoast ได้อย่างง่าย ๆ รวมถึงการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับ Search Engine อย่าง Google เพื่อเพิ่มอันดับเว็บไซต์บนหน้า SERPs ด้วย 

Yoast SEO ทำอะไรได้บ้าง?

• วิเคราะห์และแนะนำการใช้คีย์เวิร์ดในบทความ
• ตรวจสอบความซ้ำซ้อนของเนื้อหา (Duplicate Content)
• วิเคราะห์ความอ่านง่ายของเนื้อหา
• กำหนด Canonical URL
• ปรับแต่ง Meta Title และ Meta Description
• สร้าง XML Sitemap แบบอัตโนมัติ
• จัดการ Robots.txt
• ปรับแต่งการแสดงผลบน Social Media
• ตรวจสอบโครงสร้าง URL
• ตั้งค่า Schema Markup
• สร้าง Breadcrumbs Navigation
• วิเคราะห์ความยาวของบทความ
• แนะนำการใช้ Alt Text สำหรับรูปภาพ
• จัดการ Internal Link

Yoast SEO มีประโยชน์ยังไงบ้าง?

การทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพนั้นประกอบด้วยหลายปัจจัย ทั้งการปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ การจัดการเนื้อหา และการตั้งค่าทางเทคนิคต่าง ๆ ซึ่ง Yoast SEO ช่วยให้คุณจัดการทุกองค์ประกอบเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น แม้จะไม่มีความรู้ด้านเทคนิคมากนัก ลองมาดูกันว่าปลั๊กอินตัวนี้มีประโยชน์ยังไงบ้าง

1. ปรับแต่ง Meta Tags และ Schema Markup

ปลั๊กอิน Yoast SEO ช่วยจัดการ Title Tags, Meta Description และ Schema Markup ได้อย่างครบถ้วน พร้อมแสดงตัวอย่างการแสดงผลบน SERPs ให้เห็นก่อนเผยแพร่จริง ทำให้คุณสามารถปรับแต่งให้น่าคลิกและดึงดูดผู้ใช้งานได้มากขึ้น

2. วิเคราะห์และปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นมิตรกับ SEO

Yoast SEO มีระบบวิเคราะห์เนื้อหาแบบเรียลไทม์ที่ช่วยตรวจสอบการใช้คีย์เวิร์ด ความยาวของเนื้อหา และความอ่านง่าย พร้อมให้คำแนะนำในการปรับปรุงผ่านระบบไฟจราจรที่เข้าใจง่าย ทำให้คุณสามารถปรับแต่งเนื้อหาให้มีโครงสร้างที่ดีและเป็นมิตรกับทั้งผู้อ่านและ Search Engine ได้

3. สร้างและจัดการ XML Sitemap อัตโนมัติ

เมื่อคุณสร้างเนื้อหาใหม่ Yoast SEO จะอัปเดต XML Sitemap ให้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์และค้นพบเนื้อหาใหม่ได้รวดเร็วขึ้น ส่งผลดีต่อการจัดอันดับและการแสดงผลในผลการค้นหา

4. จัดการ Technical SEO ได้ครบถ้วน

Yoast SEO ช่วยดูแลการตั้งค่าทางเทคนิคต่าง ๆ เช่น Robots.txt, .htaccess, Canonical URLs และ Breadcrumbs ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งค่าที่ซับซ้อน และมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์มีโครงสร้างที่เป็นมาตรฐานตามหลัก SEO แน่นอน

5. ควบคุมการแสดงผลบน Social Media ได้

คุณสามารถกำหนดรูปแบบการแสดงผลเมื่อมีการแชร์เนื้อหาไปยัง Social Media ได้ ทั้งรูปภาพ ข้อความ และคำอธิบาย ช่วยให้โพสต์ดูน่าสนใจและเพิ่มโอกาสในการได้รับการคลิกมากขึ้น

วิธีติดตั้ง Yoast SEO บน WordPress

ก่อนจะเริ่มปรับแต่ง SEO ให้กับเว็บไซต์ WordPress ของคุณ เราต้องติดตั้งปลั๊กอิน Yoast SEO ก่อน ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ดังนี้

1. ล็อกอินเข้าหลังบ้าน WordPress ของคุณ จากนั้นมองหาเมนู “Plugins” ที่แถบด้านซ้าย
2. คลิกที่ “Add New” ในเมนู Plugins แล้วพิมพ์คำว่า “Yoast SEO” ลงในช่องค้นหา ระบบจะแสดงปลั๊กอินที่ต้องการขึ้นมา
3. กดปุ่ม “Install Now” และรอให้ระบบติดตั้งเสร็จ จากนั้นปุ่มจะเปลี่ยนเป็น “Activate” ให้คลิกอีกครั้งเพื่อเปิดใช้งาน
4. หลังจากเปิดใช้งานแล้ว จะมีเมนู SEO เพิ่มขึ้นมาในแถบด้านซ้าย ให้เข้าไปทำตาม Configuration wizard เพื่อตั้งค่าพื้นฐานที่จำเป็น
5. เมื่อตั้งค่าเสร็จ คุณสามารถเริ่มใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Yoast SEO ได้ทันที โดยจะพบส่วนควบคุม SEO เพิ่มเติมในหน้าแก้ไขโพสต์และหน้าเพจ

Yoast SEO ใช้ยังไง? สอนใช้ Yoast SEO ฉบับพื้นฐาน

การใช้งาน Yoast SEO อาจดูซับซ้อนสำหรับมือใหม่ แต่หากเข้าใจขั้นตอนพื้นฐาน คุณก็สามารถปรับแต่ง SEO ให้เว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ตั้งค่าเริ่มต้น Yoast SEO

เข้าไปที่เมนู Yoast SEO ในแดชบอร์ด WordPress แล้วทำตามขั้นตอน Configuration wizard เพื่อตั้งค่าพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ประเภทเว็บไซต์ ชื่อบริษัท และการแสดงผลบน Social Media

2. กำหนด Focus Keyphrase

ใส่คีย์เวิร์ดหลัก (Focus Keyword) ที่ต้องการให้ติดอันดับลงในช่อง Focus keyphrase เพื่อให้ระบบวิเคราะห์และแนะนำวิธีปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นมิตรกับ SEO มากขึ้น

3. ปรับแต่ง SEO Title และ Meta Description

คลิกที่ Edit snippet เพื่อใส่ชื่อเรื่อง (Title) และคำอธิบาย (Meta Description) ที่จะแสดงบน Google โดยให้มีความยาวพอเหมาะและใส่คีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติ

4. จัดการรูปภาพและ Alt Text

อัปโหลดรูปภาพประกอบเนื้อหาและใส่คำอธิบายรูปภาพ (Alt text) ที่มีคีย์เวิร์ดรวมอยู่ด้วย เพื่อให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหารูปภาพได้ดีขึ้น

5. ตรวจสอบคะแนน Readability และ SEO

ดูผลวิเคราะห์และคำแนะนำจากไฟสัญญาณ เช่น เขียวคือดีมาก เหลืองคือควรปรับปรุง แดงคือต้องแก้ไข แล้วปรับแต่งตามคำแนะนำที่ได้รับ

6. เพิ่ม Internal Link และ External Link

เพิ่ม Internal Link และ External Link เชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์และเว็บไซต์ภายนอกที่น่าเชื่อถือ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับบทความและช่วยในเรื่องการจัดอันดับ

บทสรุป

ถ้าคุณกำลังมองหาปลั๊กอินดี ๆ สำหรับทำ SEO บน WordPress อย่าพลาด Yoast SEO เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณปรับแต่งเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังมีคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะการทำ SEO ของคุณไปในตัวด้วย แม้ Yoast จะมีข้อจำกัดบ้างในการรองรับภาษาไทย แต่ถ้าเข้าใจวิธีใช้และรู้จักประยุกต์คำแนะนำให้เหมาะกับเนื้อหาของคุณ รับรองว่าคุ้มค่ากับการลงทุนเวลาในการเรียนรู้แน่นอน สามารถเริ่มต้นใช้งานแพ็กเกจฟรีให้ชินก่อนได้เลย หากต้องการเพิ่มความสามารถขยับไปเป็นแพ็กเกจพรีเมียมในภายหลังได้