1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Keyword คืออะไร? รู้จักความสำคัญ ประเภทและเทคนิคการเลือกคีย์เวิร์ดสำหรับ SEO
Keyword คืออะไร
เผยแพร่เมื่อ: มีนาคม 7, 2023 | แก้ไขเมื่อ: กรกฎาคม 30, 2024

Keyword คืออะไร? รู้จักความสำคัญ ประเภทและเทคนิคการเลือกคีย์เวิร์ดสำหรับ SEO

Table Of Contents

เชื่อว่าเวลาที่ผู้คนเกิดความสนใจในเรื่องราวใด ๆ หรืออยากค้นหาสินค้าหรือบริการที่ต้องการ วิธีการหนึ่งที่ได้รับคำตอบหรือแก้ปัญหาเหล่านั้นก็คือการใส่ Keyword หรือคำที่พวกเขาสนใจเพื่อค้นหาใน Search Engine ดังนั้นหากธุรกิจหรือแบรนด์มีหน้าเว็บไซต์ประกอบด้วย keyword ที่สอดคล้องกับความสนใจของผู้ค้นหาก็จะส่งผลดีต่อการแสดงผลของหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ ยิ่งเป็น Keyword ที่สอดคล้องกับการทำงานของ Algorithm ของ Google ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อหน้าเว็บไซต์นั้นมากขึ้น การเลือก Keyword ที่ดีจึงเป็นการพิจารณาปัจจัยที่สำคัญในการทำการตลาดออนไลน์

Keyword คืออะไร? ทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น

หลายคนคงยังสงสัยว่า Keyword คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร สามารถอธิบายได้ง่าย ๆ ว่า Keyword คือคำหรือวลีที่ผู้คนใช้คำเหล่านี้มาค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการบน Search Engine อย่าง Google, Bing! หรือ Yahoo ไม่ว่าความสนใจนั้นจะเป็นเพียงเรื่องที่อยากรู้ เพื่อการอ่านรีวิวประกอบการตัดสินใจ หรือเพื่อหาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ  ซึ่งเมื่อหน้าเว็บไซต์หรือสื่อออนไลน์ใด ๆ มีคำ Keyword ที่ตรงกับที่ผู้ใช้ค้นหา หน้าเว็บไซต์นั้นก็จะปรากฎบนผลการค้นหา (Search Engine Result Pages) 

รู้จักความสำคัญ Keyword ในการทำตลาดออนไลน์

  1. Keyword เปรียบเสมือนเบาะแสที่บอกว่าผู้ค้นหรือลูกค้าต้องการอะไร ซึ่งทำให้ธุรกิจหรือแบรนด์เข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น อย่างไรก็ตามควรเลือกใช้ Keyword ที่คาดว่าผู้บริโภคจะใช้เมื่อค้นหาสินค้าหรือบริการของคุณ
  2. Keyword เป็นตัวปัจจัยที่สำคัญมากในการติดอันดับบน Search Engine ของเว็บไซต์ธุรกิจ เพราะ Keyword ช่วยให้ Google ทราบว่าเนื้อหาที่อยู่บนหน้าเว็บไซต์ของธุรกิจเกี่ยวกับอะไร เพื่อนำไปจัดอันดับและแสดงผลได้ตรงตามที่ผู้ใช้ต้องการและเหมาะสม
  3. Keyword สามารถช่วยให้ธุรกิจหรือนักการตลาดผลิตคอนเทนต์และปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ค้นหา (Search Intent) ตอบคำถามที่ผู้ค้นหาอยากทราบ ซึ่งจะเห็นได้ว่า เว็บไซต์ที่แสดงผลบนหน้าแรกของ Search Engine จะมี Keyword ที่ตรงกับคำที่ผู้ใช้พิมพ์ลงบนช่องเสิร์ชเพื่อค้นหา
  4. Keyword ที่ดีจะช่วยเพิ่มยอดการแสดงผล (Visibility) การเข้าถึงเว็บไซต์ (Traffic) อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเมื่อมีผู้ใช้งานเห็นและเข้าเว็บไซต์มากขึ้น หรือเห็นเว็บไซต์เราก่อนที่เว็บไซต์คู่แข่ง ก็จะเป็นการเพิ่มโอากสในการปิดยอดของธุรกิจได้มากขึ้นอีกด้วย
ความสำคัญ Keyword ในการทำตลาดออนไลน์

Keyword มีกี่ประเภท อะไรบ้าง เพื่อเลือกใช้ได้เหมาะสม

Generic Keyword 

เป็น Keyword ประเภททั่วไป ไม่มีความเฉพาะเจาะจง แต่มักเป็นคำที่มีปริมาณการค้นหาสูงมาก หากเว็บไซต์ใดสามารถติดอันดับด้วย Keyword ประเภทนี้ได้ ก็จะช่วยให้เว็บไซต์นั้นเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่คู่แข่งที่เลือกใช้ Keyword นี้ก็จะมีมากตามไปด้วย

ตัวอย่าง Generic Keyword กรณีเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการทำอาหารสุขภาพ Keyword ที่เกี่ยวข้องก็จะเป็น “การทำอาหาร” หรือ “สูตรอาหาร” เป็นต้น

Niche Keyword

เป็น Keyword ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ข้อดีของการใช้ Keyword ประเภทนี้คือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น คำค้นหาตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการมากขึ้น จึงสร้างโอกาสทางการตลาดได้ดีมากขึ้น และทำให้คู่แข่งลดน้อยกว่าการใช้ Generic Keyword

ตัวอย่าง Niche Keyword กรณีเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการทำอาหารสุขภาพ Keyword ที่เกี่ยวข้องก็จะเป็น “การทำอาหารสุขภาพ” หรือ “สูตรอาหารสุขภาพ” เป็นต้น

Longtail Keyword

เป็น Keyword ที่เฉพาะเจาะจงมากที่สุด สามารถบ่งบอกความต้องการของผู้คนที่ใช้คำนี้ค้นหาได้ชัดเจน แต่ปริมาณการค้นหาอาจไม่มากนัก แต่กลับเป็น Keyword ที่สามารถสร้างยอดขายได้ดีที่สุด เพราะคนที่ใช้ Keyword นี้ค้นหา คือคนที่ทราบความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของตนเองอย่างชัดเจน

ตัวอย่าง Longtail Keyword กรณีเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการทำอาหารสุขภาพ Keyword ที่เกี่ยวข้องก็จะเป็น “การทำอาหารสุขภาพสำหรับผู้ป่วยโรคไต” หรือ “สูตรอาหารสุขภาพสำหรับโรคไต” เป็นต้น

เทคนิคการเลือก Keyword เพื่อให้ตอบโจทย์การทำ SEO สำหรับธุรกิจ

เลือกจากปริมาณการค้นหา (Search Volume)

คงจะไม่ดีแน่นอน Keyword ที่เลือกใช้ ไม่มีผู้ใช้งานค้นหาเลยหรือมีการใช้ค้นหาที่น้อยมาก ดังนั้นจึงควรการเลือกคำที่มีปริมาณการค้นหาที่มากเพียงพอ ซึ่งนักการตลาดสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Google Keyword Planner, SERanking หรือ Ahrefs เพื่อให้ทราบว่า Keyword แต่ละคำนั้นมีปริมาณการค้นหาต่อเดือนเท่าไหร่

เลือก Keyword ที่มีความเกี่ยวของ (Relevance)

การเลือกใช้ Keyword ควรมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือบริการที่บริษัทกำลังเสนอขาย เพื่อให้ผู้ใช้งานค้นหาสินค้าและบริการของเราเจอ เช่น หากทำธุรกิจร้านอาหารก็ควรเลือกใช้ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร หากใช้ Keyword ที่เกี่ยวกับรองเท้า แน่นอนว่าเว็บไซต์ของเราคงจะไม่ปรากฏอยู่ในผลการค้นหาอย่างแน่นอน

เลือกใช้คำที่สามารถแข่งขันได้ (Competition)

ควรเลือก Keyword ที่มีค่า Difficulty เหมาะสมกับธุรกิจ เช่น หากบริษัทของเราเป็นธุจกิจเล็กหรือเพิ่งเว็บไซต์ได้ไม่นาน ความน่าเชื่อถือยังไม่มากเท่าบริษัทใหญ่ ๆ อาจะเลือกใช้ Keyword ที่มีการแข่งขันไม่สูงมาก เพื่อให้ติดอันดับได้ง่ายขึ้น แล้วจึงค่อยพัฒนาไปยัง Keyword ที่มีการแข่งขันสูง โดยนักการตลาดสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Ubersuggest หรือ MOZ พื่อตรวจสอบความยากง่ายของคีย์เวิร์ดได้

เลือก Keyword ที่มี Conversion Value

Keyword ที่ดีควรเป็น Keyword ที่คนตั้งใจค้นหาเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการนั้นจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ค้นหาเพื่อหาความรู้หรือหาข้อมูล Keyword ประเภทนี้จะช่วยให้สร้างยอดขายให้กับธุรกิจหรือแบรนด์ได้

เทคนิคการเลือก Keyword เพื่อทำ SEO สำหรับธุรกิจ

รวม 5 เครื่องมือที่ใช้ในการหา Keyword

เครื่องมือที่ใช้ในการหา Keyword จะช่วยให้การทำ Keyword Research มีคุณภาพที่ดี เพราะช่วยให้ได้ข้อมูลที่ละเอียด และแม่นยำมากขึ้น โดยแต่ละเครื่องมือก็จะมีฟีเจอร์ และความสามารถที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเครื่องที่ช่วยการทำงานในขั้นตอนนี้ ดังนี้

Google Keyword Planner

เป็นเครื่องมือสำหรับหาคีย์เวิร์ดที่สามารถใช้งานได้ฟรี ช่วยแสดงเทรนด์การค้นหาในแต่ละช่วงเวลาได้ และช่วยให้ทราบจำนวนการค้นหาเฉลี่ยของแต่ละคำ Keyword ได้

Google Suggestion (SERP)

การใช้งานเครื่องมือนี้ ผู้ใช้ต้องมีคำตั้งต้นของ Keyword ที่สนใจก่อน จากนั้นให้นำคำ Keyword นั้น ๆ ไปค้นหาบน Google แล้วไปดู Related Search ว่ามีคำคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับคำคีย์เวิร์ดที่ต้องการอย่างไร จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์มากำหนดเป็นคีย์เวิร์ด

Ahrefs

Aherfs คือเครื่องที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการทำ SEO ค่อนข้างครอบคลุมการทำ SEO ไว้เกือบทุกด้าน ทั้ง Keyword Analysis, Backlink Analysis, Competitor Analysis และการทำ Website Audit

Ubersuggest

Ubersuggest คือเครื่องมือช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO เครื่องมือนี้จะช่วยวิเคราะห์และประเมินคุณภาพของ SEO บนหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ และสามารถตรวจสอบหน้าเว็บไซต์ของคู่แข่งได้ ทำให้ทราบแนวทางการพัฒนาเว็บไซต์นั้น ๆ ทำให้สามารถทำคอนเทนต์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ

Google Trends

คือเครื่องมือของ Google ช่วยรวบรวมข้อมูลเพื่อการค้นหาเรื่องต่าง ๆ บน Google สามารถตรวจสอบได้ทั้งคีย์เวิร์ด และหัวข้อหลัก เป็นข้อมูลที่รวบรวมจากการค้นหาบนเว็บ (Web Search), การค้นหารูป (Image Search), การค้นหาข่าว (News Search), การค้นหาวีดีโอ (YouTube Search) และ Google Shopping ด้วย

บทสรุปความสำคัญของ Keyword ที่ทำให้ SEO ประสบความสำเร็จ

Keyword นอกจากจะเป็นคำหรือวลีที่ทำให้ผู้ใช้งานค้นหาเว็บไซต์ธุรกิจของเราเจอแล้ว ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพ เพิ่มอันดับในการแสดงผล อย่างไรก็ตามยังต้องอาศัยความเข้าใจในเลือก Keyword และรู้จักนำ Keyword ไปใช้อย่างเหมาะสม

บทความที่เกี่ยวข้อง

 Reels คืออะไร? 5 วิธีเพิ่มยอดวิว ทํายังไงให้คนดู Reels เยอะ

ทุกครั้งที่คุณเข้าไปใช้งาน Social Media อย่าง Facebook, Instagram หรือ YouTube คุณคงจะเห็นว่ามันมีฟีเจอร์สำหรับการแสดงวิดีโอสั้นโดยเฉพาะ นั่นเป็นเพราะว่าวิดีโอสั้น (Short Video) ได้รับการตอบรับที่ดีจา
17

 6 กลยุทธ์การตลาดร้านอาหารที่เห็นผลจริงในปี 2024

ทุกซอกทุกมุมในประเทศไทยล้วนมีร้านอาหารทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารขนาดเล็กหรือร้านอาหารขนาดใหญ่ก็ตาม ด้วยเหตุนี้ธุรกิจร้านอาหารจึงมีการแข่งขันกันที่ค่อนข้างดุเดือด ยิ่งถ้าคุณเป็นร้านอาหารขนาดเล็กหรื
15

 แจกวิธีติดตะกร้า TikTok สร้างรายได้ ทำง่าย ได้ผลชัวร์

นอกจากเราจะใช้ TikTok ในการเสพความบันเทิงจากทั่วทุกมุมโลกได้แล้ว คุณยังสามารถผันตัวไปเป็น TikTok Creator เพื่อสร้างรายได้ผ่านโปรแกรม TikTok Affiliate ได้ให้กับตัวเองได้อีกด้วย เพียงแค่คุณปักตะกร้าสินค
16
th