
Backlink คืออะไร มีกี่ประเภท พร้อมวิธีหา อัปเดต 2025
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำเว็บไซต์และ SEO ด้วยตัวเองมาแล้ว คงจะพอเข้าใจในคอนเซปต์และกระบวนการต่าง ๆ ว่า SEO คือการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ให้มีคุณภาพมากพอที่จะติดอันดับการค้นหาจาก Search Engine ยอดนิยมอย่าง Google โดยองค์ประกอบของการทำ SEO จะมีทั้งในส่วนของ On-Page SEO Technical SEO และ Off-Page SEO หรือที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกับคำว่า “Backlink” นั่นเอง และในวันนี้ ANGA (แองก้า) จะพาคุณรู้ลึกรู้จริงว่า Backlink คืออะไร ตั้งแต่ Backlink มีกี่ประเภท วิธีหา Backlink ไปจนถึงการแนะนำวิธีทำ Backlink ให้มีประสิทธิภาพต่อ SEO มากที่สุดในปี 2025 ด้วยเช่นกัน
Backlink คืออะไร
Backlink คือลิงก์เว็บไซต์เราที่ถูกส่งตรงมาจากเว็บไซต์อื่น การเชื่อมโยงนี้ยังเป็นการส่งต่อค่าความน่าเชื่อถือจากเว็บไซต์ต้นทางมายังเว็บไซต์ปลายทางอย่างเราด้วย เพราะฉะนั้น การได้รับ Backlink จากเว็บไซต์ที่มีค่า Domain Authority (DA) สูง จึงช่วยเพิ่มพลังความน่าเชื่อถือและมีส่วนช่วยในการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google ด้วย ซึ่งการประเมิน Backlink SEO ของ Google จะประเมินทั้งคุณภาพและปริมาณ แต่จะเน้นที่คุณภาพและความสม่ำเสมอเป็นหลัก การทำ Backlink ที่ Google ชอบจะต้องมีความเป็นธรรมชาติสูง ซึ่งคุณอาจจะสร้าง Link Building ด้วยตัวเอง หรือจ้างเอเจนซี่รับทำ Backlink ที่เชี่ยวชาญก็ได้ ที่สำคัญเลยคือไม่ควรซื้อ Backlink จำนวนมาก ๆ และส่งมายังเว็บไซต์ของคุณอย่างรวดเร็ว เพราะ Google จะมองว่าเป็นสแปมและลดอันดับเว็บไซต์บน SERPs (Search Engine Results Page) ได้

ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ Backlinko
Backlink มีกี่ประเภท
Backlink สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
- Backlink ที่แบ่งตามวิธีการได้มา
- Editorial Backlink คือ Backlink ที่เกิดขึ้นจากผู้อื่น โดยธรรมชาติ
- Manual Backlink คือการเขียนเนื้อหาแล้วนำไปโพสต์บนเว็บไซต์อื่น ๆ
- Guest Blogging Backlink คือการแลกเปลี่ยน Backlink กับเว็บไซต์อื่น
- Backlink ที่แบ่งตามคุณสมบัติการส่งต่อค่าคะแนน
- Dofollow Backlink คือลิงก์ที่มีการส่งต่อค่าคะแนนไปยังเว็บไซต์ปลายทาง
- Nofollow Backlink คือลิงก์ที่ไม่มีการส่งต่อค่าคะแนน แต่ช่วยเพิ่ม Traffic ได้
ประโยชน์และความสำคัญของ Backlink
การทำ SEO ติดหน้าแรกบน Google ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากจะอาศัยหลาย ๆ ปัจจัยประกอบกันแล้ว คุณต้องมีการทำอย่างสม่ำเสมอและเลือกใช้เทคนิคทำ SEO ที่เหมาะสมด้วย ซึ่ง Backlink ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญจากฝั่ง Off-Page หรือ Off-Site SEO ที่จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ ดังนี้
1. ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับได้ดีขึ้น
Backlink ทำหน้าที่เหมือนคะแนนโหวตความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ เมื่อมีเว็บไซต์อื่นเขียนเนื้อหาหรือสร้างบทความ SEO ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ แล้วใส่ลิงก์มายังเว็บไซต์ของคุณ Google จะมองว่าเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพ ส่งผลให้ติดอันดับ SEO ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม Backlink ควรมาจากหลาย ๆ เว็บไซต์ที่แตกต่างกัน ไม่ใช่มาจากเว็บไซต์เดียวซ้ำ ๆ เพราะอาจทำให้ Google มองว่าเป็นการสแปมและส่งผลเสียต่ออันดับ SEO ได้
2. ช่วยให้เว็บไซต์ถูกค้นหาได้ง่ายขึ้น
การมี Backlink คุณภาพจากหลายแหล่งช่วยให้ Google เข้าใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ เมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ Google จะแสดงเว็บไซต์ของคุณในตำแหน่งที่ดี ทำให้กลุ่มเป้าหมายเจอเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า Backlink มาจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
3. ช่วยเพิ่ม Traffic เข้าชมเว็บไซต์ได้
การทำ Backlink ที่มีคุณภาพช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อคุณสร้าง Backlink บนเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ผู้อ่านที่สนใจเนื้อหาเหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะคลิกเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของคุณ ส่งผลให้มี Organic Traffic เพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และมีโอกาสสูงที่จะได้กลุ่มผู้ใช้งานเว็บไซต์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
3 ลักษณะสำคัญของ Backlink SEO ที่ดี
หลาย ๆ คนมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ SEO ว่าการทำ Backlink นั้น ยิ่งทำมากก็ยิ่งดีต่อเว็บไซต์ แต่ความจริงแล้วคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ เพราะถ้าได้ Backlink จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ อาจส่งผลเสียต่ออันดับ SEO ได้ ซึ่งการสร้าง Backlink ที่ดีจึงต้องพิจารณาทั้งคุณภาพของเว็บไซต์ต้นทาง ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา และประเภทของลิงก์ที่ได้รับ เพื่อให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือและควรค่าแก่การติดอันดับในตำแหน่งที่ดี โดยลักษณะของ Backlink SEO ที่ดี มีดังนี้
1. เนื้อหาของคอนเทนต์ต้องสอดคล้องกับเว็บไซต์หลัก
เนื้อหาที่มีการทำ Backlink จะต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือบริการของคุณ และเนื้อหาในหน้าดังกล่าวจะต้องเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ปลายทางที่ทำมานำ Backlink ด้วย เช่น ANGA เป็นเอเจนซี่รับทำ SEO ได้สร้าง Backlink เรื่อง ‘ASEO วิธีทำ SEO แบบใหม่ให้อันดับเว็บไซต์พุ่งในยุค AI 2025’ ส่งลิงก์ไปยังหน้าบริการรับทำ SEO และโพสต์ลงบนเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาด้านการตลาดออนไลน์ เป็นต้น เพราะ Google ให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยงของเนื้อหาเป็นอย่างมาก ดังนั้น ถ้าคุณทำ Backlink จำนวนมากแต่เนื้อหาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเว็บไซต์gเลย มีเพียงลิงก์ที่โยงกลับไปหาต้นทาง ถือว่าเป็นการทำ Backlink ที่สูญเปล่า และส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ได้ในอนาคตได้ คำแนะนำเพิ่มเติมในการสร้างคอนเทนต์คือเขียนเนื้อหาให้เป็นธรรมชาติและไม่ใช้คีย์เวิร์ดมากเกินไป
2. Domain หรือเว็บไซต์ที่เลือกใช้ต้องมีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
เว็บไซต์ที่คุณเลือกทำ Backlink ควรมีความน่าเชื่อถือสูง ทั้งในส่วนของการออกแบบหน้าเว็บไซต์ (UX/UI) ที่ดี และในส่วนของคะแนน Domain Authority (DA) ที่ไม่ต่ำกว่า 20 รวมถึงหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ทำ SEO สายเทา/สายดำ และเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมายด้วย เพราะอาจจะทำให้เว็บไซต์ของคุณโดนลงโทษจาก Google ได้ ตั้งแต่การปิดกั้นการมองเห็น ลดอันดับ ไปจนถึงการแบนเว็บไซต์ออกจากระบบของ Google
3. ให้ความสำคัญกับลิงก์แบบ Do Follow
อย่างที่เราทราบว่าประเภทของ Backlink ในส่วนของการส่งต่อค่าคะแนนความน่าเชื่อถือนั้น จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ Dofollow และ Nofollow ควรเน้นการสร้าง Dofollow Backlink เป็นหลัก เพราะลิงก์ประเภทนี้จะทำให้ Google สามารถตรวจจับและนำไปคิดคะแนนความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์คุณได้ ในขณะที่ Nofollow Backlink จะไม่นำไปคิดคะแนน แถมยังไม่ได้ส่งเสริมหรือให้ประโยชน์อะไรกับเว็บไซต์ของเรา เมื่อเทียบกับ Dofollow Backlink ซึ่งส่วนมากเราจะพบ Nofollow จากลิงก์ที่ถูกส่งมาจาก Social Media หรือเว็บบอร์ด
แจกวิธีหา Backlink อัปเดต 2025
จัดมาให้แล้วกับวิธีหา Backlink สร้าง Backlink เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ในปี 2025 รับรองว่าได้ผลจริง ส่งผลดีต่อการทำ SEO และเป็นที่ยอมรับของ Google อย่างแน่นอน เพราะเราใช้เทคนิคการทำ SEO สายขาวและไม่มีการละเมิดกฎของ Google แต่อย่างใด
1. หา Backlink แบบธรรมชาติ
วิธีแรกคือการหา Backlink แบบธรรมชาติ หรือ Natural Editorial Link ซึ่งเกิดจากการที่เว็บไซต์อื่นเห็นคุณค่าในเนื้อหาของคุณและนำไปอ้างอิง เหมือนการที่ผู้ใช้สร้างเนื้อหาเอง (User Generated Content) แล้วลิงก์กลับมาที่เว็บคุณ วิธีนี้สร้างความน่าเชื่อถือสูงในสายตา Google เพราะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ คุณสามารถทำได้โดย
- สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ เช่น บทความวิเคราะห์เจาะลึก ผลสำรวจตลาด หรือข้อมูลเฉพาะที่หาได้ยาก
- พัฒนาเครื่องมือออนไลน์ฟรี แบบทดสอบ หรือแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ
- แชร์ความรู้และประสบการณ์จริงที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
2. หา Domain มาสร้าง Backlink เอง
การหา Domain มาสร้าง Backlink เอง หรือ Manual Link Building คือการที่เราไปค้นหาว่า Domain ไหนมีเนื้อหาที่คล้ายคลึงกับเว็บไซต์เรา DR สูง ๆ หรือเหมาะกับการทำ Backlink บ้าง เพื่อสร้างและลงคอนเทนต์ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมสูง เมื่อได้ Domain มาแล้วก็ทำการติดต่อเว็บไซต์ดังกล่าว เพื่อขอลงบทความ อาจจะเป็นการทำ PR หรือแชร์เทคนิคต่าง ๆ ก็ได้ โดย Backlink รูปแบบนี้ก็จะมีทั้งฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
บทสรุปเกี่ยวกับ Backlick ที่ต้องรู้
Backlink คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการทำ SEO ที่ช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google ได้ดีขึ้น ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ และเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งในวันนี้คุณก็ได้ทราบแล้วว่า Backlink มีกี่ประเภท สำคัญอย่างไร และวิธีหา Backlink ต้องทำอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตามการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ใช่การทำ Backlink อย่างเดียว แต่จะต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพเว็บไซต์ด้านอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงการใช้งานให้ง่ายและสะดวก (UX/UI) การจัดการระบบหลังบ้าน และการสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าต่อผู้อ่าน เมื่อทำทุกอย่างควบคู่กันไป เว็บไซต์ของคุณจะมีโอกาสติดอันดับ SEO ได้อย่างยั่งยืน และสร้างการเติบโตให้ธุรกิจของคุณได้ในระยะยาว
บทความที่เกี่ยวข้อง

จดโดเมน .co.th ทำอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง จดที่ไหนดี 2025
