1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. สอนทำ SEO เว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก ครบจบใน 10 ขั้นตอน
10 วิธีทำ SEO เว็บไซต์
เผยแพร่เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2024 | แก้ไขเมื่อ: ธันวาคม 4, 2024

สอนทำ SEO เว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก ครบจบใน 10 ขั้นตอน

Table Of Contents

SEO เว็บไซต์เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจควรหันมาให้ความสนใจ หากคุณต้องการตีตลาดบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะกับธุรกิจ SME, E-Commerce หรือธุรกิจ B2B ที่ลูกค้ามองหาความน่าเชื่อถือเป็นหลัก เพราะ SEO สามารถสร้างผลลัพธ์ให้แก่ธุรกิจได้จริง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของยอดขาย การเติบโต โอกาส หรือการเป็นที่รู้จักก็ตาม ในฐานะที่ ANGA เป็นดิจิทัลเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO เราจะมาสอนทำ SEO เว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกบน Google ในปี 2025 ด้วย 10 ขั้นตอนที่เข้าใจง่าย แบบ Step by Step อ่านจบแล้วลงมือทำได้ทันที ไม่ต้องง้อบริษัทรับทำ SEO อีกต่อไป

พื้นฐาน SEO เว็บไซต์ที่ควรรู้ SEO คืออะไร?

SEO เว็บไซต์คือการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงตามเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหา (Search Engine) อย่าง Google, Yahoo, Baidu หรือ Bing และทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแสดงผลการค้นหา (Search Engine Results Page : SERP) เพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด อาทิ การเพิ่ม Website Traffic, การสร้าง Brand Awareness, การเพิ่มความน่าเชื่อถือ, การกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มโอกาสให้แก่ธุรกิจ เป็นต้น

ซึ่งคำว่า SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นกลยุทธ์การตลาดแบบ Organic โดยจะเป็นการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ ทำ SEO เว็บไซต์ไปทีละส่วน ผลลัพธ์ก็จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นให้เห็นภายในช่วง 3-6 เดือน เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับแล้ว มักจะติดอันดับในระยะยาว ทำให้มีคนมองเห็นและเข้ามาใช้งานเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง

SEO ต่างจากการยิงแอด อย่าง Google Ads (บางคนอาจจะเรียกว่า PPC หรือ SEM) ที่ต้องจ่ายเงิน เพื่อทำให้เว็บไซต์แสดงผลบนหน้าการค้นหา ถ้ามีคนคลิกที่เข้าไปในเว็บไซต์ผ่านโฆษณา คุณก็จะต้องเสียเงินให้ Google ทุกครั้งนั่นเอง (ถ้าคนคลิกเข้าเว็บไซต์จาก SEO เราจะไม่เสียเงิน)

ตัวอย่างการติดอันดับบนหน้าแรก Google ในรูปแบบของ Featured Snippet หรืออันดับ 0

สอนทำ SEO ติด Featured Snippet

แชร์ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO เว็บไซต์

“ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์ในระยะยาว การทำ SEO เหมาะกว่าการยิงแอดครับ เพราะการยิงแอดจะต้องลงเงินทุกวัน อยากสเกลก็ต้องเพิ่มเงินในการ Bid สู้กับคู่แข่ง ทำให้งบบานปลายและคุมได้ยาก ในด้านของการทำ SEO เว็บไซต์ ใครเริ่มก่อนก็มีโอกาสชนะมากกว่า ยิ่งถ้าคุณเป็นธุรกิจที่หวังผลระยะยาว มีการทำการตลาดออนไลน์มาอยู่แล้ว อย่าปล่อยให้คู่แข่งนำไปก่อนเด็ดขาด เริ่มทำ SEO ได้แล้วครับ เราจะได้ไม่เสียเวลาในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ Google และ User” – Piyawat Supsindumrong | Senior SEO Specialist at ANGA Bangkok

10 วิธีทำ SEO เว็บไซต์ สอนทำ SEO ให้ติดหน้าแรก 2025

อยากทำ SEO เป็นแต่มีงบประมาณจำกัด ไม่สามารถลงคอร์สเรียน SEO ได้ หรืออยู่ในช่วงตัดสินใจว่าควรจะทำ SEO เว็บไซต์ดีไหม ลองมาดูวิธีทำ SEO กันก่อนได้เลย เราพร้อมสอนทำ SEO ฟรีให้แก่คุณแล้ว มาดูว่า 10 วิธีทำ SEO เว็บไซต์ให้อันดับสูงขึ้นจนเหนือกว่าคู่แข่งในปี 2025 นี้จะต้องทำอะไรบ้าง (แอบกระซิบว่าเราลองมาแล้วว่าได้ผลจริง แถมยังยั่งยืนด้วย!)

10 วิธีทำ SEO เว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก 2024

1. ระบุเป้าหมายของการทำ SEO เว็บไซต์

หากจะทำ SEO เว็บไซต์อย่างจริงจัง คุณต้องระบุเป้าหมายในการทำ SEO ให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้ทิศทางการทำ SEO เปลี่ยนไปในระหว่างทางก่อนที่จะถึงเป้าหมายได้ โดยอาจระบุเป้าหมายเป็นขั้น ๆ ไป เช่น เว็บไซต์ติดอันดับ 1 ใน 10 ของ Google, เพิ่มยอด Traffic ให้ได้ XXX% หรืออยากให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา XXX% เป็นต้น

การทำ SEO มีความยืดหยุ่นสูง คุณสามารถติดตาม วิเคราะห์ และปรับปรุงกลยุทธ์ได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Google มีการอัปเดตอัลกอริทึมใหม่ ๆ เพื่อให้ SEO เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ (รู้ก่อน ทำก่อน ได้เปรียบมากกว่า)

2. วิเคราะห์และเปรียบเทียบเว็บไซต์กับคู่แข่ง

วิเคราะห์ SEO และเปรียบเทียบเว็บไซต์ของคุณกับคู่แข่ง เพื่อค้นหาจุดอ่อนและจุดแข็ง สิ่งที่คุณทำได้ดีกว่าคู่แข่งหรือสิ่งที่คู่แข่งทำได้ดีกว่าคุณ รู้ทันคู่แข่งว่าใช้กลยุทธ์อะไรในการทำ SEO และหาช่องว่างมาปรับปรุง SEO เว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม สิ่งที่คุณต้องนำมาวิเคราะห์ได้แก่

  • ภาพรวมเว็บไซต์ : Page Speed, Site Structure, Mobile Friendly, Content Structure ฯลฯ
  • On-Page SEO : เนื้อหา, URL, Meta Title, Meta Description, Keyword, Heading Tag, Link ฯลฯ
  • คีย์เวิร์ด : คู่แข่งใช้คีย์เวิร์ดคำไหนเป็นคีย์เวิร์ดหลักสำหรับธุรกิจ หรือช่วงนี้กำลังมุ่งทำคีย์เวิร์ดประเภทแบบไหนอยู่ (อ่านเพิ่มเติม : ประเภทของ Keyword)
  • Backlink : จำนวน Backlink, คุณภาพของ Backlink, แหล่งที่มาของ Backlink ฯลฯ

3. ออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะกับผู้ใช้งาน

เว็บไซต์ที่ติดอันดับดี ๆ มักจะเป็นเว็บไซต์ที่มีการออกแบบมาให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานหรือเหล่าลูกค้าใช้งานเว็บไซต์ได้ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด และพึงพอใจมากที่สุด ถ้าคุณอยากทำ SEO เว็บไซต์ให้ได้ผล ไม่ควรมองข้ามการปรับแต่งเว็บไซต์ เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience) โดยเด็ดขาด เช่น

  • มีโครงสร้างเว็บไซต์ที่เรียบง่าย ชัดเจน ไม่ซับซ้อน
  • เว็บไซต์โหลดเร็ว แสดงผลไว ตอบสนองทันที ไม่อืด ไม่ช้า ไม่มี Error
  • มีการจัดวางเมนูและปุ่มต่าง ๆ บนเว็บไซต์อย่างเป็นระเบียบ
  • องค์ประกอบบนเว็บไซต์เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้งาน สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
  • เลือกใช้สีและรูปแบบตัวอักษรที่อ่านง่าย เหมาะกับคนทุกวัย
  • มี FAQ หรือคำถามยอดฮิต สำหรับให้ข้อมูลเบื้องต้นแก่ผู้ใช้งาน
  • แสดงข้อมูลการติดต่อ อย่างเบอร์โทรศัพท์ ตำแหน่งที่ตั้ง หรืออีเมลให้ชัดเจน
  • เว็บไซต์สามารถแสดงผลได้ทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าผู้ใช้จะใช้งานเว็บไซต์ผ่านแท็บเล็ต มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ก็ตาม

4. เพิ่มความปลอดภัยให้แก่เว็บไซต์

ถ้าเว็บไซต์มีระบบรักษาความปลอดภัยจะทำให้เว็บไซต์น่าเชื่อถือ มีโอกาสลูกแฮ็กน้อย ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ผู้ใช้งานก็สบายใจ และช่วยดันอันดับเว็บไซต์ได้ด้วยเช่นกัน เช่น การติดตั้ง SSL Certificate, การติดตั้ง Security Plugin, การสำรองข้อมูลบนเว็บไซต์เป็นประจำ, การอัปเดตซอฟต์แวร์และปลั๊กอินอยู่เสมอ และการใช้รหัสผ่านเข้าหลังบ้านเว็บไซต์ที่คาดเดาได้ยาก เป็นต้น

SSL Certificate

5. ทำ Keyword Research ค้นหาคีย์เวิร์ดที่ใช่

การทำ Keyword Research เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการทำ SEO เว็บไซต์อย่างมาก เพราะคีย์เวิร์ด (Keyword) คือคำที่จะทำให้ธุรกิจของคุณไปปรากฏอยู่ในสายตาของผู้คน ดังนั้น การทำ Keyword Research จึงทำให้คุณรู้ว่าลูกค้าของคุณค้นหาคำว่าอะไร อยากรู้อะไร และใช้ภาษาแบบไหน จะบอกว่าเป็นการเรียนรู้และทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายก็ว่าได้ ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็น Ubersuggest, KWfinder, Google Keyword Planner, Ahrefs, SEMrush หรือการค้นหาบนหน้า Google ก็ตาม

แนะนำให้มองหาคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ สินค้า หรือบริการ, มี Search Volume ที่เหมาะสม ไม่สูงมากจนเกินไป, สะท้อนปัญหาที่ลูกค้าเจอ และตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งถ้าคุณสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับธุรกิจเจอ วางแผนการใช้คีย์เวิร์ดได้อย่างเหมาะสม และรู้ว่าควรใช้คีย์เวิร์ดคำไหนกับบทความใด คุณจะบรรลุเป้าหมายในการทำ SEO อย่างแน่นอน

6. เขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน

จุดประสงค์ของการทำ SEO เว็บไซต์ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ค้นหา ยิ่งเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาที่ครบเครื่องครบครันและลงลึกมากแค่ไหน ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อ SEO เว็บไซต์มากเท่านั้น เนื่องจากเนื้อหาที่มีคุณภาพเช่นนี้ จะทำให้ผู้อ่านใช้เวลาบนเว็บไซต์นาน และทำให้ Google เห็นคุณค่าของเว็บไซต์เรามากขึ้น โดยลักษณะของเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่ควรทำ มีดังนี้

  • เขียนเนื้อหาให้อ่านง่าย เข้าใจความหมายได้ทันที มีการอธิบายอย่างละเอียด
  • ใช้ภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจได้ หรือถ้ามีคำศัพท์เฉพาะก็ต้องอธิบายความหมายประกอบด้วย
  • เขียนเนื้อหาโดยยึดตามหลัก E-E-A-T Factor (Google แนะนำเอง!)
  • เขียนบทความ SEO โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ร่วมและรู้ลึกรู้จริงในเรื่องนั้น
  • เขียนเนื้อหาให้ตอบคำถามสิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการ (เขียนให้ตรงกับ Search Intent)
  • ใช้ข้อมูลที่อัปเดตใหม่ล่าสุดในเรื่องนั้น ๆ มาเขียนลงไปในเนื้อหาด้วย

7. ปรับแต่ง On-Page SEO ให้เหมาะสม

On-Page SEO คือการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและ Search Engine เข้าใจเนื้อหาในหน้านั้น ๆ ได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อ URL ด้วยคีย์เวิร์ดแบบสั้น ๆ และกระชับ, การใส่ Internal Link, การใส่ External Link, การใส่รูปภาพและ Alt Text, การเขียน Meta Title และ Meta Description, การใช้ Schema Markup, การกำหนด Heading Tag อย่างเหมาะสม, การใช้ Call to Action หรือการวางคีย์เวิร์ดให้กระจายอยู่หลาย ๆ จุดทั่วบทความ เป็นต้น

8. สร้าง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ

มาถึงฝั่ง Off-Page SEO หรือการทำ SEO จากข้างนอกเว็บไซต์กันบ้าง โดยการทำ Backlink หรือลิงก์ย้อนกลับนั้น เป็นการนำบทความหรือเนื้อหาไปลงที่เว็บไซต์อื่น และมีการใส่ลิงก์เว็บไซต์ของเราลงไป เพื่อให้คนที่อ่านเนื้อหาในเว็บไซต์ต้นทางสามารถคลิกมาที่เว็บไซต์ของเราได้ ซึ่ง Backlink คล้าย ๆ กับการส่งผลคะแนนโหวต ยิ่งมีจำนวนมาก ยิ่งเป็นผลดีต่อการทำ SEO เว็บไซต์

แต่การทำ Backlink ก็มีอยู่หลายศาสตร์ เพราะฉะนั้นต้องทำให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้ Google แบนด้วย แนะนำให้เลือกเว็บไซต์ที่มีคนรู้จักจำนวนมาก มีชื่อเสียง, มี website Traffic สูง, มีคะแนนเว็บไซต์ที่ดี, มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์คุณ และกระจายลงบนหลาย ๆ เว็บไซต์ ไม่ใช่เว็บไซต์เดียวจะดีที่สุด

Backlink

9. เพิ่ม Website Traffic จาก Social Media

Social Media เป็นช่องทางที่มีคนใช้งานจำนวนมากและใช้งานเป็นประจำทุกวัน ทำให้สามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างรวดเร็ว เวลาที่โพสต์คอนเทนต์ลงไป ลองแนบลิงก์บทความที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา หรือลิงก์หน้าหลักลงไปด้วย เพื่อเปิดทางให้คนคลิกไปที่เว็บไซต์ เพิ่ม Website Traffic และกระตุ้นยอดขายของธุรกิจ

นอกจากนี้ การที่บัญชี Social Media ของธุรกิจคุณได้รับ Engagement อย่างการคอมเมนต์ แชร์ หรือกดไลก์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คะแนนชื่อเสียงบนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่า Traffic จาก Social Media จะไม่ได้มีผลมากมาย แต่ก็ช่วยเรื่อง SEO เว็บไซต์ได้มากกว่าการที่ไม่มีเลย

10. ติดตามความคืบหน้าและวิเคราะห์ผลลัพธ์

อย่างที่บอกไปว่าการทำ SEO เว็บไซต์เป็นเรื่องที่ค่อยเป็นค่อยไป คุณจะเร่งให้เว็บไซต์ติดอันดับหลังโพสต์ภายใน 1-2 วันไม่ได้ โดยส่วนใหญ่จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน แต่ก็มีบางกรณีที่โพสต์วันนี้ พรุ่งนี้ติดอันดับเลยก็มี ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของเว็บไซต์ อายุโดเมน ความแข็งแกร่งของ SEO และคีย์เวิร์ดที่เลือก

แนะนำให้ติดตามความคืบหน้าของการทำ SEO เว็บไซต์เป็นระยะ เช่น รายสัปดาห์ รายเดือน รายสามเดือน รายหกเดือน และรายปี ด้วยเครื่องมือ Google Search Console หรืออื่น ๆ ที่ถนัด เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ในแต่ละช่วง และนำมาวิเคราะห์ว่ากลยุทธ์ SEO ที่เราทำอยู่ดีอยู่แล้ว หรือควรปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

บทสรุป

การทำ SEO เว็บไซต์ให้ติดอันดับใน 2024 มีความแตกต่างจากปี 2025 หลายเรื่อง หวังว่าการสอนทำ SEO ด้วย 10 ขั้นตอนที่เราได้แนะนำไปในบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณไม่มากก็น้อย ซึ่งเนื้อหาได้ถูกอัปเดตใหม่ล่าสุด คุณสามารถนำไปปรับใช้กับการทำ SEO บนเว็บไซต์ของคุณได้เลย อย่างไรก็ตามการทำ SEO ต้องอาศัยความใจเย็นและค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งเว็บไซต์ต้องเอื้อเฟื้อต่อการทำ SEO และยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่ส่งผลต่ออันดับ SEO เว็บไซต์บน Google ที่แม้แต่ Google เองก็ยังไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด แต่เรื่องที่ Google ให้ความสำคัญมาก ๆ คือคุณภาพของคอนเทนต์บนเว็บไซต์, ความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาในการทำ Backlink และการมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ของผู้ใช้งานตามที่เราได้สอนไป หากทำตามแล้วได้ผลยังไงอย่าลืมแวะมาบอกกันด้วยล่ะ!

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Organic Traffic คืออะไร พร้อมวิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์

Web Traffic คือผู้เข้าชมเว็บไซต์ ที่มีความสำคัญมาในการทำให้เว็บไซต์เติบโตและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Traffic มาได้จากหลายช่องทาง อาทิ Paid, Direct, Social Media, Referral และ Organic Traffic แต่ Traf
50

Breadcrumb Navigation ป้ายนำทางบนเว็บไซต์ ที่ส่งผลดีต่อ SEO

เว็บไซต์ส่วนใหญ่มีหน้าเว็บและข้อมูลเยอะมาก อาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกสับสนและหลงทางได้ การมีตัวช่วยนำทางบนเว็บไซต์หรือ Breadcrumb Navigation ติดตั้งไว้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับ
46

รู้จัก DeepSeek AI เอไอสัญชาติจีนที่กำลังมาแรงในตอนนี้

ต้องบอกว่าในปี 2025 นี้ แพลตฟอร์ม AI เติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลายด้านได้อีกด้วย คุณสามารถใช้ AI ในการทำงานแทน อย่างเขียนบทความ สรุปข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาข้อมูล เขี
49
th