1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. อัปเดตกลยุทธ์ SEO 2025 พาเว็บไซต์ไต่อันดับสูงบน Google
กลยุทธ์ SEO
เผยแพร่เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2025

อัปเดตกลยุทธ์ SEO 2025 พาเว็บไซต์ไต่อันดับสูงบน Google

Table Of Contents

SEO คือกลยุทธ์การตลาดที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับและเติบโตอย่างยั่งยืนบน Search Engine อย่าง Google ผ่านการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพตรงตามเกณฑ์ที่ Search Engine ต้องการ รวมถึงการสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วย หรือที่เรียกว่า Marketing SEO การทำ SEO เป็นวิธีที่นานาธุรกิจเลือกใช้ในการทำการตลาดในตอนนี้ บางคนอาจจะลงมือทำ SEO โดยมีเพียงความรู้จากการลงคอร์สเรียน เน้นทำตามทฤษฎี และไร้ซึ่งการวางกลยุทธ์ SEO (SEO Strategy) ใด ๆ หากเป็นเช่นนี้อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นได้ นอกจากวิธีทำ SEO ติดหน้าแรกหลัก ๆ ทั่วไปแล้ว คุณใช้กลยุทธ์ SEO ที่เหมาะสมร่วมด้วย มาดูกันว่าวันนี้ ANGA จะมีกลยุทธ์ SEO อะไรมาฝากกันบ้าง พร้อมอธิบายความสำคัญของการใช้กลยุทธ์ในการทำ SEO ให้ทราบกันด้วย

กลยุทธ์ SEO คืออะไร

กลยุทธ์ SEO คือการวางแผนและดำเนินการตามขั้นตอนที่ชัดเจนเพื่อพัฒนาเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนหน้าผลการค้นหาของ Google โดยครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยคำค้นหา (Keyword Research) การวิเคราะห์คู่แข่ง และการปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ให้ตรงตามมาตรฐานของ Search Engine ซึ่งการวางกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีการกำหนดเป้าหมายและแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน พร้อมทั้งเตรียมแนวทางรองรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น การอัปเดตอัลกอริทึมของ Google หรือการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคู่แข่ง ผู้ที่ทำ SEO จึงต้องติดตามข้อมูลข่าวสารและการอัปเดตใหม่ ๆ อยู่สม่ำเสมอ

ความสำคัญของการวางกลยุทธ์ SEO

การวางกลยุทธ์ SEO มีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Google เพราะเป็นการกำหนดแผนงานและเป้าหมายอย่างชัดเจน ทำให้เจ้าของเว็บไซต์รู้ว่าต้องทำอะไรบ้างเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ สร้างยอดขาย หรือสร้างการรับรู้แบรนด์ของคุณ กลยุทธ์ SEO ที่ดีช่วยให้เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณต้องการอะไร พวกเขาค้นหาข้อมูลด้วยคำอะไร และชอบเนื้อหาแบบไหน ข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์มากในการสร้างเนื้อหาและปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Google ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

  • รู้จักกลุ่มเป้าหมาย รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไรจากการค้นหา
  • สามารถเลือกคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่เหมาะสมกับธุรกิจได้
  • ทราบว่าควรใช้คีย์เวิร์ดแบบไหน ในการกระตุ้นยอดขายหรือเพิ่ม Traffic
  • ทำให้ทิศทางการทำ SEO และการสร้างคอนเทนต์มีความชัดเจน
  • ปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับ Search Engine ได้อย่างถูกต้อง
  • สามารถติดตามและวัดผลการทำ SEO ได้อย่างเป็นระบบและแม่นยำ

หากคุณเริ่มต้นลงมือทำ SEO โดยไร้การวางแผนหรือใช้กลยุทธ์ อาจทำให้เกิดผลเสียต่อธุรกิจมากกว่าที่คิดได้ อย่างแรกเลยคือการเสียเวลาในการทุ่มเทไปกับวิธีทำ SEO แบบไม่มีทิศทาง ต่อมาคือการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากการทำงานที่ผิดพลาด เพราะไม่มีแบบแผน และสุดท้ายเลยคือเว็บไซต์ดูไม่มีความน่าเชื่อถือ​ ทำให้ไม่ถูกดึงไปจัดอันดับนั่นเอง

3 กลยุทธ์ SEO (SEO Strategy) ที่น่าสนใจในปี 2025

กลยุทธ์ SEO ก็เหมือนกลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) ตรงที่มีหลากหลายแนวคิด หลากหลายวิธีการ และมีการใช้เทคนิคที่แตกต่างกันออกไป บริษัทรับทำ SEO แต่ละแห่งก็จะมีการใช้กลยุทธ์ SEO ที่แตกต่างกัน ซึ่งบางคนก็อาจจะนำประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาปรับใช้ จนทำให้ค้นพบกลยุทธ์ที่ได้ผลจริง และเกิดเป็นกลยุทธ์ SEO ใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งรวมไปถึงกลยุทธ์การทำ SEO สำหรับธุรกิจต่าง ๆ อย่าง SEO Ecommerce หรือ SEO คลินิกความงามด้วยเช่นกัน เพราะเหตุนี้กลยุทธ์ SEO จึงเป็นเหมือนแนวทางที่คุณสามารถเลือกให้เหมาะกับเป้าหมายของธุรกิจได้ และในวันนี้แองก้าก็ได้คัดเลือกกลยุทธ์ SEO ที่น่าสนใจมาให้คุณรู้จักกัน ตามไปดูกันว่าจะมีกลยุทธ์ใดกันบ้าง

1. ASEO

ASEO หรือ Adaptive Search Engine Optimization คือกลยุทธ์การทำ SEO รูปแบบใหม่ที่มุ่งเน้นการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โดยเฉพาะในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ แนวคิดหลักของ ASEO คือการพัฒนาเว็บไซต์ให้ติดอันดับได้ดีทั้งบน Search Engine และแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งาน

  • Technical Issues การทำ SEO Audit เพื่อจัดการปัญหาเชิงเทคนิคของเว็บไซต์
  • SXO (Search Experience Optimization) การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ทั้ง SEO และประสบการณ์ผู้ใช้
  • External Signal สัญญาณจากภายนอกที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
  • Link Building การสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
  • SILO-based Structure การจัดระเบียบเนื้อหาให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจน เชื่อมโยงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันด้วย Internal Link
  • High-quality Content การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงตามหลัก E-E-A-T Factor 
  • Keyword Research & Intent การวิจัยคำค้นหาและทำความเข้าใจเจตนาของผู้ใช้ เพื่อสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด

2. Semantic SEO

Semantic SEO คือกลยุทธ์การทำ SEO ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างเนื้อหาที่มีความหมายและบริบทที่ครบถ้วน มุ่งเน้นการเข้าใจเจตนาของผู้ใช้งานและสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์อย่างครอบคลุม ไม่ใช่เพียงแค่การใส่คำค้นหาลงในเนื้อหาเท่านั้น แต่เป็นการพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณภาพและเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ ซึ่ง Semantic SEO จะช่วยให้ Google เข้าใจความหมายและบริบทของเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับในตำแหน่งที่ดี ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับการทำ SEO ในยุคที่ Google ให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหามากกว่าปริมาณ

  • Silo Based Structure การจัดโครงสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน เชื่อมโยงด้วย Internal Link ตั้งแต่หน้าหลักถึงบทความย่อย
  • URL Structured Silo การจัดโครงสร้าง URL ให้สอดคล้องกับหมวดหมู่เนื้อหา
  • Topic Clustering การจัดกลุ่มเนื้อหาที่มีหน้าหลัก ครอบคลุมภาพรวมและหน้ารอง เพื่ออธิบายรายละเอียดแต่ละประเด็น
  • User intent การเข้าใจเจตนาการค้นหาของผู้ใช้ เพื่อสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์พวกเขา
  • Contextual Relevance การใช้คำที่เกี่ยวข้อง (LSI Keywords) เพื่อให้ Google เข้าใจความหมายและจุดประสงค์ของเนื้อหาได้ชัดเจน
  • NLP (Natural Language Processing) การใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติในการเขียนเนื้อหา
  • Schema Markup การใช้โค้ดที่ช่วยให้ Google เข้าใจประเภทและความสัมพันธ์ของข้อมูลบนเว็บไซต์
  • Google Knowledge Graph การเชื่อมโยงข้อมูลให้สอดคล้องกับฐานความรู้ของ Google เพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ของข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น

Link Building SEO

กลยุทธ์ Link Building เป็นกลยุทธ์ SEO ที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ในสายตาของ Google ผ่านการเชื่อมโยงลิงก์ทั้งภายในและภายนอกเว็บไซต์ การทำ Link Building ที่มีคุณภาพไม่เพียงช่วยเพิ่มอันดับการค้นหา แต่ยังช่วยนำทราฟฟิกมาสู่เว็บไซต์และลดอัตราการตีกลับของผู้ใช้งานด้วย

  • สร้างเนื้อหาคุณภาพสูง เพื่อดึงดูด Natural Backlink จากเว็บไซต์อื่น
  • เพิ่ม Internal Link เชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์อย่างเป็นระบบ
  • ใช้ Anchor Text ที่มีคีย์เวิร์ดสำคัญแต่เป็นธรรมชาติ
  • สร้าง Infographic ที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มโอกาสได้รับ Backlink อ้างอิงจากเว็บไซต์อื่น

บทสรุป

กลยุทธ์ SEO เป็นหนึ่งในหนทางในการทำให้เว็บไซต์ขึ้นไปอยู่ในหน้าแรกของ Google ซึ่งก็มีให้เลือกนำไปปรับใช้หลายกลยุทธ์ด้วยกัน โดยกลยุทธ์ SEO  ที่น่าสนใจในปี 2025 คือ ASEO, Semantic SEO และ Link Building อย่างไรก็ตามคุณไม่จำเป็นต้องเพียงกลยุทธ์ใดกลยุทธ์หนึ่ง และไม่จำเป็นต้องใช้ครบทุกกลยุทธ์ตามที่กล่าวมา ลองเลือกกลยุทธ์ที่มีแนวคิดและแนวทางตอบโจทย์กับธุรกิจคุณที่สุด สิ่งสำคัญเลยคือคุณต้องมีการวิเคราะห์และวางแผนการทำงานที่เป็นขั้นตอนอย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเลือกใช้บริการดิจิทัลเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO แทน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Organic Traffic คืออะไร พร้อมวิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์

Web Traffic คือผู้เข้าชมเว็บไซต์ ที่มีความสำคัญมาในการทำให้เว็บไซต์เติบโตและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Traffic มาได้จากหลายช่องทาง อาทิ Paid, Direct, Social Media, Referral และ Organic Traffic แต่ Traf
50

Breadcrumb Navigation ป้ายนำทางบนเว็บไซต์ ที่ส่งผลดีต่อ SEO

เว็บไซต์ส่วนใหญ่มีหน้าเว็บและข้อมูลเยอะมาก อาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกสับสนและหลงทางได้ การมีตัวช่วยนำทางบนเว็บไซต์หรือ Breadcrumb Navigation ติดตั้งไว้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับ
46

รู้จัก DeepSeek AI เอไอสัญชาติจีนที่กำลังมาแรงในตอนนี้

ต้องบอกว่าในปี 2025 นี้ แพลตฟอร์ม AI เติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลายด้านได้อีกด้วย คุณสามารถใช้ AI ในการทำงานแทน อย่างเขียนบทความ สรุปข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาข้อมูล เขี
50
th