1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Screaming Frog เครื่องมือ SEO ใช้ทำ Technical Audit
Screaming Frog
เผยแพร่เมื่อ: พฤษภาคม 8, 2025

Screaming Frog เครื่องมือ SEO ใช้ทำ Technical Audit

Table Of Contents

SEO คือการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรกับเครื่องมือค้นหา (Search Engine) และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งการทำ SEO ประกอบไปด้วย On-Page SEO Off-Page SEO และ Technical SEO ทั้ง 3 องค์ประกอบนี้มีความสำคัญ แต่ก็ต้องอาศัยเครื่องมือ SEO เข้ามาช่วย จึงจะสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งและแก้ไขปรับปรุงปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที บทความนี้ ANGA (บริษัทรับทำ SEO) จะพาคุณไปเจาะลึก “Screaming Frog” เครื่องมือใช้ตรวจสอบ SEO Issues สำหรับทำ SEO Technical Audit ที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมและปัญหาของเว็บไซต์ได้สะดวกมากขึ้น นอกจากจะลดระยะเวลาในการทำงานลงแล้ว ยังช่วยให้คุณปรับปรุงแก้ไขเว็บไซต์ได้อย่างตรงจุด เพื่อประสิทธิภาพของการทำ SEO ที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

Screaming Frog

Screaming Frog คืออะไร

Screaming Frog คือเครื่องมือตรวจสอบเว็บไซต์ สำหรับการทำ SEO (Search Engine Optimization) ที่จะเน้นไปที่การทำ Technical SEO เป็นหลัก Screaming Frog สามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมครบทุกหน้า ซึ่งจะมาพร้อมการแจ้งสถานะและปัญหาที่ควรแก้ไขในแต่ละหน้า เช่น Broken Links, Redirects, Duplicate Content, XML Sitemaps ฯลฯ ทำให้ง่ายต่อการทำงานของ SEO Specialist อย่างมาก เพราะไม่ต้องลงมือไล่ตรวจสอบและวิเคราะห์ทีละหน้าด้วยตัวเอง

Screaming Frog เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ทั้งเว็บไซต์ขนาดเล็กและเว็บไซต์ขนาดใหญ่ นอกเหนือจากการดูและกรองข้อมูลได้ทันทีระหว่างการทำงานของโปรแกรมแล้ว ยังสามารถส่งออกข้อมูล SEO บนเว็บไซต์ไปยังสเปรดชีต (Spreadsheet) เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงเว็บไซต์ได้ด้วย

Screaming Frog มีการทำงานอย่างไร

การทำงานของ Screaming Frog คล้ายกับวิธีที่ Google ท่องเว็บ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Screaming Frog SEO Spider” นั่นเอง โดนจะเริ่มต้นไต่เว็บจากการรับ URL ต้นทาง จากนั้นจะค้นหาลิงก์ในโค้ด HTML ของหน้านั้น แล้วไต่ตามลิงก์เหล่านั้นไปทีละหน้าเรื่อย ๆ ด้วยวิธีการแบบ breadth-first คือตรวจดูทุกลิงก์ในระดับชั้นเดียวกันก่อนแล้วค่อยไปชั้นถัดไป ระหว่างการทำงานโปรแกรมจะเก็บข้อมูลสำคัญ เช่น Title, Meta Description, HTTP Status Codes, Internal Link, External Link และข้อมูล SEO อื่น ๆ คุณสามารถกำหนดค่าต่าง ๆ ได้ เช่น ความลึกในการไต่ จำนวน URL สูงสุด หรือเลือกให้ตรวจเฉพาะโครงสร้าง HTML หรือรวมถึงการเรนเดอร์ JavaScript ด้วยเช่นกัน

Screaming Frog SEO Spider

Screaming Frog จำเป็นแค่ไหนในการทำ SEO

ช่วยประหยัดเวลาในการตรวจสอบเว็บไซต์ จากที่อาจต้องใช้เวลาเป็นวันให้เหลือเพียงไม่กี่นาที
ลดความผิดพลาดจากการตรวจสอบด้วยตัวเอง ที่มักจะมองข้ามปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ บนเว็บไซต์
ทำให้เห็นภาพรวมของปัญหาทั้งหมดในครั้งเดียว ช่วยให้วางแผนแก้ไขได้อย่างเป็นระบบ
ช่วยให้ตัดสินใจปรับปรุงเว็บไซต์ได้อย่างมีข้อมูลรองรับ ไม่ใช่แค่คาดเดาไปเอง
ทำให้งาน Technical SEO ที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่าย คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคก็สามารถทำได้
ช่วยหาโอกาสในการปรับปรุงที่คู่แข่งมองข้าม ทำให้เว็บไซต์คุณมีข้อได้เปรียบ
ทำให้รายงานผล SEO มีข้อมูลเชิงลึกและน่าเชื่อถือ ช่วยในการนำเสนอลูกค้าหรือผู้บริหาร
ช่วยติดตามการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ เปรียบเทียบก่อน-หลังการปรับปรุงได้ชัดเจน
ทำให้การตรวจสอบเว็บไซต์ขนาดใหญ่เป็นไปได้ ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลย หากทำด้วยมือ

แนะนำฟีเจอร์น่าสนใจบน Screaming Frog

เราเชื่อว่าคุณคงอยากจะรู้ว่า Screaming Frog ทำอะไรได้บ้าง? Screaming Frog สามารถใช้ตรวจสอบเว็บไซต์ได้อย่างครบวงจร เรามาลองดูฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่น่าสนใจกัน

1. Find Broken Links

Find Broken Links เป็นฟีเจอร์ช่วยค้นหาลิงก์เสีย (404 Not Found) และข้อผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์ (HTTP Error 500 หรือ 500 Internal Server Error) คุณสามารถส่งออกข้อมูลเหล่านี้พร้อมกับ URL ต้นทางเพื่อนำไปแก้ไขหรือส่งต่อให้ Web Developer ได้ โดยการแก้ไขลิงก์เสียเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีบนเว็บไซต์และยังส่งผลดีต่ออันดับ SEO ด้วย

2. Audit Redirects

Audit Redirects ฟีเจอร์ตรวจสอบการเปลี่ยนเส้นทาง ที่คุณสามารถค้นหาการเปลี่ยนเส้นทางได้ทั้งแบบชั่วคราวและถาวร พร้อมระบุ Redirect chains และ loops ของการเปลี่ยนเส้นทางที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถอัปโหลดรายการ URL เพื่อตรวจสอบในกรณีที่มีการย้ายเว็บไซต์ (Migrate Website) ฟีเจอร์นี้มีความสำคัญอย่างมากเมื่อคุณต้องการปรับโครงสร้างเว็บไซต์หรือย้ายโดเมนใหม่

3. Analyse Page Titles & Meta Data

Analyse Page Titles & Meta Data ฟีเจอร์วิเคราะห์ Title (ชื่อหน้า) และ Meta Description (คำอธิบายหน้า)ระหว่างการตรวจสอบเว็บไซต์ พร้อมระบุส่วนที่ยาวเกินไป สั้นเกินไป ขาดหายไป หรือซ้ำกันทั่วทั้งเว็บไซต์ การตรวจสอบและปรับปรุงเมตาดาต้าเป็นส่วนสำคัญของการทำ On-page SEO ที่ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับได้ดีขึ้น

4. Discover Duplicate Content

Discover Duplicate Content ฟีเจอร์ใช้ค้นหาเนื้อหาซ้ำซ้อนบนเว็บไซต์ โดย Screaming Frog จะแสดง URL ที่มีเนื้อหาเหมือนกัน ด้วยการตรวจสอบอัลกอริทึม md5 ตรวจสอบองค์ประกอบที่ซ้ำกันบางส่วน เช่น ชื่อหน้า คำอธิบาย หรือหัวข้อ และค้นหาหน้าที่มีเนื้อหาน้อย การแก้ไขเนื้อหาที่ซ้ำกันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์และป้องกันปัญหา Cannibalization ที่อาจทำให้อันดับตกได้

5. Extract Data with XPath

Extract Data with XPath คือดึงข้อมูลด้วย XPath ซึ่งจะเป็นการรวบรวมข้อมูลจาก HTML ของหน้าเว็บโดยใช้ CSS Path, XPath หรือ regex เช่น โซเชียลเมตาแท็ก หัวข้อเพิ่มเติม ราคา รหัสสินค้า หรืออื่น ๆ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักวิเคราะห์ที่ต้องการข้อมูลเฉพาะจากเว็บไซต์เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์หรือปรับปรุง

6. Review Robots & Directives

Review Robots & Directives ใช้ ตรวจสอบ Robots และคำสั่งต่าง ๆ อย่างดู URL ที่ถูกบล็อกโดย robots.txt, meta robots หรือคำสั่ง X-Robots-Tag เช่น ‘noindex’ หรือ ‘nofollow’ รวมถึง canonicals และ rel=”next” และ rel=”prev” การตรวจสอบเหล่านี้ช่วยให้คุณแน่ใจว่าหน้าเว็บของคุณถูกเข้าถึงและจัดทำดัชนีได้อย่างถูกต้อง

7. Generate XML Sitemaps

Generate XML Sitemaps การสร้าง XML Sitemaps และ Image XML Sitemaps อย่างรวดเร็ว พร้อมการกำหนดค่าขั้นสูงเกี่ยวกับ URL ที่ต้องการรวม last modified, priority และ change frequency ไซต์แมพที่ดีช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์คุณได้ดีขึ้น และช่วยในการจัดทำดัชนีหน้าเว็บใหม่ได้เร็วขึ้น

8. Integrate with GA, GSC & PSI

Integrate with GA, GSC & PSI เป็นฟีเจอร์เชื่อมต่อกับ API ของ Google Analytics, Google Search Console และ PageSpeed Insights เพื่อดึงข้อมูลผู้ใช้และประสิทธิภาพสำหรับทุก URL ในการตรวจสอบเพื่อการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การเชื่อมต่อข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของเว็บไซต์และสามารถวางแผนพัฒนาได้อย่างตรงจุด

9. Crawl JavaScript Websites

Crawl JavaScript Websites สำหรับตรวจสอบเว็บไซต์ JavaScript เรนเดอร์หน้าเว็บโดยใช้ Chromium WRS แบบบูรณาการเพื่อตรวจสอบเว็บไซต์ที่ใช้ JavaScript มาก เช่น Angular, React และ Vue.js ปัจจุบันเว็บไซต์ส่วนใหญ่ใช้ JavaScript กันมากขึ้น การตรวจสอบการทำงานของ JavaScript จึงมีความสำคัญต่อการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพ

10. Visualise Site Architecture

Visualise Site Architecture ฟีเจอร์การแสดงภาพโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure)  พร้อมประเมินโครงสร้าง Internal Link และโครงสร้าง URL โดยใช้แผนภาพแบบ interactive crawl, directory force-directed diagrams และการแสดงผลเว็บไซต์แบบ tree graph การมองเห็นโครงสร้างเว็บไซต์ในภาพรวมช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการเชื่อมโยงหน้าต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

11. Schedule Audits

Schedule Audit สำหรับกำหนดการตรวจสอบให้ทำงานตามช่วงเวลาที่เลือกและส่งออกข้อมูลการตรวจสอบไปยังตำแหน่งใดก็ได้ รวมถึง Google Sheets หรือทำให้เป็นอัตโนมัติทั้งหมดผ่านคอมมานด์ไลน์ การตรวจสอบอัตโนมัติช่วยประหยัดเวลาและทำให้คุณสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ได้อย่างสม่ำเสมอ

12. Compare Crawls & Staging

Compare Crawls & Staging ติดตามความคืบหน้าของปัญหาและโอกาสด้าน SEO และดูสิ่งที่เปลี่ยนแปลงระหว่างการตรวจสอบแต่ละครั้ง เปรียบเทียบ staging กับสภาพแวดล้อมการผลิตโดยใช้ URL Mapping ขั้นสูง ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อคุณต้องการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงบนเว็บไซต์ก่อนนำขึ้นระบบจริง

วิธีติดตั้ง Screaming Frog

การติดตั้ง Screaming Frog ทำได้ง่าย ๆ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์หลัก (https://www.screamingfrog.co.uk/) คลิกปุ่มดาวน์โหลดตามระบบปฏิบัติการที่คุณใช้ แล้วเปิดไฟล์ติดตั้งและทำตามขั้นตอน โปรแกรมนี้รองรับ Windows, Mac และ Ubuntu Linux ซึ่งคุณต้องมีสเปคขั้นต่ำเป็นระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิตและ RAM อย่างน้อย 4GB เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

  • สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์หลักของ Screaming Frog
  • รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, Mac และ Ubuntu Linux (ไม่รองรับ Windows XP)
  • ต้องใช้ระบบปฏิบัติการแบบ 64 บิต และมี RAM อย่างน้อย 4GB
  • สำหรับการตรวจสอบไม่เกิน 200,000 URL ควรมี RAM 8GB
  • หากต้องการตรวจสอบมากกว่า 1 ล้าน URL ควรใช้ SSD และ RAM 16GB ขึ้นไป
  • สามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งใน RAM หรือบันทึกลงฐานข้อมูลในฮาร์ดดิสก์

Screaming Frog ฟรีไหม ราคาเท่าไหร่

Screaming Frog มีให้ใช้ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน โดยเวอร์ชันฟรีมีข้อจำกัดอยู่ที่การตรวจสอบได้แค่ 500 URL ต่อครั้งเท่านั้น แต่คุณสามารถตรวจสอบได้กี่ครั้งก็ได้ เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กหรือผู้ที่ต้องการทดลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ ส่วนเวอร์ชันเต็มราคาอยู่ที่ 199 ปอนด์ต่อปี (ประมาณ 9,000 บาท) ซึ่งไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวน URL และมีฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย สำหรับองค์กรที่ต้องการซื้อหลายไลเซนส์ จะได้ส่วนลดตามจำนวนด้วย

บทสรุป

หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือช่วยทำ SEO Technical Audit ดี ๆ สักตัว Screaming Frog คือตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย แต่ต้องบอกก่อนว่า Screaming Frog SEO Spider เหมาะกับคนที่คลุกคลีหรือมีประสบการณ์ในการทำ SEO มาแล้วในระดับหนึ่ง เข้าใจทั้งปัญหาและวิธีการแก้ไข เพื่อให้ประสิทธิภาพของ SEO ดียิ่งขึ้น สำหรับมือใหม่หัดทำ SEO เครื่องมือนี้อาจจะยังไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามลองเริ่มต้นทดลองใช้เวอร์ชันฟรีก่อนได้เลย สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาเอเจนซี่ที่มีบริการรับทำ SEO สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากแองก้าได้ที่ LINE @anga หรือโทร 02-023-8899

ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ https://www.screamingfrog.co.uk/

บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องกับโครงการ AMC (ANGA Management Candidates) รุ่น 2 ที่ใคร ๆ หลายคนต่างรอคอย หลังจากที่โครงการ AMC รุ่น 1 ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก  เพราะเป็นโครงการที
88

Demand Gen คือโฆษณารูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณา Google Ads พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วย Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Discovery Ads โดยการดึงเอาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้งาน พร้
101

DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากที่สุด

อย่างที่เรารู้กันว่า Google เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แล้วรู้ไหมว่าใครคืออันดับสอง? คำตอบคือ DuckDuckGo นั่นเอง ซึ่ง DuckDuckGo คือ​ Search Engine ที่มีจุดเด่นด้านความปลอดภัยท
96
th