HTML คืออะไร? โครงสร้างพื้นฐานในเว็บไซต์ที่สำคัญต่อการทำ SEO
เว็บไซต์คือเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ เพราะเปรียบเสมือนหน้าร้านที่เอาไว้รองรับลูกค้าที่เข้ามาผ่านการค้นหาบน Google หากเจาะลึกลงไปในองค์ประกอบของการสร้างเว็บไซต์ละก็ มันก็มีหลายอย่างมากที่สำคัญ และหนึ่งในสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย แม้ว่าคุณจะใช้ WordPress ก็ตามแต่ นั่นก็คือ”HTML” นั่นเอง เรามาทำความเข้าใจและทำความรู้จักกันว่า HTML คืออะไร? HTML ย่อมาจากอะไร? และทำไมถึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำเว็บไซต์และ SEO (Search Engine Optimization) ผ่านบทความนี้กับ ANGA กันได้เลย
HTML คืออะไร HTML ย่อมาจากอะไร
HTML คือภาษามาร์คอัพพื้นฐานที่ใช้สร้างและกำหนดโครงสร้างของเว็บเพจ (Web Page) ที่ย่อมาจาก Hypertext Markup Language โดย HTML ได้รับการพัฒนาและกำหนดมาตรฐานจากองค์กร World Wide Web Consortium (W3C) เว็บไซต์ทั่วโลกกว่า 99% ใช้ HTML ในการแสดงผลหน้าเว็บ ร่วมกับ CSS ที่ช่วยจัดการด้านการแสดงผลและ JavaScript ที่เพิ่มการโต้ตอบกับผู้ใช้งาน
การทำงานของ HTML จะอาศัยระบบ “แท็ก” (Tags) ในการกำหนดโครงสร้างและรูปแบบการแสดงผลของเนื้อหา เช่น การกำหนดหัวข้อด้วยแท็ก <h1>, การแบ่งย่อหน้าด้วยแท็ก <p> หรือการแสดงรูปภาพด้วยแท็ก <img> โดยแท็กส่วนใหญ่จะมีทั้งแท็กเปิดและแท็กปิด เพื่อกำหนดขอบเขตของเนื้อหาที่ต้องการจัดรูปแบบ
โครงสร้างหลักของ HTML มีอยู่ 2 ส่วน ได้แก่
- ส่วน Head : เป็นส่วนหัวของหน้าเว็บไซต์ที่เก็บข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับหน้าเว็บ เช่น ชื่อเรื่อง (Title), Meta Tags และการเชื่อมโยงกับไฟล์ CSS หรือ JavaScript
- ส่วน Body : เป็นส่วนที่เก็บเนื้อหาทั้งหมดที่จะแสดงผลบนหน้าเว็บ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือองค์ประกอบอื่น ๆ
HTML มีความสำคัญอย่างไรต่อเว็บไซต์ที่ทำ SEO
- HTML คือโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้เว็บเบราว์เซอร์เข้าใจวิธีแสดงผลเนื้อหา
- ช่วยจัดระเบียบเนื้อหาให้เป็นหมวดหมู่ผ่านการใช้แท็กต่าง ๆ
- ทำให้สามารถแก้ไขและปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้อย่างแม่นยำ
- การใช้แท็ก HTML อย่างถูกต้อง (เช่น <h1>, <title>, <meta>) มีผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์
- ช่วยกำหนด Meta Description และ Title Tags ที่มีผลต่อการแสดงผลในหน้า SERP
- รองรับการทำงานร่วมกับ CSS และ JavaScript เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่สมบูรณ์
- ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างและลำดับความสำคัญของเนื้อหา
- ทำให้สามารถเพิ่ม Alt Text ให้รูปภาพเพื่อให้ Google เข้าใจเนื้อหาภาพได้ดีขึ้น
HTML Tags ที่ได้รับความนิยมและใช้งานบ่อย ๆ มีอะไรบ้าง
HTML Tags มีบทบาทสำคัญในการกำหนดโครงสร้างและรูปแบบการแสดงผลของเว็บไซต์ โดยทั่วไป Tags จะประกอบด้วยแท็กเปิด (<tag>) และแท็กปิด (</tag>) เพื่อกำหนดขอบเขตของเนื้อหา แต่บางแท็กก็เป็นแบบเดี่ยวที่ไม่ต้องมีแท็กปิด เช่น <img> หรือ <br> สำหรับ Tags ที่ได้รับความนิยมหรือถูกนำไปใช้งานบ่อย ๆ มีดังนี้
Tags สำหรับโครงสร้างหลัก
- <html> – แท็กหลักที่ครอบคลุมทั้งหน้าเว็บ
- <head> – ส่วนหัวของเอกสารที่เก็บข้อมูลสำคัญ
- <body> – ส่วนเนื้อหาที่แสดงผลบนหน้าเว็บ
Tags สำหรับหัวข้อและข้อความ (เนื้อหา)
- <h1> ถึง <h6> – กำหนดขนาดหัวข้อจากใหญ่ไปเล็ก
- <p> – กำหนดย่อหน้า
- <br> – ขึ้นบรรทัดใหม่
- <strong> หรือ <b> – ตัวหนา
- <em> หรือ <i> – ตัวเอียง
- <u> – ขีดเส้นใต้
Tags สำหรับลิงก์และรูปภาพ
- <a href=”URL”> – สร้างลิงก์ไปยัง URL อื่น
- <img src=”path” alt=”text”> – แสดงรูปภาพพร้อมข้อความทดแทน
Tags สำหรับจัดรูปแบบเนื้อหา
- <div> – จัดกลุ่มเนื้อหาเป็นบล็อก
- <span> – จัดกลุ่มเนื้อหาแบบอินไลน์
- <ul> และ <li> – สร้างรายการแบบไม่เรียงลำดับ
- <ol> และ <li> – สร้างรายการแบบเรียงลำดับ
Tags สำหรับ SEO และ Meta Data
- <title> – กำหนดชื่อหน้าเว็บ
- <meta> – กำหนดข้อมูล meta ต่างๆ
- <link> – เชื่อมโยงไฟล์ CSS หรือไอคอน
Tags สำหรับฟอร์ม
- <form> – สร้างฟอร์ม
- <input> – สร้างช่องกรอกข้อมูล
- <textarea> – สร้างกล่องข้อความหลายบรรทัด
- <button> – สร้างปุ่มกด
- <select> และ <option> – สร้างเมนูแบบเลือก
แนะนำคำศัพท์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ HTML
- Web Page – หน้าเอกสารแต่ละหน้าที่แสดงผลบนเว็บเบราว์เซอร์
- Website – กลุ่มของหน้าเว็บเพจหลาย ๆ หน้าที่เชื่อมโยงกัน ภายใต้โดเมนเดียวกัน
- Browser – โปรแกรมที่ใช้ในการเปิดดูเว็บไซต์ เช่น Chrome, Firefox, Safari
- Domain Name – ชื่อเว็บไซต์ที่ใช้ในการเข้าถึง เช่น www. example .com
- Web Hosting – พื้นที่เก็บไฟล์เว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์
- Cache – หน่วยความจำชั่วคราวที่เก็บข้อมูลเว็บไซต์เพื่อโหลดเร็วขึ้น
- URL (Uniform Resource Locator) – ที่อยู่เฉพาะของแต่ละหน้าเว็บ
- Meta Tags – แท็กพิเศษที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเว็บแก่เสิร์ชเอนจิน
- SEO (Search Engine Optimization) – การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหา
- Responsive Design – การออกแบบเว็บให้แสดงผลได้ดีบนทุกอุปกรณ์
- CSS (Cascading Style Sheets) – ภาษาที่ใช้จัดการรูปแบบการแสดงผลของเว็บ
- JavaScript – ภาษาโปรแกรมมิ่งที่ใช้สร้างการโต้ตอบบนหน้าเว็บ
- CMS (Content Management System) – ระบบจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ เช่น WordPress
- Sitemap – แผนผังแสดงโครงสร้างและการเชื่อมโยงของหน้าต่างๆ ในเว็บไซต์
- HTTP/HTTPS – โปรโตคอลที่ใช้ในการส่งข้อมูลระหว่างเบราว์เซอร์กับเซิร์ฟเวอร์
บทสรุป
หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจไปแล้วว่า HTML คืออะไร พร้อมกับรู้จักโครงสร้างและความสำคัญ จะเห็นได้ว่า HTML คือภาษามาร์คอัพที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างและพัฒนาเว็บไซต์อย่างมาก ด้วยเหตุนี้ การเข้าใจ HTML จึงเป็นเรื่องพื้นฐานที่คุณไม่ควรพลาด โดยเฉพาะกับผู้ที่ทำงานในสายการตลาดและผู้ที่ต้องการทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ คนทำ SEO หรือบริษัทรับทำ SEO ก็ตาม และอย่าลืมว่าถึงคุณจะเลือกใช้ระบบ CMS ที่มีความครบครันอย่าง WordPress การรู้จัก HTML Tags ก็เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ เพราะยังไงคุณก็ต้องได้ใช้มันอย่างแน่นอน อาจจะอยู่ในรูปแบบของการอ่าน HTML หรือการกำหนดตั้งค่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ได้