
Google เผยเอกสาร 8 วิธีทำให้เว็บไซต์คุณติด AI Search ทุกตัว
จาก SEO (Search Engine Optimization) สู่ AI Search Optimization ตอนนี้คุณไม่ต้อง ‘งม’ เองอีกต่อไป ว่าจะต้องปรับตัวยังไงดี เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ Google ได้เปิดตัว Google AI Mode และ Gemini โมเดลใหม่ ๆ ขึ้นมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้จาก Keyword ไปเป็น Conversational อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต และล่าสุด Google ได้เผยเอกสารและรายละเอียดส่วนหนึ่งมาแล้ว ว่าธุรกิจต้องทำอย่างไรให้คอนเทนต์บนเว็บไซต์ได้รับการพูดถึงผ่าน AI Search ทุกตัวของ Google (Gemini, AI Overviews และ Google AI Mode) ถ้าอยากรู้ต้องไม่พลาดบทความนี้จาก ANGA (แองก้า) ดิจิทัลเอเจนซี่ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการรับทำ SEO
1. ทำให้แน่ใจว่า bot สามารถเข้าถึงเนื้อหาของคุณได้
ถ้าอยากให้เว็บติด AI Search ต้องไม่ปิดกั้น Googlebot ให้เข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในการ Crawl สำหรับ SEO ปกติ ทำให้เว็บไซต์มี HTTP Status Code เป็น 200 (สัญญาณว่าปกติ เข้าใช้งานได้) และทำให้เนื้อหาถูกมองเห็นได้ตามปกติ (Indexable) เนื่องจากมีบางเนื้อหาที่ Googlebot ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะมีการใช้ JavaScript แทน HTML
2. การควบคุมการแสดงผลด้วย Preview Controls
คุณสามารถควบคุมการแสดงผลของเว็บไซต์บน Google Search และ AI Search ได้ ผ่านการใช้คำสั่งเหล่านี้คือ noindex, nosnippet, data-nosnippet และ max-snippet
3. ใช้ Structured Data ให้ตรงกับเนื้อหา
แนะนำให้กำหนด Structured Data ใน Schema Markup ที่ตรงกับเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ และใช้ให้ถูกประเภท เพื่อให้ Googlebot ทำงานง่ายขึ้นและแสดงผลให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. Multimodal Success
พฤติกรรมการค้นหาของคนกำลังเปลี่ยนไปอย่างมาก จากการที่ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลด้วยรูปแบบที่หลากหลาย เช่น อัปโหลดรูปภาพและถามคำถามเกี่ยวกับภาพนั้น ดังนั้น ภาพประกอบและวิดีโอจะต้องมีคุณภาพสูง ตอบโจทย์เนื้อหาในหน้านั้น และตรวจสอบให้แน่ใจว่า ข้อมูลใน Merchant Center และ Business Profile ของคุณมีการอัปเดตอยู่เสมอ
5. สร้างเนื้อหาที่เป็น Original Content
โฟกัสการสร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ช่วยเหลือได้จริง ตอบคำถาม แล้วก็เป็นเนื้อหาต้นฉบับ (Original Content) ของเราเอง ไม่ได้ไปคัดลอกของใครมา
6. สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด
สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีบนเว็บไซต์ของเรา ไม่ว่าผู้ใช้งานเหล่านั้นจะมาจากการค้นหาแบบปัจจุบัน (SEO / SEM) หรือมาจาก AI Search ก็ตาม รวมถึงสามารถแสดงผลบน Desktop และ Mobile ได้ดี มีความรวดเร็ว และตอบโจทย์ผู้ใช้งานเสมอ
7. โฟกัสที่ปลายทางไม่ใช่แค่ยอดคลิก
แม้ยอดคลิกเข้าเว็บไซต์จะลดลง แต่คลิกที่ได้รับจะเป็นคลิกที่มีคุณภาพมากขึ้นในอนาคต ซึ่งคุณต้องทำให้ทุกคลิกมีค่า นี่คือสิ่งที่ Google อยากให้เราเปลี่ยน Mindset จากโฟกัสเรื่องยอดคลิก ไปโฟกัสที่ปลายทางของเว็บไซต์ ซึ่งอาจเป็นยอดขาย หรือ Leads ที่ธุรกิจได้ในอนาคตแทน
8. ปรับตัวให้ทันพฤติกรรมของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป
ปรับตัวตาม Users ที่เปลี่ยนไปให้ได้ โดย Google บอกว่าสิ่งนี้รับมือได้เลย เพราะ “Ten Blue Links” ที่เราคุ้นเคยกันเวลาค้นหาบน Google แล้วมี 10 เว็บไซต์โชว์ขึ้นมา มันอาจไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอีกต่อไป ตอนนี้ AI Search กำลังจะมอบประสบการณ์ค้นหาที่ดีกว่าให้ เพราะฉะนั้น เตรียมตัวไว้ได้เลย
บทสรุป
ใน 2 ข้อสุดท้าย ดูเหมือนว่า Google กำลังพยายามเปลี่ยนความคิดของคนทำ SEO ให้ปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้งานปัจจุบันมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ Google ยังคอยซัปพอร์ตคนทำเว็บไซต์ให้มีคุณภาพและมีมาตรฐานสูงขึ้นเสมอ โดยทาง Google ก็ต้องปรับตัวตาม User ในอนาคตด้วยเช่นกัน เพราะเค้าก็คงไม่ยอมเสียส่วนแบ่งการตลาดค้นหาที่มีมูลค่ามหาศาลตรงนี้ไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง

Google AI Mode ฟีเจอร์ใหม่ที่จะทำให้วงการ SEO สั่นสะเทือน
