10 เทรนด์ Content Marketing 2024 ที่นักการตลาดไม่ควรพลาด
Content Marketing คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ “เนื้อหา” ที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบ มาเป็นเครื่องมือในการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก กระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้น สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า หรืออื่น ๆ ตามที่แบรนด์ต้องการ ซึ่งเทรนด์ Content Marketing ก็จะมีการอัปเดตใหม่ทุก ๆ ปี โดยจะขึ้นอยู่กับทิศทางของพฤติกรรมผู้บริโภค สภาวะการแข่งขันทางการตลาด และยังรวมไปถึงการเติบโตของเทคโนโลยีต่าง ๆ อีกด้วย
ลองมาหาคำตอบในบทความนี้กับแองก้ากันได้เลยว่าเทรนด์ Content Marketing ในปี 2024 นี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงและท้าทายกว่าปีที่ผ่านมามากน้อยแค่ไหนกัน
1. Video Content
เทรนด์ Content Marketing 2024 เทรนด์แรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Video Content (เนื้อหาที่มีการนำเสนอแบบภาพเคลื่อนไหว) ถ้าคุณเป็นคนที่เล่น Social Media เป็นประจำ คุณจะพบได้ว่า Video Content มีอยู่บนทุกแพลตฟอร์ม ไม่เว้นแม้แต่ LINE ที่เป็นแพลตฟอร์มที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการพูดคุยสื่อสารกันด้วยข้อความ ซึ่ง Video Content ก็มีอยู่สารพัดรูปแบบ แต่ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอรูปแบบไหนช่วยสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดและธุรกิจได้ทั้งสิ้น
จากการสำรวจ Media Formats ของ HubSpot พบว่า Video Content เป็นสื่อที่สามารถสร้าง ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน) ได้มากที่สุดในปี 2023
และไม่เพียงแค่ไหน ทาง Wyzowl ยังพบว่าธุรกิจ 91% ใช้ Video Content มาเป็นกลยุทธ์หลักในการทำการตลาดออนไลน์ในปี 2023 อีกด้วย
ถึงแม้ว่าวิดีโอสั้น (Short Video) ที่มีความยาวไม่เกิน 1 นาที จะช่วยดึงดูดความสนใจและสร้าง Engagement ได้มากที่สุด แต่ในท้ายที่สุดแล้ว เทคนิคในการเล่าเรื่องราวและฝีมือในการตัดแต่งเนื้อหาก็ยังเป็นสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรก เพราะวิดีโอที่มีคุณภาพ จะช่วยสร้างผลตอบแทนและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์ในระยะยาวได้มากกว่าวิดีโอสั้น ๆ ที่มี Engagement สูง ๆ นั่นเอง
ประเภทของ Video Content ที่น่าสนใจ
- Short-form Video : วิดีโอสั้นที่มีความยาวตั้งแต่ 15-60 วินาที
- Live Streaming : วิดีโอถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์
- Shoppable Video : วิดีโอที่ผู้ชมสามารถกดซื้อสินค้าผ่านวิดีโอได้เลย
- Behind the Scenes Video : วิดีโอเบื้องหลังการทำธุรกิจ
- User-Generated Video Content : วิดีโอที่ถูกสร้างโดยผู้บริโภค (วิดีโอรีวิวสินค้า)
- Educational and How-To Videos : วิดีโอให้ข้อมูลความรู้ หรือการสอนทำ สอนใช้สิ่งต่าง ๆ
- Entertainment Video : วิดีโอเบาสมองที่ช่วยสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ชม
2. Ephemeral Content
Ephemeral Content คือเนื้อหาชั่วคราว ที่แสดงให้เห็นหรือมีอายุอยู่ตามเวลาที่จำกัด อย่าง IG Stories ที่มีอายุ 24 ชั่วโมง เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว เนื้อหาจะถูกลบออกไปโดยอัตโนมัติ ซึ่ง Ephemeral Content สามารถเป็นได้ทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และไลฟ์สตรีม
Ephemeral Content ได้กลายมาเป็นเทรนด์ Content Marketing ที่แบรนด์ต่าง ๆ หันมาใช้งานกัน เพราะมีความน่าสนใจสูง ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็น และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม จากการมีอยู่ในระยะเวลาที่จำกัดของเนื้อหาดังกล่าว อีกทั้ง Ephemeral Content ยังเป็นเทรนด์คอนเทนต์ที่สอดคล้องกับความชื่นชอบและพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้อีกด้วย
3. Social Media Repurposing
Social Media Repurposing คือเทรนด์การนำคอนเทนต์ที่มีอยู่ หรือเคยโพสต์ไปแล้วบนแพลตฟอร์มหนึ่ง ไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่น ๆ และปรับเปลี่ยน Size ให้เหมาะกับแพลตฟอร์มดังกล่าว เพื่อให้คอนเทนต์ที่ผลิตออกมาแล้วถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น
- การนำบทความบนเว็บไซต์มาสรุปเป็นข้อความสั้น ๆ และโพสต์ลง Facebook
- การนำคอนเทนต์ที่เคยโพสต์ลง Facebook มาโพสต์ลงใหม่บน Instagram
- การนำคอนเทนต์จาก TikTok มาโพสต์ลงใน Reels
- การนำภาพ Infographic จากเว็บไซต์มาโพสต์ลงใน Linkedin
- การนำวิดีโอจาก YouTube มาตัดให้สั้นและกระชับลง เพื่อโพสต์ลงใน TikTok
4. Podcast and Audio Content
Podcast and Audio Content เป็นเทรนด์การทำคอนเทนต์ในรูปแบบเสียง ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ง่าย สามารถรับฟังได้ตลอดเวลาในทุกอิริยาบถ อาทิ ระหว่างการทำงาน ระหว่างการเดินทางกลับบ้าน ตอนทำงานบ้าน ตอนออกกำลังกาย ก่อนนอน ฯลฯ โดยไม่จำเป็นต้องมองดูภาพใด ๆ ก็เข้าใจความหมายของเนื้อหาได้ และผู้ฟังสามารถแสดงความคิดเห็นในประเด็นนั้น ๆ กับผู้ผลิตคอนเทนต์ได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยสร้างการมีส่วนร่วม สร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้ฟังได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างเช่น
- Podcast ให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ
- Podcast สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านนั้น ๆ
- Podcast แชร์มุมมอง เปิดความคิด และนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ
- Audio Ads โฆษณาในรูปแบบเสียงที่สอดแทรกอยู่ในแอปพลิเคชันฟังเพลงหรือ Podcast
5. Voice Search Optimization
หลังจาก Search Engine อย่าง Google หรือ YouTube รองรับการค้นหาผ่านเสียง หรือ Voice Search ทำให้พฤติกรรมของผู้ใช้งานเปลี่ยนไปและหันมาใช้งาน Voice Search มากขึ้น ซึ่งเทรนด์ Content Marketing แบบ Voice Search Optimization เป็นการปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับประโยคหรือคำพูดที่ผู้ใช้งานได้ทำการค้นหาจริง ๆ
เช่น การใช้ภาษาพูดแทนภาษาเขียน, การใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติเข้าใจง่าย, การใช้รูปประโยคยาว ๆ เหมือนบทสนทนาในชีวิตประจำวัน และการอัปเดตเนื้อหาให้สดใหม่ก็สำคัญไม่แพ้กัน หากคุณหันมาทำคอนเทนต์แบบ Voice Search Optimization มากขึ้น โอกาสที่ผู้ใช้งานหรือกลุ่มเป้าหมายจะมาเจอกับคุณก็ง่ายขึ้น แถมยังช่วยสร้าง Brand Awareness และเพิ่ม Traffic ได้ดีอีกด้วย
6. Generative AI
อย่างที่เราเห็นว่า Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มาก จึงทำให้ Generative AI ถูกจัดอยู่ในเทรนด์ Content Marketing ที่ฮอตฮิตกันแบบสุด ๆ อีกเทรนด์หนึ่งด้วย! โดยคุณสามารถนำ Generative AI มาช่วยในการค้นหาไอเดียการทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ สร้างสรรค์เนื้อหา หรือหาข้อมูลแทนคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการหาไอเดียทำคลิปวิดีโอ, ค้นหาหัวข้อที่น่าสนใจ, เขียนแคปชัน, เขียนบทความ, แปลภาษา หรืออื่น ๆ ก็ตาม Generative AI จะช่วยให้ระยะเวลาในการทำงานของคุณสั้นลง และในขณะเดียวกันก็ได้ปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม การใช้งาน Generative AI ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เนื่องจาก AI จะดึงเอาข้อมูลมาจากเนื้อหาที่มีอยู่แล้วบนโลกออนไลน์ จึงอาจทำให้ข้อมูลที่คุณได้รับซ้ำกับที่อื่นได้ หรือไม่ก็ไม่ได้มีคุณภาพที่ดีเท่าไหร่นัก ทางที่ดีคือการใช้ Generative AI มาช่วยเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และอีกส่วนหนึ่งให้คุณปรับปรุงให้เป็นฉบับของคุณเองจะเป็นการดีที่สุด
7. Automated Content Marketing
Automated Content Marketing เป็นเทรนด์การใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติมาช่วยสร้างสรรค์เนื้อหาทางการตลาด อย่างการใช้ Generative AI, Machine Learning หรือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาช่วยรวบรวมข้อมูล สร้างชิ้นงาน จัดการงาน วิเคราะห์ข้อมูล หรือเผยแพร่เนื้อหาแบบอัตโนมัติ เพื่อประหยัดเวลาในการทำงาน ลดทรัพยากรบุคคล และมีเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมาอัปเดตอยู่ตลอด
ตัวอย่างเช่น
- การเขียนแคปชันสั้น ๆ ประกอบโพสต์บน Social Media
- การสร้างบทความแบบอัตโนมัติจากหัวข้อหรือคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่กำหนดให้
- การสร้างเนื้อหาอีเมลและส่งอีเมลไปยังกลุ่มเป้าหมายแบบอัตโนมัติ
8. High-Quality Content
เพราะที่ผ่านมาผู้คนสามารถโพสต์เนื้อหาได้อย่างอิสระ มีทั้งข้อมูลที่เป็นความจริงบ้างและข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงปะปนกันไป บ้างก็ผลิตเนื้อหาที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน หรือไร้คุณภาพในทุก ๆ ด้าน แต่ในตอนนี้ผู้บริโภครู้เท่าทันผู้ผลิตคอนเทนต์มากขึ้น สามารถแยกแยะออกได้ว่าเนื้อหาแบบไหนดีและไม่ดี จึงหันมาให้ความสนใจกับเนื้อหาที่มีคุณภาพ (High-Quality Content) มากขึ้น และพยายามกีดกั้นเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพออกไป ดังนั้น ถ้าคุณอยากมัดใจกลุ่มเป้าหมายให้อยู่กับคุณได้นาน ๆ คุณต้องหันมาผลิต High-Quality Content มากขึ้นแล้วล่ะ
ตัวอย่างเช่น
- บทความ SEO ให้ความรู้ในอุตสาหกรรม และช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Search Engine ได้
- Infographic ที่อธิบายข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ แบบครบจบในภาพเดียว
- Case Study (กรณีศึกษา) ที่นำเสนอผลลัพธ์ที่ได้จากสินค้าหรือบริการ
- เนื้อหาที่มีการอ้างอิงถึงงานวิจัยหรือมีผู้เชี่ยวชาญมารองรับ
- การอัปเดตข้อมูลในเนื้อหาให้เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ
9. Influencer Marketing
Influencer Marketing เป็นวิธีทำการตลาดด้วยการใช้อินฟลูเอนเซอร์ เทรนด์นี้เป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก เพราะมีการเติบโตขึ้นทุกปี ทั้งในแง่ของปริมาณของอินฟลูเอนเซอร์ที่เกิดขึ้นใหม่และปริมาณการจ้างงานอินฟลูเอนเซอร์ของแบรนด์ต่าง ๆ ด้วย เนื่องจากกลยุทธ์นี้ได้ผลตอบรับที่ดีมาก นอกจากจะช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและกระตุ้นยอดขายได้แล้ว ยังทำให้ ROI สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
- เลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีไลฟ์สไตล์สอดคล้องกับแบรนด์และสินค้า
- ให้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยรีวิวสินค้าหรือบริการลงบนโซเชียลมีเดีย
- ให้อินฟลูเอนเซอร์นำสินค้าของเราไปทำคอนเทนต์ต่าง ๆ เช่น Haul Video (วิดีโอแนะนำของที่ซื้อมา)
- จัดโปรแกรม Affiliate Marketing ให้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยเร่งยอดขายและรับค่าคอมมิชชันจากแบรนด์
- จัดกิจกรรมแจกสินค้า (Giveaway) ผ่านอินฟลูเอนเซอร์
10. Personalization Content
เทรนด์ Content Marketing 2024 เทรนด์สุดท้าย ที่สำคัญและควรค่าแก่การทำอย่างยิ่งก็คือ “Personalization Content” หรือเทรนด์การปรับแต่งเนื้อหาเพื่อให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งจะเริ่มต้นจากการเก็บข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ ,นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ว่าลูกค้าแต่ละคนต้องการอะไร, สร้างสรรค์เนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และส่งไปยังแพลตฟอร์มที่ลูกค้าใช้งานเป็นประจำ เพื่อดึงดูดความสนใจ กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และกระตุ้นให้เกิด Conversion อย่างที่แบรนด์ต้องการ
บทสรุป
จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับ 10 เทรนด์ Content Marketing 2024 ที่คุณไม่ควรพลาด ต้องบอกว่าบางเทรนด์อย่าง Video Content, Voice Search Optimization หรือ Generative AI มีแนวโน้มที่ดีและได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว ถ้าคุณเริ่มลงมือทำไปแล้วก็สามารถทำต่อได้เลย แต่ถ้าคุณยังไม่ได้เริ่ม ก็ต้องรีบแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะตกเทรนด์และดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้น้อยกว่าคู่แข่งก็เป็นได้ สุดท้ายนี้ การที่คุณรู้ว่าคุณทำไปเพื่ออะไร ทำให้ใคร และมีจุดมุ่งหมายอย่างไร คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ Content Marketing นั่นเองบทความน่าสนใจ : Craft Content Marketing กลยุทธ์การสร้างคอนเทนต์ให้แตกต่าง