UX Writing คืออะไร ต่างจาก Copywriting อย่างไร

“UX Writing คืออะไร” คงจะเป็นคำถามในใจของใครหลาย ๆ คนอยู่ในขณะนี้ เพราะปกติแล้ว คนส่วนมากจะรู้จักกันแค่ Copywriter, Content Writer หรือ UX/UI Designer เท่านั้น จึงทำให้บางคนสับสนและไม่เข้าใจว่า UX Writing คืออะไร และ UX Writer มีหน้าที่อะไร แตกต่างจาก Copywriter และ Content Writer มากน้อยแค่ไหน รวมถึงมีความเกี่ยวข้องกับ UX/UI Designer อย่างไร ดังนั้น เพื่อให้คุณเข้าใจแบบเคลียร์จบกระจ่างชัดในครั้งเดียว ANGA จึงจะมาแนะนำและอธิบายให้คุณรู้ว่า UX Writing คืออะไรกันแน่

UX Writing คืออะไร

UX Writing คือศาสตร์การเขียนข้อความบน Digital Product อาทิ เว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, คอร์สเรียนออนไลน์, อีบุ๊ก, ซอฟต์แวร์, เกม, วิดีโอ, รูปภาพ ฯลฯ ซึ่ง UX Writing ย่อมาจากคำว่า User Experience Writing ที่มีจุดประสงค์ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งาน อย่างการทำให้ผู้ใช้เข้าใจในตัวสินค้าได้ทันที หรือสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างลื่นไหล โดยที่ไม่รู้สึกสับสนและมึนงง เป็นต้น และหน้าที่ของ UX Writer ในการทำ UX Writing คือการเขียนข้อความให้ชัดเจน (Clear) สั้นกระชับ, ไม่ยืดเยื้อ (Compact) และมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน (Useful) มากที่สุดนั่นเอง

ตัวอย่างงาน UX Writing 

• ข้อความบนปุ่ม Call to Action (CTA) : “สั่งซื้อสินค้า”, “สมัครสมาชิก”, “รับส่วนลด”, “เข้าสู่ระบบ”, “กดใส่ตะกร้า”, “ดูเพิ่มเติม” ฯลฯ
• ข้อความเสนอแนะ : “คุณคิดอะไรอยู่”, “แสดงความคิดเห็นที่นี่”, “ค้นหา” ฯลฯ
• ข้อความแจ้งเตือน : “แบตเตอรี่กำลังจะหมด”, “เกิดข้อผิดพลาด โปรดลองอีกครั้ง”, “……ถูกใจความคิดเห็นของคุณ”, “คุณมีข้อความใหม่” ฯลฯ
• ข้อความอื่น ๆ : “บทความให้ความรู้”, “อัปเดตข่าวสาร”, “คำอธิบายสินค้า” ฯลฯ

UX Writing สำคัญอย่างไร

ความสำคัญของ UX Writing คืออะไร? อย่างแรกเลยคือ UX Writing จะช่วยให้เจ้าของแบรนด์และลูกค้าเข้าใจตรงกัน ว่าสินค้าชิ้นนี้คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร ผ่านชื่อและคำอธิบายสินค้าที่ถูกเขียนมาอย่างชัดเจน อย่างต่อมาคือช่วยให้งาน UI/UX Designer มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสุดท้ายคือการทำให้ลูกค้าประทับใจ พึงพอใจ และได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับไป ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ การกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ และการรีวิวบอกต่อในอนาคตด้วย

ตัวอย่างงาน UX Writing บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ 

UX Writing คือสิ่งที่คุณสามารถเห็นได้บนหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ตั้งแต่หน้าแรกที่คุณกดเข้าไปเลย 

 ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Shopee, Lazada, Grab, YouTube หรืออื่น ๆ ก็ตาม และนี่คือตัวอย่างงาน UX Writing ที่เราเอามาฝากกัน!

ตัวอย่าง UX Writing บน Facebook

“What’s on your mind, xxx?” (คุณกำลังคิดอะไรอยู่) ประโยคนี้ช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้งานรู้สึกอยากจะแชร์เรื่องราวความรู้สึกนึกคิดลงไป ตามสไตล์ของคอนเซ็ปต์ที่ Facebook ต้องการ เนื่องจาก Facebook มุ่งเน้นไปที่การเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน ผ่านการแบ่งข้อมูลต่าง ๆ และเกิดเป็นมิตรภาพขึ้นมา เมื่อผู้ใช้งานมีการโพสต์เรื่องราวลงไป คนอื่น ๆ ที่เห็นก็จะอยากแสดงความคิดเห็นและเข้ามามีส่วนร่วมในโพสต์นั้น ๆ จึงเกิดเป็นปฏิสัมพันธ์ขึ้นมาและทำให้พวกเขามีประสบการณ์ดี ๆ ร่วมกัน

ตัวอย่าง UX Writing บน Gemini

Gemini คือเทคโนโลยี AI ที่เราคุ้นเคยกันดี หลาย ๆ คนอาจจะเคยใช้งาน Gemini ในการค้นคว้าหาข้อมูลหรือบางคนอาจจะนำมาช่วยงานอื่น ๆ ก็ได้ เมื่อคุณเปิดเข้าที่ Gemini ประโยคแรกที่คุณจะเห็นก็คือ “Hello. How can I help you today?” (สวัสดี. วันนี้คุณมีอะไรให้ฉันช่วยไหม?) ซึ่งเป็นคำทักทายที่ค่อนข้างเปิดกว้าง มีความเป็นมิตร พร้อมให้ความช่วยเหลือ และสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน จึงทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกพึงพอใจและอยากมีปฏิสัมพันธ์กับ Gemini ทันทีทันใด

ความต่างของงานเขียนอื่น ๆ กับ UX Writing คืออะไร

มาถึงหัวข้อที่ใคร ๆ ก็อยากรู้อย่าง “ความแตกต่างของ Copywriting, Content Writing กับ UX Writing คืออะไร” กันบ้าง อธิบายก่อนว่าทั้งสามอย่างนี้เป็นงานเขียนเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือจุดประสงค์และกลุ่มเป้าหมาย โดน UX Writing เขียนโดย UX Writer, Copywriting เขียนโดย Copywriter และ Content Writing เขียนโดย Content Writer เรามาเจาะลึกกันดีกว่าว่า Copywriting และ Content Writing คืออะไร และต่างจาก UX Writing ตรงไหนบ้าง

Copywriting

Copywriting คือการเขียนข้อความเชิงการตลาดที่มุ่งเน้นให้ผู้อ่านตัดสินใจกระทำอะไรแบรนด์มุ่งหวัง อาทิ การตัดสินใจซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การคลิก การแสดงความคิดเห็น การแชร์ หรืออื่น ๆ โดย Copywriting มักจะประกอบอยู่ในสื่อโฆษณาต่าง ๆ อาทิ Facebook Ads, Organic Post, Google Ads, Email Marketing Ads หรือโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Social Media ต่าง ๆ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งข้อความประกอบโพสต์ คำประกอบภาพ หรือคำที่สอดแทรกอยู่ในวิดีโอก็ได้เช่นกัน

ตัวอย่างงาน Copywriting

• “อยากผิวสวย ต้องลอง!”
• “โปรโมชันพิเศษ 1 แถม 1 เฉพาะวันนี้เท่านั้น”
• “สั่งซื้อครบ 500 บาท จัดส่งฟรี!”
• “ใหม่! รองเท้าสุดล้ำ สัมผัสนุ่ม ท้าให้คุณลอง”
• “3 เหตุผลที่คุณควรจ้างบริษัทรับทำ SEO”
• “การันตีความปัง รอยดำแลดูจางลงภายใน 7 วัน”

Content Writing

Content Writing เป็นการเขียนที่มุ่งเน้นไปที่การให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน อย่างการเขียนบทความวิชาการ, บทความให้ความรู้, บทความบนเว็บไซต์, อัปเดตข่าวสารใหม่ ๆ , เอกสารคู่มือต่าง ๆ , ข่าวประชาสัมพันธ์, อีบุ๊ก ฯลฯ ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้มักจะไปปรากฏอยู่บนเว็บไซต์, Organic Post บน Social Media, สื่อสิ่งพิมพ์, อีเมล, วิดีโอ, รูปภาพ และรวมไปถึงพอดแคสต์ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ สกิล Content Writing สามารถต่อยอดไปสู่ SEO Content Writing หรือการเขียนบทความ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบนหน้าแรกของ Google ได้ หากคุณได้รู้จักว่า SEO คืออะไร และมีหลักการทำงานอย่างไร คุณก็สามารถนำสกิลตรงนี้ไปเป็นโอกาสให้ธุรกิจเติบโตขึ้น หรือก้าวสู่ตำแหน่งใหม่ในอาชีพการงานได้

ตัวอย่างงาน Content Writing

• 10 เทรนด์ Content Marketing 2024 ที่นักการตลาดไม่ควรพลาด
• เคล็ดลับเพิ่ม Engagement บน Social Media
• เริ่มจากอะไรดี? Facebook Ads หรือ Google Ads 
• เผย 10 เคล็ดลับความสำเร็จบน Google Maps ของ ANGA

บทสรุป

เราจะเห็นได้ว่า UX Writing คือสกิลที่นักการตลาดควรมีติดตัวเอาไว้ โดยเฉพาะกับเหล่านักเขียนคอนเทนต์ออนไลน์ต่าง ๆ เพราะงานเขียนที่ดีและสร้างผลลัพธ์ได้ดีที่สุด ไม่ใช่การเขียนด้วยข้อความธรรมดาทั่วไป แต่ต้องดึงสกิลด้านศิลปะและคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย แองก้าขอแนะนำว่าให้คุณดู Data จาก Insight จริงที่ธุรกิจของคุณมีอยู่ และนำมาวิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของคุณกำลังมองหาอะไร ชอบใช้คำพูดแบบไหน มีพฤติกรรมการเสพสื่ออย่างไร โพสต์ที่มี Performance ดีที่สุดเป็นโพสต์ที่มีลีลาการเขียนอย่างไร ฯลฯ จึงจะสามารถนำมาใช้สร้างงาน UX Writing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ถ้าคุณมีการเน้นย้ำข้อความด้วยไฮไลต์ ตัวหนา หรือสีสันที่โดดเด่นก็จะช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาในหน้าดังกล่าว และนำไปจัดอันดับ SEO ได้อีกด้วย