
Content Gap คือกลยุทธ์สุดเจ๋ง ช่วยดันคอนเทนต์ให้ติด SEO
กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) มีให้เลือกใช้งานสารพัดกลยุทธ์ ซึ่งกลยุทธ์การทำ SEO ก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ ASEO, กลยุทธ์การสร้างเนื้อหา, กลยุทธ์ Semantic SEO หรือกลยุทธ์ใด ๆ ก็ตาม ที่สำคัญเลยคือคุณต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ ช่องทาง และเป้าหมายของธุรกิจ หนึ่งในกลยุทธ์ SEO ที่บางคนมองข้ามไปหรือไม่เคยรู้มาก่อนเลยคือ Content Gap หรือ Content Gap Analysis นั่นเอง Content Gap คือกลยุทธ์การค้นหาว่าคอนเทนต์ของคู่แข่งมีช่องโหว่ตรงไหนบ้าง และเราก็นำช่องโหว่นั้นมาสร้างประโยชน์ให้กับเว็บไซต์เรา เพื่อให้เราเอาชนะและติดอันดับเหนือคู่แข่งบน Google SERPs มาทำความเข้าใจว่า Content Gap คืออะไร สำคัญอย่างไร และขั้นตอนการทำ Content Gap Analysis มีอะไรบ้างกับ ANGA ผ่านบทความนี้ได้เลย
Content Gap คืออะไร
Content Gap คือช่องว่างระหว่าง ‘เนื้อหาที่มีอยู่บนเว็บไซต์’ กับ ‘สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ’ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่คู่แข่งมีแต่คุณยังไม่มี หรือเป็นเนื้อหาที่ผู้บริโภคต้องการแต่ยังไม่มีใครนำเสนอก็ได้ การที่จะค้นพบ Content Gap ได้ จำเป็นต้องทำ Content Gap Analysis ซึ่งเป็นกระบวนการวิเคราะห์เปรียบเทียบคอนเทนต์ของเราและคู่แข่งอย่างเป็นระบบขั้นตอนก่อน เพื่อค้นหาโอกาสในการพัฒนาเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดีขึ้น
Content Gap Analysis ไม่ได้เป็นเพียงการตรวจสอบว่าคู่แข่งมีเนื้อหาหรือบทความ SEO อะไรที่เรายังไม่มีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการวิเคราะห์คุณภาพของเนื้อหา รูปแบบการนำเสนอ และประเด็นที่น่าสนใจที่ยังไม่มีใครพูดถึงด้วยเช่นกัน ดังนั้น การทำ Content Gap Analysis จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมประสิทธิภาพของการทำ SEO เว็บไซต์ เพราะช่วยให้เราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้ใช้งานและเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบน Google ได้ดีขึ้น เนื่องจาก Google มักจะนำเว็บไซต์ที่มีเนื้อหามีประโยชน์และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคไปจัดอันดับในตำแหน่งสูง ๆ

Content Gap เกี่ยวข้องกับการทำ SEO อย่างไร
การทำ Content Gap และ SEO มีเป้าหมายเดียวกันคือการทำให้เว็บไซต์ตอบโจทย์ผู้ใช้งานและติดอันดับการค้นหาบน Google เพราะจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรปรับปรุงอะไรบ้างเพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับได้ดีขึ้น โดยการทำ Content Gap Analysis จะทำให้เราเห็นภาพรวมของตลาดและเข้าใจว่าคู่แข่งกำลังทำอะไร ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนากลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในท้ายที่สุด
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้คีย์เวิร์ด
นอกเหนือจากการทำ Keyword Research แล้ว การวิเคราะห์ Content Gap ยังช่วยให้เราเห็นว่าคีย์เวิร์ดใดที่คู่แข่งใช้แล้วประสบความสำเร็จ และมีช่องว่างคีย์เวิร์ดใดบ้างที่ยังไม่มีใครทำ ทำให้เราสามารถวางกลยุทธ์การใช้คีย์เวิร์ดได้แม่นยำและครอบคลุมมากขึ้น
ยกระดับคุณภาพเนื้อหา
การเปรียบเทียบคอนเทนต์ของเรากับคู่แข่งช่วยให้เห็นจุดแข็งจุดอ่อนชัดเจน ทำให้สามารถพัฒนาเนื้อหาให้ครอบคลุมและมีคุณภาพสูงกว่าที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์
ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด
เมื่อเราเข้าใจว่าคู่แข่งนำเสนอเนื้อหาอะไร ได้ผลตอบรับอย่างไร จะทำให้เราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้มี Engagement Rate สูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการจัดอันดับ SEO
เพิ่มโอกาสการแข่งขันในตลาด
การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและคุณภาพสูงกว่าคู่แข่ง ไม่เพียงช่วยให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือและติดอันดับ SEO ได้ดีขึ้น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการดึงดูด Traffic และทำให้ Conversion Rate เพิ่มขึ้นด้วย
การทำ Content Gap Analysis สำคัญไหม
การทำ Content Gap Analysis มีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน เพราะยุคนี้คือยุคแห่งการแข่งขันด้วยเนื้อหา ซึ่งไม่ได้แข่งกันด้วยจำนวนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแข่งกันด้วยคุณภาพและความตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายด้วย การวิเคราะห์ช่องว่างเนื้อหาหรือ Content Gap Analysis จึงเป็นเหมือนแผนที่ที่จะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสและจุดที่ควรพัฒนาบนเว็บไซต์ และที่สำคัญที่สุด Content Gap Analysis ช่วยให้คุณตัดสินใจได้บนพื้นฐานของข้อมูลจริง ไม่ใช่การคาดเดา ทำให้การลงทุนด้านคอนเทนต์มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น สร้างผลลัพธ์ที่ดีทั้งในแง่ของ SEO การสร้างแบรนด์ และยอดขายเลยทีเดียว
1. ประหยัดเวลาและทรัพยากร
แทนที่จะลองผิดลองถูกสร้างเนื้อหาตามใจตัวเองไปเรื่อย ๆ การวิเคราะห์ช่องว่างจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร เพราะคุณเห็นแล้วว่าอะไรได้ผล อะไรไม่ได้ผล ทำให้ไม่เสียเวลาและงบประมาณไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
2. เจาะกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ
การรู้ว่าคู่แข่งกำลังทำอะไร และลูกค้าต้องการอะไร ช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ไม่ใช่แค่เดาเอาว่าลูกค้าน่าจะชอบแบบนี้ แต่มีข้อมูลจริงมาสนับสนุนการตัดสินใจ
3. สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
เมื่อคุณรู้ช่องว่างในตลาด คุณสามารถสร้างเนื้อหาที่ยังไม่มีใครทำ หรือทำให้ดีกว่าที่มีอยู่ ทำให้แบรนด์ของคุณมีจุดยืนที่ชัดเจนและแตกต่างจากคู่แข่ง คุณจะกลายเป็นผู้นำในการให้ข้อมูลที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ
4. พัฒนาคุณภาพเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
การทำ Content Gap Analysis ไม่ใช่การทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะความต้องการของผู้บริโภคและกลยุทธ์ของคู่แข่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การติดตามและวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณรักษาความได้เปรียบและพัฒนาคุณภาพเนื้อหาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ขั้นตอนการทำ Content Gap Analysis
- เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า
เริ่มจากการตั้งคำถามง่ายๆ ว่าลูกค้าของเราคิดอะไร ทำอะไร ก่อนจะซื้อสินค้าหรือใช้บริการ เช่น เขาอาจเริ่มจากการค้นหาข้อมูลในกูเกิล อ่านรีวิว หรือเปรียบเทียบราคา การเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เราสร้างคอนเทนต์ได้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหา
- สำรวจความต้องการตลาด
ลองถามลูกค้าโดยตรงผ่านแบบสอบถามหรือสัมภาษณ์สั้น ๆ ว่าพวกเขาอยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไหม มีคำถามอะไรค้างคาใจ หรือกำลังมองหาข้อมูลอะไร คำตอบที่ได้จะเป็นไอเดียดี ๆ ในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้
- สำรวจคอนเทนต์ของตัวเอง
ดูว่าตอนนี้เรามีเนื้อหาอะไรบ้าง มีอะไรที่เก่าและควรอัปเดต มีหัวข้อไหนที่ขาดหายไป หรือมีเรื่องไหนที่ควรอธิบายให้ละเอียดขึ้น การสำรวจแบบนี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมว่าควรเพิ่มเติมคอนเทนต์ตรงส่วนไหน
- ดูว่าคู่แข่งกำลังทำอะไร
ให้ดูว่าคู่แข่งนำเสนออะไร แล้วเราจะทำให้ดีกว่าได้อย่างไร หรือมีมุมมองไหนที่น่าสนใจแต่ยังไม่มีใครพูดถึง นี่คือโอกาสที่เราจะสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่นและแตกต่าง (ห้ามลอกเลียนแบบเด็ดขาด ไม่งั้นจะกลายเป็น Duplicate Content และโดนลดอันดับได้)
แชร์ 5 เครื่องมือทำ Content Gap Analysis
การทำ Content Gap Analysis ให้มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสมมาช่วยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล โดยแนะนำให้ใช้หลายเครื่องมือประกอบกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและแม่นยำ พร้อมทั้งติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคและกลยุทธ์การตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และนี่คือ 5 เครื่องมือที่จะช่วยให้การทำ Content Gap Analysis ง่ายและได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น
- Ahrefs – ช่วยวิเคราะห์กลยุทธ์คู่แข่งได้อย่างละเอียด ทั้งการค้นหาคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งติดอันดับสูง การวิเคราะห์ Backlink และข้อมูล Traffic ทำให้คุณสามารถวางแผนพัฒนาคอนเทนต์ได้อย่างมีทิศทาง
- SEMRush – ช่วยค้นพบโอกาสทางการตลาดผ่านการวิเคราะห์เทรนด์เนื้อหา พร้อมแสดงหัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจ และคำถามที่กลุ่มเป้าหมายกำลังค้นหา
- Google Search Console – เครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้เห็นประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ทั้งคีย์เวิร์ดที่นำ Traffic มาสู่เว็บไซต์ และหน้าเว็บที่ควรได้รับการปรับปรุง ซึ่ง Google Search Console เป็นเหมือนเครื่องมือ SEO พื้นฐานที่สำคัญเลยก็ว่าได้
- BuzzSumo – ช่วยวิเคราะห์เนื้อหาที่ได้รับความนิยมบนโซเชียลมีเดีย ช่วยให้เข้าใจรูปแบบคอนเทนต์ที่กลุ่มเป้าหมายชื่นชอบและมีส่วนร่วมมากที่สุด
- AnswerThePublic – ค้นพบคำถามที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ ช่วยให้สามารถพัฒนาคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ
บทสรุป
Content Gap คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตในโลกออนไลน์ได้อย่างมั่นคง ผ่านการทำ Content Gap Analysis เพื่อค้นหาโอกาสจากช่องโหว่ในคอนเทนต์ของคู่แข่ง และยังช่วยให้คุณรู้ว่าควรสร้างเนื้อหาอะไร เพื่อให้เนื้อหาตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด จนนำไปสู่การที่ Google จัดอันดับเว็บไซต์ในตำแหน่งสูง และดึง Traffic เข้าสู่เว็บไซต์อย่างต่อเนื่อ สำหรับใครที่กำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์ทำ SEO ให้คุณเติบโตบน Search Engine และอยู่เหนือคู่แข่งได้อย่างยั่งยืน ANGA ดิจิทัลเอเจนซี่รับทำ SEO ติดหน้าแรก โดยผู้เชี่ยวชาญ ยินดีให้คำปรึกษาและวางแผนการทำ SEO ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
บทความที่เกี่ยวข้อง

Google เผยเอกสาร 8 วิธีทำให้เว็บไซต์คุณติด AI Search ทุกตัว
