1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Conversion คืออะไร? สิ่งชี้วัดคุณภาพเมื่อทำ Digital Marketing
เผยแพร่เมื่อ: มีนาคม 17, 2023

Conversion คืออะไร? สิ่งชี้วัดคุณภาพเมื่อทำ Digital Marketing

Table Of Contents

ในปัจจุบันการทำการตลาดออนไลน์มีเครื่องมือและเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับธุรกิจของเราได้ ซึ่งแต่ละเครื่องมือนั้นก็จะมีวิธีการจัดการ และรูปแบบที่ต่างกันออกไป แต่สิ่งที่สำคัญก็คือรูปแบบของการสรุปผลลัพธ์ในการทำการตลาดของธุรกิจของคุณนั่นเอง ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับ Conversion ว่าคืออะไร และมีบทบาทในรูปแบบไหนสำหรับการทำการตลาดออนไลน์

Conversion คืออะไร?

Conversion หากแปลตรงตัวจะหมายความว่า “การกระทำที่มีเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม” หากอธิบายในแง่ของการตลาดออนไลน์ Coversion คือ การกระทำใด ๆ ที่คุณต้องการให้กลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของคุณเข้ามามีส่วนร่วมบนเว็บไซต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหนก็ตาม โดยส่วนใหญ่เป้าหมายจะเป็นการสั่งซื้อสินค้าและบริการ โดย Conversion จะเกิดขึ้นเมื่อผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ นอกจากนี้ Conversion อาจจะเป็นเป้าหมายอื่น ๆ ที่ธุรกิจกำหนดเอาไว้ก็ได้ เช่น เพิ่มสินค้าลงตระกร้า ( Add to Cart) การลงทะเบียนสมัครสมาชิก (Register) การแชทผ่าน Messengers , LINE หรือ การกรอกแบบฟอร์มเก็บรายชื่อ (Lead)

Conversion มีกี่ประเภท?

Marco Conversion

Marco Conversion คือ เป้าหมายหลักหรือเป้าหมายสูงสุดของแคมเปญที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้โดยตรง ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ขายสินค้าความงาม มีเป้าหมายสูงสุดคือการสั่งซื้อ หรือสามารถใช้เป้าหมายอื่น ๆ ได้เช่น การลงทะเบียนเพื่อรับสินค้าขนาดทดลอง การกรอกข้อมูลเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ การตัดจ่ายผ่านบัตรเครดิต  ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นการกระทำที่ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้นั่นเอง

Micro Conversion 

คือ เป้าหมายเริ่มต้นของธุรกิจ ที่จะนำไปสู่ Marcro Conversion หรือก็คือการกระทำใด ๆ ที่ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายกลายเป็นลูกค้าในอนาคต ยกตัวอย่างจากเว็บไซต์ขายสินค้าความงามเช่น กดติดตามเพจ การลงทะเบียนเพื่อสมัครสมาชิก กดอ่านอีเมล หรือจะเป็นการดาวน์โหลดแคตตาล็อคสินค้าก็ได้เช่นกัน

เช็คความสำเร็จของโฆษณาด้วย Conversion Rate 

Conversion Rate คือ อัตราการส่วนระหว่างยอด Conversion ต่อยอดผู้เข้าชม (Total visitors) ไม่ว่าจะเป็นการสมัครสมาชิก การสั่งซื้อสินค้า หรือการติดตามข่าวสาร  ซึ่ง Conversion Rate จะมีการคำนวณลูกค้าที่เข้ามีส่วนร่วมกับเว็บหรือโฆษณาของคุณที่มีสูตรดังนี้

“ (Total Conversions/Total No. of Click หรือ Visitors)* 100 ”

ยกตัวอย่างเช่น มีคนเห็นโฆษณาทั้งหมด 100 คน แต่มีคนสั่งซื้อสินค้า 1 คน Conversion rate คือ 1%  นั่นหมายความว่าธุรกิจกำลังมีปัญหาซึ่งจะต้องหาทางแก้ไข โดยกลุ่มเป้าหมายอาจจะยังไม่สอดคล้องกับไอเดียของโฆษณา จึงทำให้ไม่สามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดนั่นเอง

conversion-sign-up

ขั้นตอนการทำ Conversion Rate Optimization 

Conversion Rate Optimization คือ กลยุทธ์การเพิ่ม Conversion ให้กับธุรกิจด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์หรือประสบการณ์การใช้งานในหน้า Landing Page ให้เป็นไปตามพฤติกรรมของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อช่วยปรับปรุงให้ผู้เข้าชมกระทำการบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนการกรอกฟอร์ม สมัครสมาชิก สั่งซื้อสินค้า ให้ข้อมูลส่วนตัว ฯลฯ ตามที่ธุรกิจตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งการทำ Conversion Rate Optimization มีวิธีการทำอยู่ 5 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้

การทำเก็บและรวบรวม (Research Phase)

การทำ Research นับเป็นขั้นตอนเริ่มต้นสำหรับการทำข้อมูลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการหาปัจจัยที่ทำให้เกิด หรือไม่เกิด Conversion เองก็ตาม ซึ่งในส่วนนี้ผู้ประกอบการและนักการตลาดจะต้องทำความเข้าใจกับพฤติกรรมลูกค้าจากการวิเคราะห์ Data ซึ่งอาจจะใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น Google Analytics  หรืออาจจะต้องย้อนกลับไปดูที่ Customer Journey ในแต่ละขั้น

การตั้งสมมติฐาน (Hypothesis Phase)

เมื่อทำการรวบรวมข้อมูลและทำการกำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการตั้งสมมติฐานจากการคาดเดาว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร เช่น ต้องการเพิ่มจำนวนลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากการทำรีวิวสินค้าผ่านอินฟลูเอนเซอร์ จะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้ากดสินค้าลงตระกร้าได้ 7% อ้างอิงจากจำนวนคนที่ทักแชทเข้ามาสอบถามทั้งหมดในเดือนที่แล้ว เพราะช่วยเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพสินค้าให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้จะต้องอาศัยข้อมูลที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นไปได้ และประสบการณ์ของผู้ตั้งสมมติฐานด้วย

การจัดลำดับความสำคัญ (Prioritization Phase)

ขั้นตอนนี้คือการนำข้อมูลที่มีทั้งหมดมาจัดลำดับความสำคัญว่าจะต้องแก้ไขในส่วนไหนก่อนส่วนไหนสามารถขยายระยะเวลาในการแก้ไขออกไปได้เล็กน้อย โดยจะต้องมองให้เห็นว่าปัญหาไหนเป็นส่วนที่มีประสิทธิภาพแย่ที่สุด และสามารถปรับปรุงได้ทันที หรือมีความจำเป็นต้องแก้ไขก่อนเป็นอย่างแรก 

การทดสอบ A/B Testing (Testing Phase)

ขั้นตอนต่อมาคือการทดสอบและการปรับปรุงด้วยการทำ A/B Testing ซึ่งอาจจะเปรียบเทียบจากองค์ประกอบต่าง ๆ ในโฆษณาเดิม กับโฆษณาที่ปรับปรุงแล้ว ว่าตัวไหนสามารถทำให้เกิด Conversion ที่ดีมากกว่ากัน 

การสรุปผลและเรียนรู้ (Learning Phase)

การสรุปผลและเรียนรู้นับเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนอื่น เพราะถ้าหากไม่มีการสรุปผลก็จะมองไม่เห็นภาพรวมของปัญหาต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาโฆษณาให้มี Conversion ที่ดีขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องสรุปผล และเรียนรู้จากข้อมูลต่างๆที่ทำมาให้ขั้นตอนทั้งหมดว่ามีผลลัพธ์เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่นั่นเอง

technique-increase-conversion

แชร์เทคนิคเพิ่ม Conversion Rate ให้แคมเปญโฆษณาที่ใครก็ทำได้

ภาพสินค้าหรือภาพประกอบจะต้องชัดเจนและสวยงาม 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพสวย ๆ มีส่วนช่วยให้คนหยุดนิ้วมือที่เลื่อนหน้าจอมาอ่านหรือดูโฆษณาได้แต่ถ้าหากรูปภาพไม่น่าสนใจก็อาจทำให้ลูกค้าเลื่อนผ่านเราไปอย่างง่ายดายได้เช่นกัน

ข้อความอ่านง่าย สื่อสารตรงประเด็น

ในยุคที่ทุกอย่างรวดเร็วไปหมด รวมถึงความอดทนในการอ่านสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็เช่นกัน ดังนั้นข้อความที่ใช้จะต้องมีการสื่อสารอย่างตรงประเด็น กระชับและเข้าใจง่ายเพื่อดึงดูดความสนใจ

ใส่ปุ่ม Call To Action

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำแคมเปญโฆษณาเลยคือ ปุ่ม Call To Action หรือ CTA เพราะจะช่วยกระตุ้นความสนใจ ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายและช่วยชี้ช่องทางว่าจะเข้าถึงสินค้าและบริการได้อย่างไร ยกตัวอย่างปุ่ม Call To Action เช่น คลิกเพื่อสมัครสมาชิก คลิกเพื่อสั่งสินค้า เรียนรู้เพิ่มเติม เป็นต้น

ใช้เวลาในการกระตุ้นการซื้อสินค้า

เวลามีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าอยู่เสมอ หากว่าเรามีการจัดโปรโมชั่น แต่ไม่ได้กำหนดเวลาเอาไว้ หรือระยะเวลาของโปรโมชั่นยาวนานเกินไป ก็ทำให้ลูกค้าตัดสินใจในการซื้อช้า กลับกันหากเราตั้งเวลาเอาไว้ในระยะสั้น ๆ ก็สามารถทำให้การตัดสินใจเร็วขึ้นได้นั่นเอง  เพราะถ้าลังเลก็จะพลาดโอกาสที่จะได้สินค้าในราคาโปรโมชั่นนี้

บทสรุป Conversion คืออะไรที่สำคัญกับธุรกิจ

จะเห็นได้ว่า Conversion มีความสำคัญในการวิเคราะห์แคมเปญโฆษณาที่ทำออกไป การทราบ Conversion Rate ยังสามารถช่วยให้นักการตลาดนำข้อมูลไปวิเคราะห์และปรับปรุงชุดโฆษณาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและสร้างผลลัพธ์ที่พึงพอใจได้ อีกทั้งยังช่วยกำหนดทิศทางในการทำโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ทำให้การจัดงบประมาณในการทำการตลาดเกิดประโยชน์สูงสุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

Organic Traffic คืออะไร พร้อมวิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์

Web Traffic คือผู้เข้าชมเว็บไซต์ ที่มีความสำคัญมาในการทำให้เว็บไซต์เติบโตและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Traffic มาได้จากหลายช่องทาง อาทิ Paid, Direct, Social Media, Referral และ Organic Traffic แต่ Traf
50

Breadcrumb Navigation ป้ายนำทางบนเว็บไซต์ ที่ส่งผลดีต่อ SEO

เว็บไซต์ส่วนใหญ่มีหน้าเว็บและข้อมูลเยอะมาก อาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกสับสนและหลงทางได้ การมีตัวช่วยนำทางบนเว็บไซต์หรือ Breadcrumb Navigation ติดตั้งไว้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับ
46

รู้จัก DeepSeek AI เอไอสัญชาติจีนที่กำลังมาแรงในตอนนี้

ต้องบอกว่าในปี 2025 นี้ แพลตฟอร์ม AI เติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลายด้านได้อีกด้วย คุณสามารถใช้ AI ในการทำงานแทน อย่างเขียนบทความ สรุปข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาข้อมูล เขี
50
th