เฉลย 8 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ SEO ที่คุณต้องรู้!
การทำ SEO ไม่มีอะไรตายตัว คุณสามารถปรับปรุงกลยุทธ์ได้ทุกเมื่อ เพื่อเรียนรู้ด้วยตัวเองว่าวิธีการที่ดีที่สุดในการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจของคุณคืออะไร ทำให้ในบางครั้งก็เกิดคำถามและข้อสงสัยขึ้นมา โดยเฉพาะกับกรณีที่เว็บไซต์อื่นทำแล้วรอด แต่เว็บไซต์เราทำแล้วร่วง ด้วยเหตุนี้ แองก้าจึงจะมาบอกต่อ 8 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ SEO ที่ Google ตอบเอง จากการตั้งคำถามของเหล่าผู้ร่วมงาน Google Search Central Live Bangkok 2024 เมื่อเดือนสิงหาคม 2024
1. จริงไหม? ที่ Google ชอบ Subdomains มากกว่า Subdirectories
คำตอบ : ไม่จริง เพราะ Google ไม่ได้ชอบอันไหนมากกว่ากัน โดยปัจจัยในการจัดอันดับเว็บไซต์บน Google Search ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้ Subdomains หรือ Subdirectories สิ่งสำคัญคือคุณภาพของเนื้อหา โครงสร้างที่เป็นระเบียบของเว็บไซต์ ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน การสร้างลิงก์จากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ และการเลือกใช้คีย์เวิร์ด เป็นต้น
- Subdomains : เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลาย ทั้ง Blog ทั้ง Service หรือ Product
- Subdirectories : เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน เช่น เว็บไซต์บริษัทรับทำ SEO ก็จะมีเนื้อหาด้าน SEO และการตลาดออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกัน หรือเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ ที่มีสินค้าประเภทเดียวกัน แต่หลาย ๆ รุ่น เป็นต้น
2. จำเป็นต้องซื้อ Backlink อันดับ SEO ถึงจะดีขึ้น
คำตอบ : ไม่จริง เพราะหน้าเว็บไซต์ที่ไม่มี Backlink ยิงเข้ามาเลย ก็สามารถติดอันดับในตำแหน่งที่ดีมาก ๆ ด้วยตัวเองได้ เนื่องจาก Google ค้นพบหน้าเว็บดังกล่าวผ่าน Sitemap ประกอบกับโดเมนนั้นมีคุณภาพ น่าเชื่อถือนั่นเอง ส่วนลิงก์เป็นเพียงช่องทางที่ทำให้ Google มาเจอคุณได้ง่ายขึ้นเท่านั้นเอง
Gary Illyes (Search Advocate Google) เคยอธิบายไว้ว่า Backlink ไม่ใช่ 3 ปัจจัยแรกในการทำ SEO อีกต่อไป เพราะอัลกอริทึมของ Google ในปัจจุบันมีความแตกต่างจากอัลกอรึทึมสมัยก่อนมาก อีกทั้งยังมีตัวชี้วัดใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายด้วย ด้วยเหตุนี้ คุณจึงไม่ควรให้ความสำคัญกับ Backlink มากเกินไป หากจะทำ Backlink ก็เลือกทำบนเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์คุณจะดีที่สุด
3. มีลิงก์คุณภาพต่ำยิงเข้าเว็บเรา ปล่อยไว้เลยดีไหม?
คำตอบ : ใช่ สามารถปล่อยไว้ได้เลย ไม่จำเป็นต้องกังวลหรือใส่ใจกับลิงก์เหล่านี้มากเกินไป เพราะ Google มีมาตรการในการตรวจจับเว็บไซต์ที่ไร้คุณภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมถึง Google จะไม่นำลิงก์เหล่านั้นมาประกอบการพิจารณาจัดอันดับด้วย แต่ถ้าคุณไม่สบายใจก็สามารถ Disavow Link ออกไปได้
อธิบายเพิ่มเติม
- ลิงก์คุณภาพต่ำคือเว็บไซต์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ มีแต่เนื้อหาที่ไม่ดี หรืออาจจะเป็นเว็บไซต์สแปม ที่ทำการส่งลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา (Backlink)
- Disavow Link คือการลบลิงก์สแปมออกไป หรือการบอกให้ Google ทราบว่าคุณไม่ต้องการให้ลิงก์คุณภาพต่ำส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณ สามารถทำได้โดยการสร้างไฟล์ .txt และอัปโหลดไฟล์ลงบน Google Search Console
4. คอนเทนต์จาก AI ติดอันดับสูงกว่าคอนเทนต์จากมนุษย์
คำตอบ : ไม่จริง เพราะ Google ไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นผู้เขียนคอนเทนต์ขึ้นมา แต่สนใจคุณภาพของคอนเทนต์มากกว่า ว่าคอนเทนต์นั้นสร้างประโยชน์ให้กับผู้อ่านจริงหรือไม่ ตอบโจทย์และตอบคำถามผู้ใช้งานได้จริงไหม มีข้อมูลครบถ้วนและข้อมูลนั้นถูกต้องหรือไม่ หากคอนเทนต์มีคุณภาพจริง ก็มีโอกาสในการถูกนำไปจัดอันดับในตำแหน่งสูง ๆ ได้ แนะนำให้เขียนคอนเทนต์โดยอิงจากหลักการ E-E-A-T Factor ตามที่ Google เคยแนะนำไว้
5. การกำหนดจำนวนคำเยอะ ๆ ช่วยให้ติดอันดับสูง ๆ ได้
คำตอบ : ไม่จริง เพราะบทความที่มีจำนวนคำเยอะ ๆ ไม่ได้การันตีว่าบทความนั้นจะมีคุณภาพ และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ SEO ได้ เพราะบางบทความก็มีแต่คีย์เวิร์ดเดิมซ้ำ ๆ หมดทั้งหน้า (Keyword Stuffing) หรือมีแต่เนื้อหาที่คัดลอกมาจากเว็บไซต์อื่นมากมาย ดังนั้น ความยาวของเนื้อหาจึงไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าบทความนั้นจะติดอันดับหรือไม่ โดยคุณจะเขียนบทความ SEO ในความยาวมากน้อยแค่ไหนก็ได้ แต่ให้เน้นความสำคัญไปที่ Keyword, Topic และกลุ่มเป้าหมาย หรือการมอบเนื้อหาที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านจะเป็นการดีที่สุด
6. ซื้อโดเมนเก่าที่ PageRank ดีมาทำต่อ จะติดอันดับได้ดีขึ้น
คำตอบ : การซื้อโดเมนเก่าที่เคยติดอันดับสูง ๆ แต่หมดอายุไปแล้ว มาทำเว็บไซต์ใหม่ เพราะต้องการให้เว็บไซต์ติดอันดับสูง ๆ บน Google Search เป็นหนึ่งในความเชื่อที่หลาย ๆ เว็บไซต์ทำอยู่ แต่ Google บอกมาว่าความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ “ผิดและไม่จริงเสมอไป”
เพราะ Google จะมีการลบ Signal เดิมออกให้มากที่สุด ทำให้ PageRank ของโดเมนเก่าส่งผลค่อนข้างน้อยต่อการจัดอันดับ รวมทั้งยังมีการตรวจสอบประวัติก่อนด้วยว่าเคยโดนแบนจาก Google มากก่อนไหม เนื้อหาเดิมเป็นอย่างไร เป็นเว็บไซต์สแปมหรือเปล่า นอกจากนี้ อัลกอริทึมในปัจจุบันและอัลกอริทึมในอดีตยังแตกต่างกันอีกด้วย
7. โดเมนใหม่หรือธุรกิจใหม่ ไม่สามารถแข่งกับธุรกิจที่มีมานานได้?
คำตอบ : ไม่ใช่ หากคุณเป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเปิดเว็บไซต์ขึ้นมา ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะแข่งกับเว็บไซต์ที่เปิดมานานกว่าเลย เพราะ Google พิจารณาจาก “คุณภาพ” ของเว็บไซต์และเนื้อหาเป็นหลัก หากคุณมีการเขียนเนื้อหาที่ดี, มีการวางโครงสร้างของเนื้อหาตรงตามหลัก On-page SEO, เว็บไซต์เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน, โครงสร้างเว็บไซต์เป็นระเบียบเรียบร้อย, มีรูปภาพอธิบายเพิ่มเติมพร้อมใส่ Alt text ฯลฯ ก็สามารถติดอันดับเหนือคู่แข่งที่เปิดเว็บไซต์ธุรกิจมานานกว่าได้
8. มี Sitemap เล็ก ๆ หลายตัว ดีกว่ามี Sitemap ใหญ่อันเดียว
คำตอบ : ไม่จำเป็น เพราะสิ่งสำคัญคือการทำให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ของคุณง่ายที่สุด หรือขึ้นอยู่กับการวางโครงหน้าและเนื้อหาของเว็บไซต์เป็นหลัก ไม่ใช่จำนวนและขนาดของ Sitemap แต่อย่างใด
บทสรุป
เป็นอย่างไรกับบ้างกับบทความ “เฉลย 8 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ SEO ที่คุณต้องรู้!” มีข้อไหนตรงกับความเข้าใจผิดของคุณก่อนหน้านี้หรือไม่? อย่างไรก็ตามหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยตอบคำถามในใจของใครหลาย ๆ คนได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ คุณ Cherry Prommawin (Search Advocate Google) ยังฝากทิ้งท้ายด้วยว่า “Marketing ไม่มีสูตรตายตัว SEO ก็เช่นกัน” หรืออธิบายเสริมได้ว่า… ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับไกด์ไลน์หรือข้อแนะนำในการทำ SEO มา แต่ผลลัพธ์มันก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป การทดสอบด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่คุณควรทำมากที่สุด
บทความเพิ่มเติมจากงาน Google Search Central Live 2024
- เทคนิคดูกราฟ Google Search Console
- เคล็บลับทำ SEO สำหรับเว็บไซต์หลายภาษาที่ Google บอกเอง
- Google แชร์เคล็ดลับใช้ Google Trends สำหรับคนทำ SEO
- เทคนิคทำ Video SEO ดันอันดับวิดีโอบน Search จาก Google