1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Google Keyword Planner คืออะไร วิธีสมัคร วิธีใช้งานฟรี 2025
Google keyword planner
เผยแพร่เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2023 | แก้ไขเมื่อ: มกราคม 28, 2025

Google Keyword Planner คืออะไร วิธีสมัคร วิธีใช้งานฟรี 2025

Table Of Contents

การทำการตลาดผ่าน Search Engine (SEM : Search Engine Marketing) เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและสามารถสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO ในการเพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์แบบ Organic หรือจะเป็นการทำ Google Ads อันเป็นการยิงโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่ายก็ตาม ทั้งสองสิ่งนี้อาจไม่สำเร็จได้หากคุณเลือกใช้งานคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุนี้การทำ Keyword Research ก่อนลงมือทำ SEM ในส่วนอื่น ๆ จึงเป็นเรื่องที่คุณควรให้ความสำคัญเป็นอย่างแรก และในวันนี้ ANGA จะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับเครื่องมือค้นหาและวางแผนการใช้คีย์เวิร์ดที่ชื่อว่า “Google Keyword Planner” ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีจาก Google นั่นเอง นอกจาก Planner Google จะช่วยให้คุณได้พบคีย์เวิร์ดที่ใช่แล้ว ยังช่วยให้คุณได้ค้นพบไอเดียในการทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ อีกด้วย หากพร้อมแล้วเราไปดูกันได้เลยว่า Google Keyword Planner คืออะไร? มีประโยชน์มากแค่ไหน? พร้อมวิธีการสมัครและวิธีการใช้งานแบบครบจบในบทความเดียว (อัปเดตเนื้อหาใหม่ล่าสุด 2025)

Google Keyword Planner

Google Keyword Planner คือเครื่องมือวางแผนการใช้งานคีย์เวิร์ด ซึ่งเราสามารถทำ Keyword Research เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย และจุดประสงค์มาทำการตลาดให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้ โดยที่คุณสามารถเข้าไปใช้งาน Google Keyword Planner ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพียงแค่สมัครบัญชี Google Ads เพื่อลงชื่อเข้าใช้งานเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีการทำโฆษณาจริง หรือผูกบัตรเครดิตใด ๆ เลย คุณสามารถนำคีย์เวิร์ดที่ได้จาก Google Keyword Planner ไปวางแผนการยิงโฆษณา Google Ads เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้อย่างแม่นำ รวมไปถึงการนำไปวางแผนการทำ SEO หรือเขียนบทความ SEO เพื่อดันอันดับเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนหน้าแรก Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Google Keyword Planner สำคัญอย่างไร

Google Keyword Planner คือเครื่องมือที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง มันไม่ได้แสดงแค่เพียงว่ามีการค้นหาคีย์เวิร์ดกี่ครั้ง (Search Volume) แต่ยังช่วยวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการของตลาดด้วย ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้อ่านและวางแผนงบประมาณโฆษณาได้อย่างคุ้มค่ามากกว่าเดิม

วิธีสมัคร Google Keyword Planner

1. ให้คุณเข้าไปที่ https://ads.google.com และกด “ลงชื่อเข้าใช้” บริเวณมุมขวาบน

วิธีสมัคร Google Keyword Planner 1)

2. กดไปที่ “NEW GOOGLE ADS ACCOUNT” เพื่อสร้างบัญชี Google Ads

วิธีสมัคร Google Keyword Planner 2

3. คลิกที่ “Create your first campaign” และเลือก “Create an account without a campaign” เพื่อกรอกข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ แต่ไม่ต้องผูกบัตรเครดิตเพื่อสร้างแคมเปญใด ๆ

วิธีสมัคร Google Keyword Planner 3

4. ตั้งค่าข้อมูลตามภาพ จากนั้นให้กด “Submit

วิธีสมัคร Google Keyword Planner 4

5. ทุกอย่างพร้อมให้คุณเริ่มใช้งาน Google Keyword Planner แล้ว

วิธีสมัคร Google Keyword Planner 5

เมื่อคุณสมัครบัญชี Google Ads เรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือต่าง ๆ ของ Google ได้ ซึ่งรวมถึง Keyword Planner ด้วยเช่นกัน สำหรับ Planner Google นั้น จะแบ่งฟีเจอร์ให้ใช้งาน 2 แบบด้วยกัน คือ Discover new keywords และ Get search volume and forecasts ตามภาพประกอบด้านล่างนี้ ซึ่งวิธีใช้ Google Keyword Planner นั้นก็ไม่ยากอย่างที่คิด เดี๋ยวเราจะมาสอนวิธีใช้งานแบบเข้าใจได้ง่าย ๆ ดูแล้วทำตามได้เลยกัน!

วิธีใช้ Google Keyword Planner

วิธีใช้ Discover new keywords

Discover new keywords คือฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณค้นพบคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ ที่คนกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนั้น เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่มีความสนใจเกี่ยวกับสินค้าและบริการของธุรกิจคุณได้ วิธีใช้งานฟีเจอร์ Discover new keywords คือให้คุณเข้าไปที่ Discover new keywords จะพบกล่องข้อความดังภาพข้างต้น (ช่องข้างบน) จากนั้นให้ใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการ จำนวนสูงสุด 10 คีย์เวิร์ด หรือใส่ลิงก์เว็บไซต์ที่คุณต้องการดูคีย์เวิร์ด และกด “Get Results” เพื่อแสดงผลลัพธ์

Discover new keywords
Discover new keywords

ตัวอย่างภาพ

ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่คุณได้ทำการค้นหาและคีย์เวิร์ดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (Keyword Ideas) ซึ่งจะประกอบไปด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้

  • Avg. monthly searches : ปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดโดยเฉลี่ยต่อเดือน
  • Three month change : แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงภายในช่วง 3 เดือน
  • YoY change : การเปรียบเทียบปริมาณการค้นหาแบบรายเดือน ของเดือนล่าสุดเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา
  • Competition : ระดับการแข่งขันของคีย์เวิร์ดนั้น ๆ แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ สูง กลาง และต่ำ
  • Ad impression share : โอกาสที่โฆษณาของเราจะถูกแสดงผล หรืออัตราส่วนในการแสดงโฆษณาของคุณกับคู่แข่ง
  • Top of Page Bid (Low Range) : ราคาประมูล (Bid) เฉลี่ยที่ต่ำที่สุด ของอันดับบน ๆ ของหน้าการค้นหา
  • Top of Page Bid (High Range) : ราคาประมูล (Bid) เฉลี่ยที่สูงที่สุด ของอันดับท้าย ๆ ของหน้าการค้นหา
วิธีใช้ Discover new keywords

วิธีใช้ Get search volume and forecasts

เมื่อคุณได้คีย์เวิร์ดจาก Discover new keywords มาแล้วต้องการทำโฆษณา Google Ads ให้เข้ามาที่ฟีเจอร์ Get search volume and forecasts กันต่อเลย ซึ่งฟีเจอร์นี้จะเป็นการเช็ก Search Volume ของคีย์เวิร์ดแต่ละคำ และช่วยให้คุณคาดเดาประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาของคุณได้ล่วงหน้า เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าคีย์เวิร์ดคำไหนควรนำไปทำโฆษณา

Get search volume and forecasts

เเมื่อคุณใส่คีย์เวิร์ดเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ “Get started” ได้เลย จากนั้น Google Keyword Planner ก็จะแสดงค่าต่าง ๆ ออกมาให้คุณพิจารณาและประเมินงบประมาณในการยิงโฆษณา โดยประกอบไปด้วยค่าต่าง ๆ ดังนี้

  • Clicks : จำนวนคลิกทั้งหมดที่มีคนกดโฆษณา
  • Impressions : จำนวนครั้งที่มีการแสดงผลของโฆษณา
  • Cost : ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
  • CTR (Click Through Rate) : อัตราการคลิกต่อการแสดงผลของโฆษณา
  • Avg. CPC (Average Cost Per Click) : ราคาเฉลี่ยของการคลิกโฆษณา 1 ครั้ง
วิธีใช้ Get search volume and forecasts

และหลังจากที่คุณประเมินคีย์เวิร์ดและงบประมาณเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเริ่มแคมเปญโฆษณาได้เลย โดยกดไปที่ปุ่ม “Create campaign” ด้านขวามือดังภาพข้างต้น

แจก 3 เทคนิควิธีใช้ Google Keyword Planner

เพื่อให้ Google Keyword Planner มีประโยชน์กับธุรกิจของคุณมากที่สุด เราขอแนะนำเทคนิควิธีใช้ Google Keyword Planner ที่เราทำแล้วได้ผลจริงมาฝากกัน

1. ใช้หาไอเดียใหม่ ๆ พร้อมเจาะคีย์เวิร์ดของคู่แข่ง

เทคนิคแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือการใช้ Google Keyword Planner ค้นหาไอเดียใหม่ ๆ เพื่อนำมาทำคอนเทนต์ลงบนช่องทางต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปเขียนคำโฆษณา (Ad Copy), เขียน Caption ประกอบ Organic Post, เอาไปใช้ทำ Inforgraphic, นำไปตั้งชื่อวิดีโอ และที่เหมาะสมที่สุดคือการนำไปทำบทความ SEO

วิธีใช้ Google Keyword Planner ค้นหาไอเดีย

เข้าไปที่ Discover New Keywords > พิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการลงไป > กด Get Result > จากนั้น Google Keyword Planner จะแสดงไอเดียคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องให้ หรือถ้าคุณอยากรู้ว่าคู่แข่งของคุณใช้คีย์เวิร์ดอะไรบ้าง คุณก็สามารถกรอกคีย์เวิร์ด พร้อมระบุเว็บไซต์คู่แข่งลงไปในช่อง “Enter a site to filter unrelated keywords” ได้เลย

2. ค้นหาคีย์เวิร์ดที่แม่นยำยิ่งขึ้น

การทำ Keyword Research ด้วยคีย์เวิร์ดคำกว้าง ๆ ที่ไม่เฉพาะเจาะจง (Generic Keyword) คุณอาจจะได้ไอเดียใหม่ ๆ  ในการทำคอนเทนต์ก็จริง แต่อาจจะไม่ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากนัก ลองใช้คีย์เวิร์ดที่ยาวขึ้น (Long-Tail Keyword) หรือพวกประโยคคำถามอย่าง “ทำ SEO ที่ไหนดี”,  “บริษัทรับทำ SEO ในไทย 2025 ” หรือ “วิธีการทำ On-page SEO อย่างละเอียด” ดู และคุณจะพบว่ามันสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในเรื่องนั้น ๆ อย่างแท้จริง และพร้อมที่จะจ่ายเงินให้แก่คุณมากขึ้นกว่าคีย์เวิร์ดสั้น ๆ 

บทความแนะนำ : Keyword คืออะไร? มีกี่ประเภท?

3. เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่การทำ Local SEO

อย่างที่เราเห็นว่า Search Volume ของคีย์เวิร์ดแต่ละคำที่ปรากฏขึ้นใน Google Keyword Planner ที่เราใช้กันนั้นเป็น “ปริมาณโดยรวมของทั่วประเทศไทย” ไม่ใช่ “ปริมาณที่มีการค้นหาจริงในแต่ละพื้นที่” ดังนั้น เพื่อให้คุณได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ที่คุณต้องการได้อย่างแม่นยำ และวางแผนในการทำการตลาดได้อย่างเหมาะสม คุณควรรู้ว่าคีย์เวิร์ดแต่ละคำ มีปริมาณการค้นหามากน้อยเพียงใดในแต่ละพื้นที่ เพียงแค่คุณกดเปลี่ยน Location จาก Thailand เป็นพื้นที่ที่คุณต้องการเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าเทคนิคนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ทำ Local SEO เพื่อสร้างผลลัพธ์ให้แก่ธุรกิจท้องถิ่นอย่างร้านอาหาร คาเฟ่ โรงพยาบาล คลินิกความงาม หรือโรงแรมอย่างมาก

เทคนิคการใช้ Google Keyword Planner

สำหรับบัญชีที่ไม่ได้มีการทำแคมเปญโฆษณา Google Ads ร่วมด้วย หรือบัญชีที่เปิดมาเพื่อทำ Keyword Research ของฝั่ง SEO เท่านั้น (เวอร์ชันฟรี) จะมีข้อจำกัดอยู่ 2  ประการ คือ 

  1. ตัวเลขค่าเฉลี่ยของ Search Volume ที่แสดงจะไม่เฉพาะเจาะจงหรือชัดเจน หรือการแสดงผลเป็นค่าโดยประมาณแทน เช่น 1,000-10,000 เป็นต้น (ถ้ามีการยิงโฆษณาด้วยตัวเลขจะเป็น 590, 880, 1,000 ฯลฯ)
  2. ไม่สามารถดูกราฟและ Breakdown ข้อมูลได้

บทสรุปเรื่อง Google Keyword Planner

Google Keyword Planner เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้การทำงานในส่วนของ SEO และ Google Ads ของคุณง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการทำ Keyword Planner นี้ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของการทำการตลาดออนไลน์ที่มีความสำคัญไม่แพ้กลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ เลย เพราะถ้าคุณเลือกคีย์เวิร์ดได้ดี นำคีย์เวิร์ดไปทำการตลาดได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายก็จะมากขึ้น และแน่นว่าธุรกิจก็จะเติบโตตามไปด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

Organic Traffic คืออะไร พร้อมวิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์

Web Traffic คือผู้เข้าชมเว็บไซต์ ที่มีความสำคัญมาในการทำให้เว็บไซต์เติบโตและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Traffic มาได้จากหลายช่องทาง อาทิ Paid, Direct, Social Media, Referral และ Organic Traffic แต่ Traf
49

Breadcrumb Navigation ป้ายนำทางบนเว็บไซต์ ที่ส่งผลดีต่อ SEO

เว็บไซต์ส่วนใหญ่มีหน้าเว็บและข้อมูลเยอะมาก อาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกสับสนและหลงทางได้ การมีตัวช่วยนำทางบนเว็บไซต์หรือ Breadcrumb Navigation ติดตั้งไว้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับ
44

รู้จัก DeepSeek AI เอไอสัญชาติจีนที่กำลังมาแรงในตอนนี้

ต้องบอกว่าในปี 2025 นี้ แพลตฟอร์ม AI เติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลายด้านได้อีกด้วย คุณสามารถใช้ AI ในการทำงานแทน อย่างเขียนบทความ สรุปข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาข้อมูล เขี
48
th