
ทำความรู้จัก Local SEO กลยุทธ์ SEO ที่สำคัญต่อธุรกิจท้องถิ่น
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจท้องถิ่นต่างพบกับปัญหาด้านการแข่งขันกับธุรกิจใหญ่ ๆ ที่มีงบประมาณทำการตลาดมหาศาลบนโลกออนไลน์เช่นเดียวกัน แล้วจะทำยังไงให้ธุรกิจเล็ก ๆ ของเราอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ล่ะ? หลาย ๆ คนมักจะนึกถึงการยิงโฆษณาที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเฉพาะเจาะจง แต่รู้ไหมว่า ANGA มีวิธีที่คุ้มค่ากว่าและตอบโจทย์กว่ามาแนะนำกัน นั่นก็คือการทำ Local SEO นั่นเอง Local SEO คือกลยุทธ์สำคัญที่ธุรกิจท้องถิ่นไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นและทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น
Local SEO คืออะไร
Local SEO คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับในผลการค้นหาแบบท้องถิ่น (Local Search Results) โดยจะเน้นไปที่การเพิ่มการมองเห็นของธุรกิจในพื้นที่ต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เช่น จังหวัด อำเภอ หรือย่านต่าง ๆ อย่างสีลม สยาม บางนา ลาดพร้าว ฯลฯ เพื่อให้ผู้บริโภคและลูกค้าที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวสามารถค้นพบธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น เมื่อพวกเขาค้นหาสินค้า บริการ หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณบน Google
การทำ Local SEO นั้นแตกต่างจาก SEO ทั่วไปตรงที่ Local SEO จะให้ความสำคัญกับการปรับแต่งข้อมูลธุรกิจบน Google Business Profile และการเพิ่มข้อมูลที่อยู่หรือสถานที่ตั้งลงในเว็บไซต์อย่างชัดเจน รวมถึงการใช้คีย์เวิร์ดท้องถิ่น (Local SEO Keyword) ในการสร้างเนื้อหาด้วย เพื่อให้ธุรกิจปรากฏในผลการค้นหาเมื่อผู้ใช้ค้นหาด้วยคำว่า “ใกล้ฉัน” หรือระบุชื่อสถานที่และพื้นที่อย่างเฉพาะเจาะจง

แนวคิดและหลักสำคัญของการทำ Local SEO
แนวคิดการทำ Local SEO จะเป็นการผสมผสานระหว่างการปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณเอง ควบคู่ไปกับการจัดการข้อมูลธุรกิจบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของ Google อย่างครบถ้วน โดยเน้นการใช้คีย์เวิร์ดท้องถิ่นที่เฉพาะเจาะจง ถึงแม้ว่าคีย์เวิร์ดประเภทนี้จะมีปริมาณการค้นหา (Search Volume) ไม่มากนัก แต่มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตรงจุด เพราะฉะนั้น การเริ่มต้นทำ Local SEO ควรโฟกัสไปที่การปรับปรุงพื้นที่หลักของธุรกิจให้แข็งแรงก่อน แล้วจึงค่อย ๆ ขยายไปยังพื้นที่อื่นที่สามารถให้บริการได้
หลักสำคัญของการทำ Local SEO มีดังนี้
- ปรับแต่งเว็บไซต์และ Google Business Profile ควบคู่กัน
- เน้นการทำ Long-tail Keywords ที่มีการระบุพื้นที่ชัดเจน
- ศึกษาและวิเคราะห์กลยุทธ์ของคู่แข่งในพื้นที่เดียวกัน
- เพิ่มข้อมูลที่อยู่และการติดต่อให้ครบถ้วนและตรงกันทุกแพลตฟอร์ม
- สร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์และเกี่ยวข้องกับท้องถิ่นนั้น ๆ
Local SEO สำคัญกับธุรกิจอย่างไร
การทำ Local SEO ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญในการทำให้ธุรกิจท้องถิ่นสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ เพราะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ได้แม่นยำมากขึ้น จากสถิติพบว่า 88% ของผู้ใช้ที่ค้นหาธุรกิจท้องถิ่นผ่านมือถือจะติดต่อหรือเดินทางมาที่ร้านภายใน 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว
เพิ่มโอกาสในการมองเห็นธุรกิจ
การทำ Local SEO ช่วยให้ธุรกิจปรากฏในผลการค้นหาแบบท้องถิ่น ทั้งในรูปแบบ Local Pack ที่แสดงแผนที่พร้อมข้อมูลธุรกิจ 3 อันดับแรก และผลการค้นหาปกติ ทำให้ลูกค้าในพื้นที่สามารถค้นพบธุรกิจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะผ่านการค้นหาบน Google หรือ Google Maps ก็ตาม
สร้างความน่าเชื่อถือผ่านรีวิวและคะแนน
เมื่อธุรกิจมีข้อมูลครบถ้วนบน Google Business Profile พร้อมรีวิวและคะแนนจากลูกค้าจริง จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าใหม่ที่กำลังตัดสินใจเลือกใช้บริการ เพราะสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือผ่านประสบการณ์ของลูกค้าคนอื่นได้

ประหยัดงบประมาณการตลาด
การทำ Local SEO เป็นการทำการตลาดแบบ Organic ที่ไม่ต้องเสียค่าโฆษณารายครั้งแบบ Google Ads ช่วยประหยัดงบประมาณในระยะยาว และยังสามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ได้ เพราะเน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่เฉพาะแทนการแข่งขันในตลาดกว้าง ๆ
เพิ่มโอกาสในการขาย
จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่มักค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ การทำ Local SEO จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น โดยเฉพาะกับลูกค้าที่ต้องการสินค้าหรือบริการในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีแนวโน้มจะเปลี่ยนจากผู้สนใจเป็นลูกค้าได้ง่ายกว่า
Local SEO เหมาะกับธุรกิจแบบไหนบ้าง
- ธุรกิจร้านอาหาร เช่น ร้านอาหารท้องถิ่น ร้านอาหารญี่ปุ่น คาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี
- ธุรกิจบริการด้านความงาม เช่น ร้านทำผม ร้านเสริมสวย ร้านทำเล็บ คลินิกเสริมความงาม สปา
- ธุรกิจด้านสุขภาพ เช่น คลินิกทันตกรรม คลินิกความงาม ร้านขายยา ร้านนวดแผนไทย
- ธุรกิจที่พัก เช่น โรงแรม รีสอร์ต โฮสเทล อพาร์ทเมนท์ คอนโดให้เช่า
- ธุรกิจซ่อมและบริการ เช่น อู่ซ่อมรถ ร้านซ่อมมือถือ ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ ร้านซักรีด
- ธุรกิจค้าปลีก เช่น ร้านขายของชำ ร้านขายเครื่องเขียน ร้านขายของฝาก ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์
- ธุรกิจบันเทิงและนันทนาการ เช่น ฟิตเนส โรงภาพยนตร์ สนามกีฬา สวนสนุก
- ธุรกิจการศึกษา เช่น โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนสอนภาษา โรงเรียนสอนดนตรี สถาบันติวสอบ
- ธุรกิจก่อสร้างและตกแต่ง เช่น บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านเฟอร์นิเจอร์ มัณฑนากร
- ธุรกิจกฎหมายและบัญชี เช่น สำนักงานทนายความ สำนักงานบัญชี บริษัทรับทำบัญชี

Local SEO Keyword ต้องเป็นแบบไหน พร้อมวิธีเช็ก
การเลือก Keyword สำหรับLocal SEO ต้องคำนึงถึงการผสมผสานระหว่างประเภทธุรกิจและสถานที่ตั้ง เพื่อให้ตรงกับพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้ในพื้นที่นั้น ๆ สำหรับรูปแบบ Local SEO Keyword ที่นิยมใช้ มีดังนี้
- ชื่อธุรกิจ + พื้นที่ เช่น “บริษัทรับทำ SEO สีลม” หรือ “ร้านกาแฟ กรุงเทพ”
- ชื่อธุรกิจ + ย่านดัง เช่น “ร้านซ่อมโทรศัพท์ สยาม” หรือ “คาเฟ่ นิมมาน”
- ชื่อบริการ + สถานที่สำคัญ เช่น “ถ่ายรูปรับปริญญา จุฬา”
- คำค้นแบบใกล้ตัว เช่น “ร้านอาหารใกล้ฉัน” หรือ “ร้านตัดผม near me”
Google Business Local SEO จุดเริ่มต้นการเติบโตของธุรกิจ
Google Business Profile (หรือเดิมชื่อ Google My Business) เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลและการแสดงผลของธุรกิจบน Google Search และ Google Maps ได้ การทำ Google Business Local SEO จึงเป็นการปรับแต่งข้อมูลธุรกิจบนแพลตฟอร์มนี้ให้เหมาะสมที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับผลการค้นหาแบบท้องถิ่น
- เป็นปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ในการจัดอันดับธุรกิจในผลการค้นหาท้องถิ่น
- ช่วยยืนยันตำแหน่งที่ตั้งและข้อมูลการติดต่อของธุรกิจ
- แสดงรีวิวและคะแนนจากลูกค้า ซึ่งมีผลต่อการจัดอันดับ
- รวบรวมข้อมูลสำคัญของธุรกิจไว้ในที่เดียว เช่น เวลาเปิด-ปิด รูปภาพ หรือบริการที่มี
- เชื่อมโยงกับ Google Maps ทำให้ลูกค้าหาที่ตั้งธุรกิจได้ง่ายมาก

5 วิธีทำ Local SEO ให้ประสบความสำเร็จในปี 2025
การทำ Local SEO ในปี 2025 จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของ Google Algorithm และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นการค้นหาข้อมูลผ่านมือถือมากขึ้นด้วย ข้อมูลธุรกิจต้องครบถ้วนและชัดเจน รวมถึงความน่าเชื่อถือของธุรกิจก็เป็นเรื่องที่คุณต้องให้ความสำคัญเช่นกัน
1. ปรับแต่ง Google Business Profile น่าสนใจ
ใส่ใจทุกรายละเอียดบน Google Business Profile ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานอย่างชื่อร้าน ที่อยู่ เบอร์โทร ไปจนถึงรูปสวย ๆ ของร้าน อัปเดตโปรโมชันและกิจกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ และอย่าลืมชวนลูกค้ามารีวิวใน Google เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือด้วย
2. สร้างคอนเทนต์ที่เข้าถึงคนในพื้นที่
เขียนเนื้อหาหรือบทความ SEO ที่ตอบโจทย์ตรงใจคนในย่านนั้น ๆ อาจจะเขียนคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ การใช้คำที่คนท้องถิ่นค้นหา และถ้ามีหลายสาขา ก็แยกทำเนื้อหาเฉพาะแต่ละสาขาเพื่อให้ลูกค้าเจอได้ง่ายขึ้นได้ด้วย
3. ปรับปรุงเว็บให้ใช้ง่ายบนมือถือ
อย่าลืมปรับปรุงเว็บไซต์ให้แสดงผลสวย ๆ โหลดเร็ว และใช้งานได้ง่ายบนมือถือ มีการวางข้อมูลติดต่อและแผนที่ให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะคนส่วนใหญ่จะค้นหาร้านผ่านมือถือแล้วรีบโทรหาหรือกดแผนที่มาที่ร้านเลย
4. สร้าง Backlink
สร้าง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาท้องถิ่น อย่างเว็บไซต์ข่าว เพื่อให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณอยู่ในพื้นที่นั้นจริง ๆ
5. ใส่ใจกับรีวิวบน Google Business Profile
ตอบรีวิวทั้งดีและไม่ดีอย่างสม่ำเสมอ ใส่ใจความคิดเห็นของลูกค้า และกระตุ้นให้คนมาแชร์ประสบการณ์ เพราะรีวิวคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจน่าเชื่อถือ
บทสรุป
เห็นไหมว่าธุรกิจเล็ก ๆ ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ได้ เพียงแค่คุณรู้ว่าควรใช้กลยุทธ์อะไรในการสู้รบ และคำตอบก็คือ Local SEO นั่นเอง Local SEO ช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นเป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่งผลทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมาตลอด แน่นอนว่าการเติบโตของธุรกิจก็ต้องตามมาด้วย ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะเริ่มต้นทำ Local SEO เสียที อย่ารอช้า! ไปสมัครบัญชี Google และกรอกข้อมูลบน Google Business Profile กันเลย แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมใส่ข้อมูลธุรกิจ สถานที่ตั้ง เบอร์โทรศัพท์ติดต่อบนเว็บไซต์ให้ชัดเจนด้วยล่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)
