1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Search Volume คืออะไร? ข้อมูลสำคัญในการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ
เผยแพร่เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2021 | แก้ไขเมื่อ: กุมภาพันธ์ 6, 2023

Search Volume คืออะไร? ข้อมูลสำคัญในการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ

Table Of Contents

หากใครที่มีเว็บไซต์ของตัวเอง และอยากเริ่มทำการตลาดออนไลน์ที่ทำให้เว็บไซต์คุณติดอันดับได้บน Google แบบไม่ต้องเสียเงินในการทำโฆษณา ก็คงต้องเคยได้ยินการทำ SEO เป็นแน่ แล้วจะเลือกคีย์เวิร์ดหรือคำที่ใช้ในการค้นหาอย่างไรดีถึงจะมีประสิทธิภาพมากพอที่จะเลือกมาทำคอนเทนต์ SEO ได้ วันนี้เราจะมาให้คุณรู้จักการเลือกคีย์เวิร์ดจาก Search Volume กันว่าแท้จริงแล้ว Search Volume คืออะไรกันแน่ และมีความสำคัญแค่ไหนที่จะช่วยให้คอนเทนต์ของคุณมีคุณภาพมากพอที่จะติดอันดับได้มาดูกัน!

Search Volume คืออะไร

Search Volume คืออะไร?

Search Volume คือจำนวนที่แสดงถึงการค้นหาคำคำนั้นหรือคีย์เวิร์ดที่ถูกเสิร์ชบน Google ในแต่ละเดือน ซึ่งทาง Google ได้เก็บรวบรวมผลทางสถิติทั้งหมด เพื่อแสดงถึงความสนใจหรือปัญหาข้อสงสัยที่กลุ่มลูกค้าของคุณเสิร์ช ซึ่ง Search Volume นี้จะช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถทำคอนเทนต์ได้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และเป็นอีกตัวช่วยสำคัญให้เจ้าของเว็บไซต์เลือกคีย์เวิร์ดในการทำคอนเทนต์ได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุดนั่นเอง

ความสำคัญของ Search Volume

  • เพื่อใช้กำหนดหัวข้อในการทำคอนเทนต์ SEO ให้มีประสิทธิภาพในการติดอันดับบน Google ได้มากขึ้น
  • เพื่อใช้ในการตรวจสอบจำนวนของคีย์เวิร์ด ว่าเหมาะสมในการทำการตลาดออนไลน์ของคุณหรือไม่
  • เพื่อใช้ตรวจสอบคอนเทนต์ของคู่แข่งของคุณ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาเนื้อหาเว็บไซต์ได้
  • เพื่อใช้ในการตรวจสอบคีย์เวิร์ดว่ามีปริมาณเหมาะสมแค่ไหนในการเลือกใช้ทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์
  • เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกคีย์เวิร์ดให้เหมาะสมที่สุดต่อการทำการตลาดของคุณเอง

เครื่องมือการหา Search Volume สำหรับมือใหม่

ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องมือที่จะช่วยคุณค้นหา Search Volume ว่าในแต่ละเดือนคือคีย์เวิร์ดอะไรกันบ้าง และมีปริมาณการเสิร์ชในแต่ละเดือนกันเท่าไหร่ เพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้คีย์เวิร์ดทำ SEO แบบประสบความสำเร็จได้แบบฟรีๆ มาแนะนำให้คุณได้รู้จักกัน

1.   Google Keyword Planner                                                                                           

เครื่องมือการค้นหาคีย์เวิร์ดจาก Google AdWords ซึ่งเป็นเครื่องมือโดยตรงจาก Google ที่จะช่วยเก็บข้อมูลเชิงลึกทางสถิติที่เป็นที่นิยมมากสำหรับมือใหม่ หรือคนที่กำลังจะเริ่มต้นทำเว็บไซต์ นอกจากจะเป็นเครื่องมือที่ฟรีแล้วยังจะสามารถช่วยให้คุณเรียนรู้เครื่องมืออื่นๆในการทำเว็บไซต์บน Google ได้อีกด้วย

2. KetwordTool.io                                                                                                 

เครื่องมือการค้นหาคีย์เวิร์ดอีกเว็บหนึ่งที่ฟรีและที่สำคัญใช้งานง่าย เหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้นโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนในการเข้าใช้งาน หากต้องการศึกษาและทดลองในการทำคีย์เวิร์ดก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยหาคีย์เวิร์ดแบบ Long-tail Keyword เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของคุณแบบเฉพาะเจาะจงได้ดีมากขึ้น

3. Google Trends                                                                                                              

เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่มาจาก Google ที่มาให้คุณใช้งานได้แบบฟรีๆ และแสดงผลสถิติแบบเห็นภาพได้ชัดเจน นอกจากจะเป็นเครื่องมือที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมากแล้ว ยังเหมาะสำหรับการหาคีย์เวิร์ดแบบเป็นคำๆได้ดีมากอีกด้วย และยังสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดได้แบบเจาะลึกถึงระดับอุปกรณ์ที่ผู้ใช้ใช้ในการเสิร์ชได้เลยทีเดียว

Search Volume คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจในการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมที่สุดต่อการทำการตลาดออนไลน์ทั้งแบบ SEO และ SEM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้จำนวนมาก เพื่อสร้างเนื้อหาในเว็บไซต์ที่มีคุณภาพมากพอในการติดอันดับและประสบความสำเร็จได้มากขึ้นที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

Influencer Marketing กลยุทธ์การตลาดมาแรงที่แบรนด์ไม่ควรพลาด

Influencer Marketing คืออีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะผู้ติดตามของพวกเขาต่างเชื่อมั่นและไว้ในสิ่งที่อินฟลูเอนเซอร์พูด ทำให้เกิดความคล้อยตามได้ง่าย ประกอบกับช่องทา
24

สรุป Facebook Update 2024 มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง มาดูกัน

Facebook หรือ Meta เป็น Social Media Platform ที่พัฒนาและมีการอัปเดตอยู่เสมอ รวมทั้งยังมีประสิทธิภาพในแง่ของการทำการตลาดออนไลน์สูง โดยเฉพาะการยิงโฆษณา Facebook Ads เพราะกลุ่มผู้ใช้งานเดิมยังคงไม่ทิ้งแ
26

Character Marketing กลยุทธ์ปั้นแบรนด์ให้โดนเด่นเหนือคู่แข่ง

ปัจจุบันโลกธุรกิจเต็มไปด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นและดุเดือดเป็นอย่างมาก แต่ละธุรกิจต่างงัดกลยุทธ์การตลาดออนไลน์มาแข่งขันกัน ซึ่งธุรกิจที่สามารถทำให้ผู้บริโภคจดจำได้จะเป็นธุรกิจที่อยู่รอดในโลกธุรกิจต่อจา
38
th