ทำความเข้าใจ YMYL คืออะไร ส่งผลต่อ SEO อย่างไรบ้าง

คอนเทนต์ (Content) หรือเนื้อหาต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ ส่งผลกระทบต่อความคิด ความรู้สึก และการกระทำของผู้อ่านได้จริง หากผู้อ่านได้รับข้อมูลผิด ๆ และไปทำตาม อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกับเหล่าเนื้อหาทางการแพทย์และการรักษาต่าง ๆ ในฐานะที่ Google เป็นคลังข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีเนื้อหาจากเว็บไซต์นับล้านทั่วโลก จึงไม่สามารถอยู่เฉย ๆ ได้ ดังนั้น Google จึงปล่อยอัลกอริทึมที่ชื่อว่า “Your Money Or Your Life” หรือ “YMYL” ออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลผิด ๆ และเพื่อไม่ให้ตัว Google เองสูญเสียความน่าเชื่อถือไป

YMYL คืออะไร? ทำไมคนทำ SEO ต้องรู้จัก YMYL ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ใดบ้าง และ YMYL แตกต่างจาก E-E-A-T Factor ที่เรารู้จักกันหรือไม่ เดี๋ยวเรามาทำความเข้าใจกันในบทความนี้กับ ANGA ได้เลย นอกจากนี้ เรายังมาพร้อม YMYL Checklist ที่จะพาคุณไปกู้อันดับเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกบน Google ในปี 2024 นี้อีกด้วย

YMYL คืออะไร

Your Money Or Your Life หรือ YMYL คืออัลกอริทึมที่ Google ปล่อยออกมาเพื่อจัดการและคัดกรองเนื้อหาที่อยู่บน Google Search Engine ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบคุณภาพของเนื้อหาที่มีความละเอียดอ่อนอย่างเนื้อหาด้านการเงิน สุขภาพ และการใช้ชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลผิด ๆ จนอาจส่งผลต่อความปลอดภัยและทรัพย์สินในชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้ เนื้อหาจะต้องมีความถูกต้อง 100% และผู้เขียนก็ต้องแสดงความเชี่ยวชาญผ่านเนื้อหาออกมาด้วย เพื่อทำให้ Google เชื่อว่าคุณมีความน่าเชื่อถือและเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงนั่นเอง

YMYL ส่งผลกระทบต่อการทำ SEO อย่างไร

เมื่อ Google มีการอัปเดตอัลกอริทึมใหม่ สิ่งที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้คือการเปลี่ยนแปลงของอันดับเว็บไซต์บน SERP (Search Result Page), ปริมาณ Organic Traffic ที่เข้ามาบนเว็บไซต์, ระดับความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ในสายตาของ Google และปริมาณของ Conversion Rate ซึ่งทิศทางของตัวชี้วัดเหล่านี้จะดีขึ้นหรือแย่ลง ล้วนมาจากคุณภาพของคอนเทนต์ที่คุณได้ทำไปว่ามันตรงกับเกณฑ์ที่ Google ต้องการหรือไม่ หากคุณมีการเขียนเนื้อหาตามหลัก E-E-A-T Factor อยู่แล้ว เขียนเฉพาะข้อมูลที่เป็นความจริง โดยผู้เชี่ยวชาญก็ไว้วางใจได้เลยว่าเว็บไซต์ของคุณจะรอดแน่นอน

มาดูกันว่าเว็บไซต์ใดบ้างที่จะได้รับผลกระทบและถูกจับตามองจาก YMYL Algorithm ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเว็บไซต์ของธุรกิจของคุณเอง หรืออาจจะเป็นเว็บไซต์ที่คุณรับจ้างทำ SEO อยู่ก็เป็นได้

เว็บไซต์ด้านการเงิน

• เว็บไซต์ธนาคาร
• เว็บไซต์ที่ให้บริการกู้เงิน
• เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการลงทุน
• เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษี
• เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับข่าวด้านการเงิน
• เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ
• เว็บไซต์ E-Commerce ที่มีฟังก์ชันการชำระเงินผ่านเว็บไซต์

เว็บไซต์ด้านสุขภาพ

• เว็บไซต์สถานพยาบาล โรงพยาบาล และคลินิกทั้งหมด ไม่ว่าจะให้บริการด้านการตรวจรักษาโรคทั่วไปหรือด้านความงามก็ตาม
• เว็บไซต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพและโรคต่าง ๆ 
• เว็บไซต์ที่ขายหรือมีเนื้อหาเกี่ยวกับยา การใช้ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และอาหารเสริม
• เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านโภชนาการ อย่างเว็บไซต์ของสมาคมโภชนาการ, เว็บไซต์กรมอนามัย ฯลฯ

เว็บไซต์ด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิต

• เว็บไซต์ของบริษัทประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ
• เว็บไซต์ด้านการศึกษา สถาบันศึกษา หรือคอร์สเรียน
• เว็บไซต์ด้านกฎหมาย
• เว็บไซต์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธา พิธีกรรม
• เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ วัฒนธรรม การเมือง
• เว็บไซต์หางาน หรือเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน

หมายเหตุ : ถึงแม้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะไม่ได้ให้ข้อมูลหรือมีบริการในเรื่องต่าง ๆ ข้างต้นโดยตรง แต่ถ้าคุณใช้คีย์เวิร์ด (Keyword) ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน สุขภาพ และการใช้ชีวิตบนเว็บไซต์ คอนเทนต์ดังกล่าวก็จะได้รับการตรวจสอบตาม YMYL Algorithm เช่นกัน

YMYL กับ E-E-A-T Factor แตกต่างกันอย่างไร

E-E-A-T Factor คืออีกหนึ่งอัลกอริทึมที่ Google ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ความเชี่ยวชาญของผู้เขียน และอิทธิพลของเว็บไซต์ โดย E-E-A-T Factor จะเป็นเกณฑ์ที่นำไปใช้กับทุกเว็บไซต์ ไม่ได้เจาะจงไปที่เว็บไซต์ประเภทใดประเภทหนึ่งอย่าง YMYL

เปรียบเทียบความแตกต่างของ YMYL กับ E-E-A-T Factor

YMYL Checklist 2024  วิธีทำ SEO เว็บไซต์ให้ผ่านเกณฑ์ YMYL

เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่า YMYL คืออะไร ถูกพัฒนามาเพื่อจุดประสงค์ใด และใครบ้างที่จะได้รับผลกระทบจาก YMYL ต่อมาก็เริ่มตรวจสอบ SEO เว็บไซต์ตัวเอง พร้อมกับวิเคราะห์ SEO เว็บไซต์คู่แข่ง และเริ่มดำเนินการตาม YMYL Checklist นี้ได้เลย!

เขียนเนื้อหาให้มีคุณภาพ

• เขียนเนื้อหาโดยอิงตามหลัก E-E-A-T Factor
• เนื้อหามีประโยชน์และมีคุณค่า
• เนื้อหาถูกต้อง ครบถ้วน มีการอ้างอิงที่มาที่ไปชัดเจน
• เขียนเนื้อหาในเชิงลึก พร้อมสอดแทรกความคิดเห็นส่วนตัว
• ใช้ภาษาที่อ่านทำความเข้าใจง่ายและสื่อความได้ชัดเจน
• มีความยาวเหมาะสม ครอบคลุมกับการนำเสนอเนื้อหาที่ครบถ้วน
• จัดระเบียบและแบ่งสัดส่วนของเนื้อหาอย่างเป็นระเบียบ
• อัปเดตเนื้อหาให้ใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ
• ไม่คัดลอกเนื้อหาจากบทความอื่น เว็บไซต์อื่น หรือ AI มาใช้งาน
• ไม่สแปมคีย์เวิร์ดหรือลิงก์ (ใส่คีย์เวิร์ดหรือลิงก์ในเนื้อหาเยอะ ๆ )

เพิ่มประสิทธิภาพ On-Page SEO 

On-Page SEO คือการปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ของเราให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่เหล่าผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้ และทำให้ Search Engine อย่าง Google เข้าใจว่าเราต้องการสื่ออะไรในหน้านี้ ซึ่งจะส่งผลกับ YMYL ทางอ้อมในด้านของความน่าเชื่อถือและการเพิ่มอันดับเว็บไซต์ให้สูงยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถดูรายละเอียดการทำ On-Page SEO เพิ่มเติมได้ที่นี่ “On-Page SEO คืออะไร? เพื่อการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับ Google”

หมั่นอัปเดตเนื้อหาอยู่เสมอ

ในขณะที่เว็บไซต์ A มีแต่เนื้อหาเก่า ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว เทียบกับเว็บไซต์ B ที่อัปเดตเนื้อหาใหม่เป็นฉบับปีล่าสุด ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกอ่านเนื้อหาจากเว็บไซต์ไหน? แน่นอนว่าจะต้องเป็นเนื้อหาใหม่จากเว็บไซต์ A อยู่แล้ว เพราะเนื้อหาที่สดใหม่ทันเหตุการณ์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ในทันที นอกจากจะช่วยมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานได้แล้ว Search Engine อย่าง Google ก็ชื่นชอบมาก ๆ ด้วย เพราะนั่นแสดงว่าเว็บไซต์ A คือผู้เชี่ยวชาญในด้านดังกล่าว เมื่อมีข้อมูลใหม่ ๆ ก็มาอัปเดตก่อนใคร ซึ่งจะทำให้อันดับเว็บไซต์ดีขึ้นตามไปด้วย

เพิ่มชื่อผู้เขียนลงในบทความ

อย่างที่เราทราบว่าเนื้อหาที่เข้าข่าย YMYL คือเนื้อหาที่มีความละเอียดอ่อนและเกี่ยวข้องกับชีวิตมาก ๆ ดังนั้น ข้อมูลจะต้องมาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ลึกรู้จริงและมีประสบการณ์ในด้านนี้โดยตรง จึงจะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ ด้วยเหตุนี้ การเพิ่มชื่อและความเชี่ยวชาญของผู้เขียน พร้อมกับรูปภาพลงไป จึงเป็นสิ่งที่คุณควรทำเป็นอย่างยิ่ง

ตัวอย่างเช่น XYZ Clinic เป็นคลินิกที่ให้บริการด้านศัลยกรรมเสริมความงาม มีการเขียนเนื้อหาให้ความรู้เกี่ยวกับการศัลยกรรมแบบครบถ้วน อาทิ การศัลยกรรมเสริมจมูกคืออะไร, ข้อดี-ข้อเสีย, การเตรียมตัวก่อนทำ, การดูแลตัวเองหลังทำ, ขั้นตอนการทำ ฯลฯ โดยมีการเขียนเรียบเรียงในนามของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับระบบชื่อนามสกุลและความเชี่ยวชาญของแพทย์ อย่าง “นพ. XXX XXX (แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง)” เป็นต้น

สร้างลิงก์เชื่อมโยง ทั้งในและนอกเว็บไซต์

การสร้างลิงก์เชื่อมโยง (Link Building) ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือต่อเว็บไซต์และมีความสำคัญกับเว็บไซต์ที่เข้าข่าย YMYL เป็นอย่างมาก โดยเราขอแนะนำให้ทำลิงก์เชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอกเว็บไซต์ ซึ่งประกอบด้วย Internal Link (การสร้างลิงก์เชื่อมไปยังหน้าอื่น ๆ บนเว็บไซต์เดียวกัน), External Link (การสร้างลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น หรือแหล่งที่มาของข้อมูล) และ Backlink (การส่งลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือกลับมายังเว็บไซต์เรา หรือการที่เว็บไซต์อื่นอ้างอิงเว็บไซต์เราว่าเป็นแหล่งที่มาของข้อมูล)

บทสรุป

YMYL คือเกณฑ์ที่คุณต้องให้ความสนใจ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านสุขภาพ การเงิน ความเชื่อ ความปลอดภัย หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตทุกประเภท แนวทางในการทำ SEO ให้ตรงตามเกณฑ์ YMYL คือการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง, เขียนเนื้อหาโดยยึดตามหลัก E-E-A-T Factor, เลือกหัวข้อให้ตรงกับบริบทของเว็บไซต์, เนื้อหาต้องครบทุกแง่มุม และอื่น ๆ ตามที่เราได้อธิบายไปในหัวข้อ “YMYL Checklist 2024”

หากคุณพบว่าบทความปัจจุบันที่คุณกำลังทำอยู่ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นความจริงทั้งหมด เนื้อหาน้อยไม่ครบถ้วน ไม่มีแหล่งที่มาของข้อมูลที่ชัดเจน ไม่ได้อิงตาม  E-E-A-T Factor หรือคัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่น ๆ มา แนะนำให้ปรับปรุงโดยด่วน เพราะจากประสบการณ์ที่แองก้าได้ทำ SEO เว็บไซต์ให้กับลูกค้ากลุ่มธุรกิจที่เข้าข่าย YMYL แล้ว พบว่ามันส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์และอันดับ SEO บน Google จริงดังนั้น การติดตามการอัปเดตอัลกอริทึมของ Google จึงสำคัญ เพราะจะทำให้คุณรู้ทันทุกการเปลี่ยนแปลง โดยสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของ Google โดยตรง หรือจะติดตามผ่านเว็บไซต์ของแองก้าที่หน้า “ความรู้เรื่อง SEO” ก็ได้เช่นกัน