1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Nofollow Link คืออะไร? มีความเกี่ยวข้องกับ SEO อย่างไร
Nofollow Link
เผยแพร่เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2024

Nofollow Link คืออะไร? มีความเกี่ยวข้องกับ SEO อย่างไร

Table Of Contents

ถ้าคุณกำลังเรียนรู้หรือเพิ่งก้าวเข้าสู่โลกของการทำ SEO (Search Engine Optimization) คุณจะพบได้ว่าองค์ประกอบในการทำ SEO ให้สำเร็จมีอยู่เยอะมาก ซึ่งรวมถึงเรื่องของการทำ Backilink ด้วย ในวันนี้ ANGA จะพาคุณเจาะลึกเข้าไปในเรื่องของ Nofollow Link ที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำ Backlink นั่นเอง เพราะมือใหม่มักจะไม่สนว่า Nofollow คืออะไร แตกต่างกับ Dofollow อย่างไร และถึงแม้ว่า Nofollow Link จะดูเหมือนกับว่าเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ ของ SEO แต่จริง ๆ ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญและคุณควรรู้เอาไว้เช่นกัน โดยเฉพาะกับเจ้าของธุรกิจที่คิดจะบริษัทรับทำ SEO หรือเอเจนซี่มาทำ SEO และ Backlink ให้กับเว็บไซต์ธุรกิจ

Nofollow Link คืออะไร

Nofollow Link คือการกำหนดคุณสมบัติพิเศษให้กับลิงก์ผ่านแอตทริบิวต์ rel=”nofollow” ในโค้ด HTML เพื่อบอกให้ Search Engine รู้ว่าไม่ต้องส่งต่อค่าความน่าเชื่อถือ (PageRank) ไปยังเว็บไซต์ปลายทาง แม้ผู้ใช้งานจะสามารถคลิกลิงก์เพื่อไปยังหน้าเว็บนั้นได้ตามปกติ แต่ Bot ของ Search Engine จะได้รับสัญญาณว่าไม่ต้องนับลิงก์นี้ในการส่งเสริมอันดับ SEO

ตัวอย่างโค้ด Nofollow Link
<a href=”https://www.example.com” rel=”nofollow”>ลิงก์ตัวอย่าง</a>

ลักการทำงานของ Nofollow Link ค่อนข้างตรงไปตรงมา โดย Bot จะอ่านค่าแอตทริบิวต์ Nofollow และใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจว่าจะส่งต่อค่าความน่าเชื่อถือไปยังเว็บไซต์ปลายทางหรือไม่ ที่น่าสนใจคือแม้ว่า Nofollow Link จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับ แต่การมีลิงก์ประเภทนี้ผสมผสานอยู่ในโปรไฟล์ลิงก์ของเว็บไซต์กลับช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของ Search Engine ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นเราจึงควรมี Backlink แบบ Nofollow Link ด้วย ไม่ใช่ Dofollow อย่างเดียว

ลิงก์จากแหล่งไหนบ้างที่เป็น Nofollow

  • คอมเมนต์ในบล็อกและฟอรัมต่าง ๆ เพื่อป้องกันการสแปมลิงก์
  • เว็บไซต์ข่าว และสื่อออนไลน์ชั้นนำ (Press Release) มักตั้งค่าลิงก์ในบทความเป็น nofollow
  • โพสต์และลิงก์ในโซเชียลมีเดียทั้งหมด เช่น Facebook, Twitter, LinkedIn
  • ลิงก์ในส่วนโฆษณาหรือ Sponsored Content
  • Wikipedia และเว็บไซต์สารานุกรมออนไลน์ส่วนใหญ่
  • เว็บบอร์ดชุมชนและกระทู้สาธารณะ อย่าง Pantip
  • ลิงก์ในส่วนโปรไฟล์ผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ต่าง ๆ
  • พื้นที่โฆษณาที่ซื้อจากเว็บไซต์ประเภท Classified
  • ลิงก์ในส่วนท้ายของเว็บไซต์ (Footer links)

ทำไมเราต้องสนใจ Nofollow Link สำคัญยังไง

คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก Nofollow Link ได้มากกว่าที่คิด แม้ว่าหลายคนอาจมองว่ามันไม่มีผลโดยตรงต่อการจัดอันดับ SEO แต่ความจริงแล้ว การมี Nofollow Link ที่มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโปรไฟล์ลิงก์ของเว็บไซต์ได้ เพราะในสายตาของ Google นั้น ไม่ได้มองแค่ลิงก์ที่ส่งต่อค่าความน่าเชื่อถืออย่างเดียว แต่ยังพิจารณาถึงความหลากหลายและความเป็นธรรมชาติของแหล่งที่มาด้วย

  • ช่วยกระจายความเสี่ยงจากการมีลิงก์ประเภทเดียว ทำให้โปรไฟล์ลิงก์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • เพิ่มโอกาสในการได้รับ Traffic จากแหล่งที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะเว็บไซต์ข่าวหรือสื่อชั้นนำที่มักตั้งค่าลิงก์เป็น Nofollow
  • ป้องกันการถูก Google มองว่าเราพยายามบิดเบือนอันดับ SEO ด้วยการซื้อลิงก์หรือใช้เทคนิค SEO สายเทาหรือสายดำ (แนะนำให้ทำ SEO สายขาวอย่าง ASEO เพราะดีต่อเว็บไซต์และธุรกิจในระยะยาว)
  • สร้างการรับรู้แบรนด์และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ

Nofollow ต่างกับ Dofollow Link อย่างไร

ในการทำ SEO เราจะพบกับลิงก์สองประเภทหลัก คือ Dofollow และ Nofollow Link ซึ่งมีบทบาทในการส่งต่อค่าความน่าเชื่อถือ (Link Juice) แตกต่างกัน โดย Dofollow Link คือลิงก์ปกติที่ช่วยส่งต่อค่าความน่าเชื่อถือจากเว็บไซต์หนึ่งไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่ง ทำให้ Search Engine เห็นว่าเว็บไซต์ปลายทางมีความน่าเชื่อถือและควรได้รับการจัดอันดับที่ดี ในขณะที่ Nofollow Link จะมีการระบุคำสั่งพิเศษที่บอกให้ Search Engine รู้ว่าไม่ต้องส่งต่อค่าความน่าเชื่อถือไปยังเว็บไซต์ปลายทาง

  • Dofollow Link : <a href=”https://example.com”>ลิงก์ตัวอย่าง</a>
  • Nofollow Link : <a href=”https://example.com” rel=”nofollow”>ลิงก์ตัวอย่าง</a>

กรณีใดที่เราจะใช้ Nofollow Link ทำ SEO

เราควรใช้ Nofollow Link ในกรณีที่ต้องการทำ Internal Link บนหน้าที่ไม่ต้องการให้มีผลต่อ SEO เช่น หน้าติดต่อเรา หน้าสมัครสมาชิก หรือหน้าที่ไม่ได้เน้นเนื้อหาเท่าไหร่ และอีกหนึ่งกรณีคือตอนทำ Backlink ที่อยู่ในรูปแบบแบนเนอร์บริเวณ Header หรือ Footer ของเว็บไซต์ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกมองว่าเป็นการสแปมลิงก์ โดยแนวทางในการใช้ Nofollow Link ที่เราแนะนำมีดังนี้

  • เลือกใช้กับลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้
  • ใช้กับลิงก์ในส่วนคอมเมนต์หรือฟอรัมที่ผู้ใช้สามารถโพสต์ได้เอง
  • กำหนดให้กับลิงก์ในโฆษณาหรือคอนเทนต์แบบ Sponsored
  • ใช้กับลิงก์ในโปรไฟล์ผู้ใช้หรือส่วนที่สมาชิกสามารถแก้ไขได้

บทสรุป

Nofollow Link เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำ SEO ที่ไม่ควรมองข้าม แม้จะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับเว็บไซต์บน Google SERPs แต่การทำ Nofollow Link ควบคู่ไปกับ Dofollow Link อย่างเหมาะสม จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของเรามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น อันเป็นปัจจัยสำคัญในการที่ Google นำไปจัดอันดับได้ ตอนนี้คุณก็คงรู้แล้วว่า Nollow คืออะไร ต่างกับ Dofollow อย่างไร และควรตั้งค่า Nofollow Link ในกรณีใดบ้าง หวังว่าคุณจะนำไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของตัวเองได้ไม่มากก็น้อย

บทความที่เกี่ยวข้อง

PDCA คืออะไร 4 หลักสำคัญช่วยพัฒนาองค์กรให้ประสบความสำเร็จ

การพบเจอปัญหาในการทำธุรกิจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือวิธีการรับมือและแก้ไขอย่างเป็นระบบ หลายคนอาจเคยสงสัยว่า PDCA คืออะไร PDCA ย่อมาจากอะไร และทำไมถึงเป็นเครื่องมือที่ได้รับคว
5

LINE Official Account คือเครื่องมือสำคัญที่ทุกธุรกิจควรใช้

LINE เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันด้านการสื่อสารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย และในตอนนี้ LINE ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงการสื่อสารระหว่างบุคคลเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับลูกค้
5

แจกเทคนิคทำวิดีโอให้ติด YouTube หน้าแรก ในปี 2025

ถ้าพูดถึงการลงวิดีโอหรือโพสต์คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ใคร ๆ ก็หวังให้คอนเทนต์ของเราเข้าถึงคนเยอะ ๆ แน่นอน และถ้าเราอยากให้คนมองเห็นคลิปวิดีโอที่เราโพสต์ลงไปใน YouTube ล่ะ? คำตอบคือคุณต้องใช้กลยุทธ์ด้
9
th