6 ข้อสำคัญและเทคนิคยิงแอดที่นักการตลาดต้องรู้ ก่อนปี 2025
ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และพฤติกรรมของผู้บริโภคก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาด้วย ทำให้นักการตลาดออนไลน์และนักโฆษณาอย่างเรามีความจำเป็นที่จะต้องปรับตัวให้ทันกับกระแสใหม่ ๆ และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันนี้ด้วย ซึ่งถ้าคุณได้ตามข่าวสารของวงการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมาบ้าง คุณคงจะพบว่าแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยเฉพาะ Google มีการอัปเดตความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เราต้องปรับแผนและกลยุทธ์ใหม่อย่างไม่มีที่สิ้นสุดด้วย
เพื่อให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดในปี 2024 และเติบโตได้ดีในปี 2025 ที่จะถึงนี้ ANGA จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 6 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับการยิงโฆษณาที่นักการตลาดห้ามพลาด เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจก่อนเข้าสู่ปี 2025 ! เพราะในปีถัดไป การแข่งขันในทุก ๆ ธุรกิจจะสูงขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคจะไม่เป็นเช่นเดิม และอาจจะมีเทรนด์หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นก็ได้ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเทคนิคยิงแอดทั้ง 6 ข้อสำคัญที่แองก้าเรียนรู้มาจากการทำโฆษณาให้แก่ธุรกิจของลูกค้าในหลายปีที่ผ่านมาจะมีอะไรกันบ้าง
1. Machine Learning และ AI เข้ามามีบทบาทในการทำการตลาดออนไลน์
นับตั้งแต่ที่ AI (Artificial Intelligence) เริ่มเข้ามามีบทบาทในช่วงปลายปี 2022 ทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นในปี 2024 ว่าแต่ละแพลตฟอร์มต่างพยายามพัฒนาระบบของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ตัวเองเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความช่วยเหลือและสร้างประโยชน์แก่ผู้ใช้งานมากที่สุด รวมทั้งยังอยากให้ผู้ใช้งานมองว่าตัวเองเป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นและล้ำหน้ากว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในท้องตลาดด้วย
ยกตัวอย่างเช่นการยิงแอดบน Google ที่ในสมัยก่อนเราจะใช้แรงและมันสมองของมนุษย์ 70% และให้ระบบของ Google ทำงานในส่วน 30% ที่เหลือ แต่ตอนนี้ได้นำ Machine Learning และ AI มาผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อให้ระบบของตัวเองสามารถรันโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพและฉลาดยิ่งกว่าเดิม ควบคู่ไปกับการลดภาระให้แก่มนุษย์
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ลูกค้าของเอเจนซี่รับยิงแอดบางราย มองว่าเอเจนซี่จะทำงานได้ง่ายขึ้น มีเวลาว่างมากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ปฏิเสธว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาช่วยให้เราทำงานง่ายขึ้น แต่ไม่ได้แปลว่าเอเจนซี่จะมีเวลาเยอะขึ้นกว่าเดิม เพราะในท้ายที่สุดมันสมองและการตัดสินใจของมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญ แถมยังแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ Machine Learning หรือ AI
การวิเคราะห์และวางกลยุทธ์ทำโฆษณายังคงเป็นส่วนของมนุษย์อย่างเราอยู่ แต่เราจะต้องเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ลงไปในชิ้นงานมากขึ้น และเราสามารถให้เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเราลดงานด้าน Asset ได้ (Asset คือองค์ประกอบที่ใช้ในการยิงโฆษณา อย่างรูปภาพ วิดีโอ โลโก้ หรือ Ads Copy)
นอกจากนี้ ยังมีข่าวคราวจากฝั่ง Facebook Ads แว่ว ๆ มาว่า Facebook อาจจะนำ AI และ Machine Learning มาใช้ในการทำ Retargeting มากขึ้น เนื่องจากนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดขึ้นของ iOS และ Google ทำให้ Facebook เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม จึงได้เริ่มพัฒนาระบบ Machine Learning ของตนเอง เพื่อนำมาใช้เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงโฆษณาให้แม่นยำขึ้นด้วย
2. การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ Cookies Third-party
ในปี 2019 ทาง Google ได้ประกาศออกมาว่าจะยกเลิกการเก็บ Cookies บน Chrome โดยเริ่มจากการทดสอบกับผู้ใช้งาน Google Chrome 1% ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 และคาดว่าจะครบถ้วน 100% ในเดือน กรกฎาคม 2024 ส่งผลให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่าง Facebook ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลการเข้าเว็บไซต์และพฤติกรรมของผู้ใช้ได้
แต่แล้ว Google ก็ดันกลับลำไม่ยกเลิก Third-Party Cookies แล้ว! เพราะมีเสียงจากนักการตลาดและเจ้าของเว็บไซต์ทั่วโลกบอกว่ามันส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาในทางที่แย่ลง ประกอบกับ Google ได้รับแรงกดดันจากหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย นั่นแปลว่าสามารถใช้งานคุกกี้ได้ตามปกติ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องให้ผู้ใช้งานเลือกเองว่าจะยินยอมให้เก็บข้อมูลหรือไม่ ซึ่งความไม่แน่นอนพวกนี้ทำให้นักการตลาดต้องปรับตัวและติดตามการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : Google กลับลำไม่ยกเลิก Third-Party Cookies แล้ว
3. การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการค้นหา
การเข้ามาของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (Social Media) อย่าง Facebook, Instagram หรือ TikTok ส่งผลให้พฤติกรรมการค้นหาของผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากเดิมที่ใคร ๆ ก็ค้นหาข้อมูลบน Google เพื่อที่จะเข้าไปอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ก็หันไปค้นหาข้อมูลบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ แทน โดยเฉพาะ TikTok ที่ทำให้พฤติกรรมการค้นหาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน หลัก ๆ แล้วจะเป็นการค้นหาเกี่ยวกับรีวิว สถานที่ ร้านอาหาร และการเปรียบเทียบสินค้า บริการ หรือราคา เนื่องจากผู้บริโภคต้องการข้อมูลที่เข้าใจได้ง่ายและสรุปมาให้แล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น รูปแบบของสิ่งที่ผู้บริโภคค้นหาก็เปลี่ยนไปด้วย อย่างในเมื่อก่อนจะค้นหาสิ่งต่าง ๆ ด้วยคีย์เวิร์ด (Keyword) คำสั้น ๆ หรือ Short-tail keywords แต่ในตอนนี้ได้หันมาค้นหาด้วยประโยคยาว ๆ หรือประโยคคำถามแล้ว เช่น “วันนี้เมื่อ 30 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น” หรือ “ถ้าจะเดินทางไปที่ XXX โดยหลีกเลี่ยงเส้นทางนี้ ต้องเดินทางไปยังไง” เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้ปริมาณ Traffic ที่เข้ามาบนเว็บไซต์ลดลง แต่ในขณะเดียวกันมันก็ถือว่าเป็นโอกาสใหม่ ๆ ให้นักการตลาดได้เรียนรู้และกระโดดเข้าไปทำการตลาดออนไลน์ในแพลตฟอร์มที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การเรียนรู้และปรับตัวตามพฤติกรรมการค้นหาที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งสำคัญมากในปี 2025 ที่นักการตลาดควรทำ
4. Video Ad : สั้น เร็ว และ Interactive
เทรนด์วิดีโอสั้นยังคงเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองในปี 2025 โดยเฉพาะกับการยิงโฆษณาด้วยวิดีโอสั้น เพราะตอนนี้ทุกแพลตฟอร์มได้รองรับการแสดงผลของวิดีโอสั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งวิดีโอที่สั้น กระชับ และมีความ Interactive จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างรวดเร็วและสร้างผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. Cross-Platform Retargeting เป็นมาตรฐานใหม่
Cross-Platform Retargeting เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้เจ้าของแบรนด์เข้าใจ Customer Journey ได้ดีขึ้น สามารถติดตามได้ว่าผู้บริโภครู้จักแบรนด์จากช่องทางไหนเป็นที่แรก มีพฤติกรรมอย่างไร มีการใช้งานแพลตฟอร์มไหนบ้าง และตัดสินใจซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มใดในท้ายที่สุด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ E-commerce เพราะถ้าคุณรู้ข้อมูลเหล่านี้ คุณจะสามารถวางกลยุทธ์การตลาดและจัดสรรงบประมาณได้อย่างเหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว คุณคงไม่รู้หรอกว่าลูกค้ามีพฤติกรรมอย่างไรบ้างกว่าจะซื้อสินค้า หรือรู้จักสินค้าจากช่องทางไหน แต่ Cross-Platform Retargeting นี่แหละ จะทำให้คุณเข้าถึงและเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าอย่างละเอียด
ตัวอย่าง : ลูกค้าไปเดินเล่นที่ห้างวันที่ 8 > รู้จักสินค้าจากหน้าร้านที่ตั้งอยู่ในห้าง > กลับมาบ้านค้นหารีวิวสินค้าบน TikTok > เข้า Instagram ดูข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและแบรนด์เพิ่มเติม > เข้า Lazada เพื่อดูสินค้าและเปรียบเทียบราคากับแบรนด์อื่น ๆ > ตัดสินใจซื้อสินค้าในวันที่ 15 เพราะมีคูปองส่วนลดจากแคมเปญ Mid Month Sale เยอะ
6. โฆษณาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาด
ถ้าคุณยังคิดว่าการยิงโฆษณาอย่างเดียว จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและเพิ่มยอดขายได้ คุณคิดผิด! เพราะในปี 2025 การยิงโฆษณาเพียงอย่างเดียวจะไม่เพียงพออีกต่อไป แบรนด์และเจ้าของธุรกิจจะต้องหันมาผสมผสานกลยุทธ์การตลาดหลากหลายรูปแบบเข้าไปด้วย ยิ่งทำการตลาดบนมากแพลตฟอร์ม และหลายกลยุทธ์มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้แบรนด์เติบโตได้ไวมากเท่านั้น อาทิ การทำ Influencer Marketing ควบคู่ไปกับการทำ SEO (Search Engine Optimization) และยิงโฆษณาออนไลน์ อาทิ Google Ads, Facebook Ads, TikTok Ads, Instagram Ads, YouTube Ads ฯลฯ
บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 6 ข้อสำคัญและเทคนิคยิงแอดที่เราเอามาฝากกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่าการตามเทรนด์ให้ทันและทักษะในการปรับตัวถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าคุณตามไม่ทันเทรนด์และยังปรับตัวได้ช้ากว่าใครด้วย อาจทำให้คุณพลาดโอกาสและโดยแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดได้ ซึ่งการตามเทรนด์ให้ทันในปี 2025 ไม่ใช่แค่การปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่เป็นการเรียนรู้และเข้าใจเทรนด์ต่าง ๆ ให้เร็วกว่าคู่แข่งด้วย แน่นอนว่าในปี 2025 การทำการตลาดออนไลน์จะมีความเข้มข้นและซับซ้อนมากขึ้น โดยผู้ที่สามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและข้อมูลได้อย่างชาญฉลาดจะเป็นผู้ได้เปรียบในตลาดนั่นเอง