รู้จักประเภทของ Keyword ในการทำ SEO อัปเดต 2024
ทุกคนรู้ว่าผลลัพธ์จากการทำ SEO ที่ประสบผลสำเร็จ คือการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบนหน้าแรกของ Search Engine อย่าง Google แต่การที่จะทำให้ Google ดึงเว็บไซต์ของเราไปแสดงผลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะ Google จะพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยแตกต่างกัน อาทิ คุณภาพของเว็บไซต์, คุณภาพของเนื้อหา, ประเภทของเนื้อหา, ความเร็วเว็บไซต์ ฯลฯ และหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกใช้ Keyword นั่นเอง
SEO Keyword เป็นกุญแจสำคัญในการไขประตูสู่การเป็นอันดับหนึ่งบน Google แต่ใช่ว่าคุณจะเลือก คีย์เวิร์ดอะไรมาใช้ก็ได้ คุณต้องพิจารณาประเภทของ Keyword ให้ดี และเลือกคีย์เวิร์ดให้เหมาะสมกับเนื้อหา จึงจะสามารถทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลได้จริง
ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มทำบทความ SEO หรือดำเนินการทำ SEO ในขั้นตอนอื่น ๆ คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยการทำ Keyword Research และวางแผนคีย์เวิร์ดให้ดีก่อน และในวันนี้ทางแองก้า (ANGA) บริษัทรับทำ SEO ในกรุงเทพฯ จะมาแนะนำให้คุณได้รู้จักกับประเภทของ Keyword กันอย่างละเอียด!
5 ประเภทของ Keyword ที่คนทำ SEO ต้องรู้จัก!
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักประเภทของ Keyword เรามาทวนความจำกันสักนิดว่า Keyword คืออะไร? SEO Keyword (คีย์เวิร์ด) คือ คำ, วลี หรือกลุ่มคำ ที่คนใช้ในการค้นหาข้อมูลบน Search Engine เช่น “วิธีทำการตลาดออนไลน์”, “SEO คืออะไร”, “โฆษณา Facebook Ads” , “ฟิลเลอร์” หรือ “ประโยชน์ของการทำ Backlink คืออะไร” เป็นต้น
ซึ่งคีย์เวิร์ดยังสามารถแบ่งแยกออกไปได้หลายประเภท และแต่ละแห่งอาจจะมีชื่อเรียกประเภทของ Keyword ไม่เหมือนกัน แม้จะเป็นคีย์เวิร์ดที่มีนิยามเหมือนกันก็ตาม และนี่คือ 5 ประเภทของ Keyword ที่คนทำ SEO ต้องรู้จัก!
1. Generic Keyword
Generic Keyword เป็นคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง มักจะเป็นวลีหรือคำสั้น ๆ ที่มีความหมายกว้าง ๆ เช่น ฟิลเลอร์, เว็บไซต์, รองเท้าวิ่ง, หูฟังไร้สาย, ปากกาลูกลื่น, แว่นตากันแดด, ครีมทามือ, เที่ยวทะเล, เสื้อยืด, ยิงแอด, กาแฟ ฯลฯ ที่ผู้ค้นหาไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ มาก่อน
ซึ่งคีย์เวิร์ดประเภทนี้ มีการแข่งขันสูงมาก ใช้เวลานานกว่าที่จะติดอันดับบนหน้าแรก เพราะเว็บไซต์ของคุณจะต้องแข็งแรงและเชี่ยวชาญในด้านนั้นจริง ๆ ก่อน โดย Generic Keyword ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีกด้วย คือ Mass Keyword, Seed keyword และ Short Keyword
2. Niche Keyword
Niche Keyword เป็นคีย์เวิร์ดที่มีความเจาะจงมากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง มีปริมาณการค้นหาน้อยกว่า Generic Keyword ซึ่งผู้ที่ทำการค้นหาจะรู้จักสิ่งนั้นในระดับหนึ่งและรู้ว่าตัวเองอยากจะรู้อะไร โดย Niche Keyword จะเป็นการนำ Generic Keyword มาประกอบกับคำขยายในเรื่องที่ต้องการรู้ หรือคุณสมบัติของสินค้า เช่น รองเท้า Adidas, ที่เที่ยว เชียงใหม่, กาแฟ ดอยช้าง, เอเจนซี่การตลาดออนไลน์, ร้านอาหารญี่ปุ่น ทองหล่อ, ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี หรือหูฟัง ราคาถูก เป็นต้น
3. Long-Tail Keyword
Long-Tail Keyword คือคีย์เวิร์ดยาว ๆ ที่มีความเฉพาะเจาะจง มีการใส่รายละเอียดที่ต้องการรู้ลงไป มีปริมาณการค้นหาน้อย คู่แข่งน้อย มักจะใช้ระยะเวลาในการติดอันดับ SEO น้อยกว่าคีย์เวิร์ดประเภทอื่น ๆ ซึ่งผู้ที่ทำการค้นหาข้อมูลด้วย Long-Tail Keyword มักจะเป็นคนที่พร้อมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้านั้นแล้ว
ตัวอย่าง Long-Tail Keyword เช่น เอเจนซี่รับทำโฆษณาในกรุงเทพฯ, ที่เที่ยวภาคเหนือ ปี 2567, รองเท้าผ้าใบ ผู้หญิง สีขาว ราคาถูก, เสื้อผ้าผู้ชายแบรนด์ไทย สไตล์มินิมอล, ร้านอาหารอิตาเลียนอร่อย ๆ ในกรุงเทพฯ หรือ บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress เป็นต้น
4. Branded Keyword
Branded Keyword คือคีย์เวิร์ดที่ประกอบไปด้วยสินค้าหรือบริการและชื่อแบรนด์ของคุณ เช่น รับทำ SEO ANGA, รถยนต์ Honda, หูฟัง Apple, ชาไทย ตรามือ, ไก่ทอดสูตร KFC, แป้งเย็น ตรางู ฯลฯ ซึ่งผู้ที่ทำการค้นหาจะเป็นผู้ที่รู้จักแบรนด์ของคุณมาในระดับหนึ่งอยู่แล้ว รู้ว่าแบรนด์ของคุณขายสินค้าอะไร ให้บริการอะไร โดยมักจะค้นหาเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการสินค้าก็ได้
5. Keyword ที่ถูกค้นหาด้วยจุดประสงค์
นอกจากประเภทของ Keyword ทั้ง 4 ประเภทที่ได้แนะนำไปแล้ว ยังมีคีย์เวิร์ดที่แบ่งประเภทตามจุดประสงค์ในการค้นหาด้วย นั่นก็คือ Transactional Keyword, Informational Keyword, Commercial Keyword และ Navigational Keyword โดยมีรายละเอียดดังนี้
- Transactional Keyword : ประเภทของคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าทำการค้นหา หลังจากเปรียบเทียบข้อมูลของสินค้าต่างยี่ห้อกันแล้ว ซึ่งมีความพร้อมในการซื้อสินค้าอย่างมาก เช่น ซื้อ iPad, รองเท้า Nike ของแท้, ร้านขายลำโพง ฯลฯ
- Informational Keyword : ประเภทของคีย์เวิร์ดที่มีจุดประสงค์ในการหาข้อมูลของสิ่งนั้น ๆ เช่น SEO คืออะไร, ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง, มีวิธีทำอย่างไร, ราคาเท่าไหร่ หรือวิธีตัดผมหน้าม้า เป็นต้น
- Commercial Keyword : ประเภทของคีย์เวิร์ดที่ใช้ค้นหาก่อนตัดสินใจจ่ายเงิน ซึ่งเป็นคำที่มีความเฉพาะเจาะจงมาก เช่น ซ่อมแอร์ ราคา, แว่นตา ราคาไม่เกิน 2,000 บาท, เคสไอโฟน 15 ราคา ฯลฯ
Navigational Keyword : ประเภทของคีย์เวิร์ดที่มีการใส่คำเฉพาะเจาะจง หรือชื่อแบรนด์ลงไปด้วย เช่น จองตั๋วเครื่องบิน นกแอร์, บริษัททำการตลาด แองก้า, รถทัวร์ไปเชียงใหม่ นครชัยแอร์ หรือไก่เกาหลี GuGu Chicken เป็นต้น
แนะนำเครื่องมือทำ Keyword Research
Keyword Research คือ ขั้นตอนแรกของการทำ SEO ก็ว่าได้ จะเป็นกระบวนการหา SEO Keyword ที่เหมาะสมและตอบโจทย์กับธุรกิจของคุณมากที่สุด หรือจะเรียกว่าเป็นการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ “ใช่” ก็ได้เช่นกัน ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการทำ Keyword Research ก็มีให้เลือกใช้งานอยู่หลายตัว มีทั้งใช้งานได้ฟรีและเสียค่าใช้จ่าย โดยแต่ละเครื่องมือก็มีฟังก์ชันการใช้งาน หรือความละเอียดที่แตกต่างกันไป สำหรับเครื่องมือ Keyword Research ที่เราอยากแนะนำ มีดังต่อไปนี้
- Google Keyword Planner เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดจาก Google มีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือสูง สามารถใช้งานได้ฟรี แต่จะต้องมีบัญชี Google Ads เสียก่อน
- Ubersuggest เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ได้รับความนิยม เพราะรองรับภาษาไทย มีความแม่นยำ และใช้งานได้ง่าย ซึ่งคุณสามารถเข้าไปทดลองใช้งานได้ฟรี
- Ahrefs เครื่องมือเด็ดสำหรับคนทำ SEO นอกจากจะช่วยหาคีย์เวิร์ดแล้ว ยังใช้ในการตรวจสอบเว็บไซต์และดูคู่แข่งได้อีกด้วย
- Google Trends ใช้ดูไอเดียคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนั้น ซึ่งเราสามารถหยิบจับคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง ๆ ในช่วงนั้นมาทำคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ได้
- SEMRush เครื่องมือ Keyword Research ที่มีความละเอียดและช่วยเราทำ SEO ได้แบบครอบคลุมทุกด้าน ครบจบในตัวเดียว
บทสรุป
จบลงแล้วกับบทความ “รู้จักประเภทของ Keyword ในการทำ SEO ฉบับอัปเดตปี 2024” จะเห็นได้ว่าคีย์เวิร์ดมีหลายประเภทมาก แต่ละประเภทก็มีจุดประสงค์ในการใช้งานแตกต่างกันไป ซึ่งเราหวังว่าคุณจะสามารถแยกแยะประเภทของ Keyword ออกได้แล้ว เมื่อเห็นคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้า
อย่างไรก็ตาม ประเภทของ Keyword เหล่านี้ อาจไม่ได้สำคัญเท่ากับกลยุทธ์ในการเลือกคีย์เวิร์ดไปใช้งาน ซึ่งสกิลในการเลือกคีย์เวิร์ดในการทำ SEO นั้น จะต้องอาศัยประสบการณ์จริง จึงจะทราบได้ว่าคีย์เวิร์ดประเภทใด รูปแบบไหน หรือคำไหน เหมาะกับคอนเทนต์แบบไหนบ้าง
นอกจากนี้ เรายังอยากให้คุณให้ความสำคัญกับเรื่องอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ, การเขียนคอนเทนต์ให้ตรงตามหลัก Google E-E-A-T, การวางโครงสร้าง On-Page ที่ถูกต้อง หรือการปรับปรุงคุณภาพของเว็บไซต์ให้โหลดเร็ว และแสดงผลได้ดีในทุกอุปกรณ์ก็ตาม เพราะปัจจัยในการจัดอันดับ SEO นั้น ยังอยู่ที่สิ่งเหล่านี้ด้วย ไม่ได้อยู่ที่คีย์เวิร์ดเพียงอย่างเดียว หากคุณทำทุกอย่างได้ตามมาตรฐานและเหมาะสม รับรองว่าเว็บไซต์ของคุณจะสามารถติดหน้าแรกได้อย่างแน่นอน!