SEO แตกต่างกับ SEM อย่างไร? แต่ละธุรกิจควรเลือกทำแบบไหน
เข้าสู่ปี 2023 แบบเต็มตัว ธุรกิจออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เว็บไซต์กลายเป็นช่องทางหลักในการขายสินค้า ส่งผลให้หลายๆ แบรนด์หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่องทางนี้ให้โดดเด่นและใช้งานง่ายมากขึ้น ประกอบกับการทำให้เว็บไซต์ ไปอยู่บนหน้าแรกๆ Google ผ่านการ Search Engine ของลูกค้า ก็เป็นสิ่งที่แบรนด์ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะหากวางแผน Keyword สำหรับการทำ SEO และ SEM พร้อม ก็จะช่วยให้ลูกค้าหาแบรนด์เจอแน่นอน แต่เชื่อว่าหลายคนยังแยกไม่ออกว่า SEO SEM ต่างกันอย่างไร เราจึงนำข้อดี ข้อเสีย และการใช้งานของทั้งสองเครื่องมือนี้มาบอกกัน แต่ก่อนจะไปดูการใช้งาน หลายๆ คนเริ่มคุ้นและเกิดคำถามว่า SEO SEM marketing คืออะไร เพราะเห็นบ่อยในการทำการตลาดออนไลน์ เราเลยขออธิบายให้ฟังคร่าวๆ สำหรับทั้งสองเครื่องมือนี้ คือกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่จะช่วยให้ลูกค้า สามารถเห็นสินค้าหรือการบริการผ่านการเสิร์จคีย์เวิร์ดต่างๆ โดยที่การทำ SEO จะช่วยให้บทความไปติดอยู่หน้าแรกของการค้นหา ส่วนการทำ SEM จะเป็นการซื้อโฆษณาให้คุณเห็นบทความนั้นจากคีย์เวิร์ดที่ถูกค้นหานั่นเอง ดังนั้นลองมาดูว่า SEO ต่างกับ SEM อย่างไรบ้าง
SEO (Search Engine Optimization)
สำหรับ SEO หรือ Engine Optimization เป็นการทำการตลาดออนไลน์เพื่อช่วยให้เว็บไซต์, แฟนเพจ และบล็อกของธุรกิจของเรา ขึ้นไปติดอันดับหน้าแรกของ Google เมื่อมีการค้นหาด้วย Keyword ซึ่งคุณสามารถเลือกคีย์เวิร์ดที่คนนิยมค้นหามากที่สุด นำมาปรับใช้กับการทำการตลาดขององค์กรได้ ซึ่งลักษณะของการทำ SEO โดยไม่ซื้อโฆษณาจะถือเป็น การ Search แบบ Organic โดยขั้นตอนในการทำ SEO จะต้องอาศัยหลายองค์ประกอบ ทั้งการกำหนดคีย์เวิร์ด ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือการบริการ และนำมาเขียนในรูปแบบของคอนเทนต์หรือบล็อก รวมถึงต้องมีการทำ Backlink หรือการฝากลิงก์ของเว็บไซต์ของเรา ไว้บนเว็บไซต์อื่นๆ เพราะจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับหน้าแรกๆ ในการค้นหาแบบ Organic เราจึงเห็นได้ว่าหลายๆ สินค้าชื่อดัง มีการเน้นการทำ SEO มากยิ่งขึ้น ณ เวลานี้
SEM (Search Engine Marketing)
การทำ SEM หรือ Search Engine Marketing เป็นการทำการตลาดออนไลน์ ที่ผ่านการค้นหาบนอินเทอร์เน็ต โดยใช้การซื้อโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับแรก ผ่านการค้นหา Keyword ที่ทาง Google กำหนดไว้ โดยคุณสามารถสังเกตและดูว่า SEO SEM ต่างกันอย่างไรได้ตรงที่ SEM จะมีคำว่า AD ปรากฏอยู่หน้าเว็บไซต์ และคุณจะต้องเสียเงินทุกครั้ง เมื่อมีคนกดเข้ามาที่โฆษณาของคุณ เมื่อทราบแล้วว่าทั้งสองเครื่องมือ ใช้งานแบบไหน ลำดับต่อไปมาดู ประโยชน์ SEO กับ SEM กันบ้าง นอกจากจะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างถูกต้อง ยังทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่า ประโยชน์ของ SEO SEM marketing คืออะไร กันแน่
ข้อดีและข้อเสีย ของการทำ SEO (Search Engine Optimization)
ข้อดีแรกของการทำ SEO คือสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ และไม่จำเป็นต้องใช้เงินในการโฆษณา นอกจากคุณจะจ้างผู้เชี่ยวชาญ หรือ Influencer ในการผลิตคอนเทนต์ให้กับเว็บไซต์ของคุณ แต่ข้อเสียคือ เป็นกลยุทธ์ที่ต้องใช้เวลา และความสม่ำเสมอในการผลิตคอนเทนต์แบบต่อเนื่อง เพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์ในระยะยาว โดยคุณไม่สามารถกำหนดได้ว่าเว็บไซต์จะอยู่หน้าแรกได้นานเท่าไหร่ ดังนั้นคุณจึงต้องทำคอนเทนต์ และ backlink กับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ SEO ต่างกับ SEM
ข้อดีและข้อเสีย ของการทำ SEM (Search Engine Marketing)
ข้อดีแรก สำหรับการทำ SEM คือใช้ระยะเวลาสั้นในการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับแรกในการค้นหา และมองเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งการันตีเลยว่าลูกค้าจะเห็นเว็บของคุณในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน แต่ข้อเสีย คือคุณต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีการแข่งขันสูงใน Keyword ที่คุณต้องการ มาถึงตอนนี้ หลายคนอาจเกิดคำถามว่า SEO vs SEM คือการทำการตลาดออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ที่ต้องแยกกันทำหรือไม่ ซึ่งตามความเป็นจริง เราควรทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป เพราะการทำ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีบทความที่ดี และตรงใจของผู้อ่าน แต่อาจใช้เวลานานในการที่จะขึ้นมาแสดงผลในหน้าแรก ทำให้การทำ SEM ในช่วงต้นของการพัฒนาเว็บไซต์จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้ แต่ข้อสำคัญคือต้องไม่ลืมว่าเนื้อหาภายใน เป็นสิ่งสำคัญ หากเนื้อหาไม่มีประโยชน์ และไม่สอดคล้องกับคีย์เวิร์ด ก็ทำให้เว็บไซต์ของคุณไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สามารถติดอันดับในหน้าแรกได้ ทั้งหมดนี้ก็คือ ประโยชน์ SEO กับ SEM ส่วนจะเลือกใช้แบบไหน ก็ต้องวิเคราะห์ผลลัพธ์ และความเหมาะสมกันให้ดี ไม่เช่นนั้นคุณอาจเสียเงินและเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ในการทำธุรกิจของคุณได้