1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. 7 วิธีทำการตลาดสำหรับคลินิกเสริมความงาม ในปี 2024
ทำการตลาดคลินิกเสริมความงาม
เผยแพร่เมื่อ: ตุลาคม 20, 2023 | แก้ไขเมื่อ: กรกฎาคม 26, 2024

7 วิธีทำการตลาดสำหรับคลินิกเสริมความงาม ในปี 2024

Table Of Contents

ธุรกิจคลินิกเสริมความงามเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันกันดุเดือดมาก ไม่มีใครยอมใคร และยังมีคู่แข่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ทุกวัน ซึ่งการทำการตลาดคลินิกเสริมความงามนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะว่าธุรกิจนี้ มีคำต้องห้ามและกฎต่าง ๆ ที่คุณไม่ควรทำเพียบ และข้อห้ามเหล่านั้น ดันเป็นสิ่งที่ลูกค้าชอบ และสามารถดึงลูกเค้าเข้ามาใช้บริการได้นี่สิ แล้วแบบนี้เราจะทำการตลาดคลินิกเสริมความงามให้มีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎอย่างไรล่ะ?
ANGA (แองก้า) จะมาคลายข้อสงสัยและแนะนำ 7 วิธีทำ SEO และทำการตลาดคลินิกเสริมความงามในปี 2024 ให้คุณทราบกัน จากประสบการณ์การทำการตลาดออนไลน์ให้แก่ธุรกิจคลินิกความงามที่อัดแน่น มีผลลัพธ์จากการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จมากมาย เราจึงมั่นใจได้ว่าคุณสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ ในบทความนี้ไปใช้งานได้จริง!

Doing Marketing for Aesthetic Clinic

7 วิธีทำการตลาดคลินิกเสริมความงาม ในปี 2024

การแข่งขันกันของธุรกิจคลินิกเสริมความงามคือ Red Ocean อย่างแท้จริง หรือหมายความว่าตลาดนี้ เป็นตลาดที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด หากคุณจะลงไปเล่น คุณต้องต่อสู้กับคู่แข่งจำนวนมาก มีการวางกลยุทธ์ที่แยบยล และมีจุดเด่นที่แข็งแรง จึงจะสามารถชนะใจลูกค้าและดึงลูกค้ามาจากคู่แข่งได้ เนื่องจากการตลาดคลินิกเสริมความงามนั้น มักจะสู้กันด้วย “ราคาถูก” เป็นหลัก และตัวบริการก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากเท่าไหร่เช่นกัน

ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องทำคือการทำให้ลูกค้าสนใจในตัวคลินิกคุณ รวมทั้งมีความเชื่อมั่นไว้ใจ และภักดีด้วย จึงจะทำให้คุณสามารถอยู่รอดต่อไปในธุรกิจอันแดงเดือดนี้ได้ ก่อนอื่น คุณลองมาทำความเข้าใจกับ 7 วิธีทำการตลาดคลินิกความงามกันก่อนดีกว่า

1. รู้จักกลุ่มเป้าหมายและเลือกใช้กลยุทธ์ให้ดี

เคยไหม? ที่คุณดั้นด้นทำการตลาดออนไลน์ด้วยแคมเปญต่าง ๆ มากมาย จัดกิจกรรมให้ลูกค้าเล่นเพียบ และยังออกโปรโมชั่นเด็ด ๆ อีกหลายโปรฯ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ตลอด อาจจะหมายความว่าคุณยังไม่รู้จักกลุ่มเป้าหมายดีพอ ยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วลูกค้าคุณต้องการอะไรกันแน่ หรืออาจจะเป็นการใช้กลยุทธ์ในการทำการตลาดแบบผิด ๆ อยู่ก็เป็นไปได้

อย่างแรกเลยคือคุณต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณก่อน ว่าเป็นเพศไหน อายุประมาณเท่าไหร่ มีไลฟ์สไตล์อย่างไร อาจจะเรียนรู้จากการสอบถามความคิดเห็นของลูกค้าอยู่เสมอ ทำการวิจัยตลาด ทำการทดลอง เรียนรู้จากคู่แข่ง ฯลฯ จากนั้น ก็เลือกกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมกลุ่มเป้าหมายของคุณ ซึ่งกลยุทธ์ยอดฮิต ที่ถูกนำมาใช้ในการทำการตลาดคลินิกเสริมความงาม คือ Pull Marketing หรือการดึงดูดลูกค้าให้เดินเข้ามาหาเราเอง

2. สร้างจุดแข็งให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

คลินิกเสริมความงามจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ คลินิกศัลยกรรม และคลินิกผิวพรรณ หรือบางคลินิกอาจจะให้บริการทั้งศัลยกรรมและผิวพรรณก็ได้เช่นกัน อย่างน้อย ๆ คุณต้องรู้ว่าคู่แข่งของคุณแต่ละคลินิก มีจุดเด่นจุดแข็งเรื่องอะไร? และบริการหลักที่คุณอยากชูให้เด่นที่สุดคืออะไร? นอกจากนี้ คุณจะต้องรู้ให้ได้ว่าคุณดีกว่าคู่แข่งตรงไหน จึงจะสามารถทำการตลาดได้อย่างแม่นยำ

ตัวอย่างเช่น

ANGA Clinic เป็นคลินิกเสริมความงามที่ให้บริการเรื่องผิวพรรณเป็นหลัก แพทย์เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ และมีผู้เข้ามาใช้บริการจริงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ใช้เทคนิคเฉพาะตัวที่ชื่อว่า Beauty Chin เรียกได้ว่าถ้าอยากคางสวยเป๊ะด้วยฟิลเลอร์ ต้องมาที่ ANGA Clinic เท่านั้น

ดังนั้น จุดแข็งหรือจุดเด่นของ ANGA Clinic ก็จะเป็นการฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิค Beauty Chin ที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์คางกับที่อื่น อาจจะเป็นเรื่องการปั้นทรงได้สวย แพทย์มือเบามาก ไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ซ้ำ หรือมีเทคโนโลยีในการวิเคราะห์รูปหน้า ต่าง ๆ ก็ได้ (คุณต้องหาสิ่งเหล่านี้ให้เจอ เพื่อนำมาใช้เป็นจุดขาย)

การตลาดคลินิกเสริมความงาม

3. สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่คลินิก

ถึงจะมีคลินิกเสริมความงามมากมายเต็มไปหมด แต่ก็ใช่ว่าจะถูกกฎหมายและได้มาตรฐานทั้ง 100% บางคลินิกก็ใช้ยาปลอมเพื่อลดต้นทุน บางคลินิกก็ทำให้คนเสียชีวิต และอื่น ๆ อีกสารพัด ทำให้ความไว้ใจของลูกค้าที่มีต่อคลินิกเสริมความงามลดลงไปอย่างมาก วิธีทำการตลาดคลินิกเสริมความงามที่จะทำให้ลูกค้ากล้าใช้บริการคลินิกของคุณ หลัก ๆ คือ การสร้างความน่าเชื่อถือนั่นเอง

  • สร้างตัวตนบนในโลกออนไลน์ ซึ่งช่องทางหลัก ๆ ก็จะมีเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และบัญชีไลน์ทางการ
  • มีการปักหมุดแผนที่ชัดเจน (Google Maps) และสร้างโปรไฟล์ใน Google My Business
  • เปิดพื้นที่ให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาแชร์ประสบการณ์ได้ เช่น Facebook Group
  • เผยแพร่เทคโนโลยีหรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่มีความทันสมัยและปลอดภัย บนสื่อออนไลน์
  • มีการเปิดเผยรายชื่อแพทย์อย่างชัดเจน (ลูกค้าอาจจะนำชื่อแพทย์ไปค้นหาในเว็บไซต์แพทยสภาได้)
  • โพสต์รีวิวผลลัพธ์จากการรักษาอย่างสม่ำเสมอ และโพสต์บนทุกช่องทางที่คุณมีจะดีที่สุด

4. อัปเดตข้อมูลข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ

การอัปเดตข้อมูลข่าวสารที่ว่านี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเลยคือการอัปเดตข่าวสารใหม่ ๆ บน Social Media (ที่นิยมที่สุดคือ Facebook และ LINE@) เพื่อให้ผู้ติดตามเห็นความเคลื่อนไหวของคุณอยู่เสมอ คอนเทนต์ที่ทำออกไป สามารถเป็นได้ทั้งจุดเด่นของคลินิก โปรโมชั่นประจำเดือน ความรู้ ข้อดีของการทำหัตถการต่าง ๆ หรือจะเป็นคอนเทนต์เรียลไทม์ก็ได้เช่นกัน

ส่วนที่สองคือการอัปเดตองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับบริการของคุณ โดยเฉพาะการเขียนบทความลงบนเว็บไซต์ ซึ่งการทำเช่นนี้ จะช่วยให้คุณได้ฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น, มีคนรู้จักคลินิกคุณมากขึ้น, ทำให้คนเชื่อว่าคุณคือผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้จริง ๆ และยังทำให้เว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพขึ้นอีกด้วย

5. หลีกเลี่ยงการกระทำที่ผิดกฎ

ไม่ว่าจะเป็น Google เอง หรือ Facebook เอง ล้วนมี “ข้อห้าม” หรือ “กฎเกณฑ์” ของมันอยู่ รวมไปถึง “คำต้องห้าม” ที่ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ประกาศออกมาด้วย ซึ่งข้อห้ามเหล่านี้ มีความมุ่งเน้นไปที่การทำการตลาดคลินิกเสริมความงามอย่างเฉพาะเจาะจง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อาจมีภาพโป๊เปลือย ภาพหวาดเสียว และรวมไปถึงเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อร่างกาย จนอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

จึงมีข้อห้ามมากมายที่คลินิกความงามต้องระวัง หากคุณทำผิดกฎล่ะก็ คุณอาจจะโดนปรับ และอาจจะโดนแบนช่องทางนั้นทำการตลาดนั้น ๆ ไปเลยก็ได้ ด้วยเหตุนี้ ก่อนเผยแพร่อะไรลงไปบนโลกออนไลน์ อย่าลืมตรวจเช็กก่อนว่ามีคำต้องห้ามหรือไม่ ตัวอย่างเช่น เห็นผลทันที, เพียง (เพียง XXX บาท), การันตีผลลัพธ์, ลดน้ำหนัก, อันดับ 1, ครบวงจร, เท่านั้น ฯลฯ

Content Marketing for Clinic

6. สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า

สิ่งที่ลูกค้าคาดหวังเมื่อเข้าไปใช้บริการคลินิกเสริมความงามทุก ๆ แห่ง คือ การได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไป การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ หากคลินิกของคุณมีบริการที่ดี ใส่ใจลูกค้าเก่า-ใหม่เท่าเทียมกัน เอาใจใส่ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด และไม่มีเล่ห์เหลี่ยมโกงลูกค้า ลูกค้าจะรู้สึกประทับใจในการใช้บริการคลินิกของคุณ ซึ่งอาจจะเอาไปบอกต่อ รีวิว และกลับมาใช้ใหม่ก็เป็นได้

ในทางกลับกัน หากคุณไม่พยายามสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า จ่ายเงินมาก็จบ เลิกดูแล ไม่สนใจไยดีอีกต่อไป ลูกค้าเก่าจะไม่กลับไปมาใช้งาน และอาจจะไปแชร์ประสบการณ์ยอดแย่นี้ให้ผู้อื่นรู้ ทำให้ลูกค้าใหม่ของคุณลดน้อยลงไปด้วย แน่นอนว่ายอดขายจะตก และคุณจะทำการตลาดเพื่อสร้างชื่อเสียงใหม่ ในระดับที่ยากกว่าตอนเริ่มต้นเสียอีก

7. ให้เอเจนซี่ช่วยทำการตลาดออนไลน์ในช่วงแรก

อย่างที่เราได้บอกไปว่าการทำการตลาดคลินิกเสริมความงามนั้นยากมาก เพราะมีการแข่งขันที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของธุรกิจทั้งหมด ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ที่ผิด วางโครงสร้างรากฐานไม่ถูกจุด คุณจะต้องมาปวดหัวและรื้อทั้งใหม่ทิ้งอยู่ตลอด ไม่เช่นนั้น บางทีคุณอาจจะเลียนแบบคู่แข่งมากเกินไป จนกลายมาเป็นผลเสียต่อธุรกิจของคุณเองก็ได้

จะดีกว่าไหม? หากคุณให้ Digital Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยตรง อย่าง ANGA เข้ามาช่วยทำการตลาดออนไลน์ให้แก่ธุรกิจคลินิกเสริมความงามของคุณ ข้อดีของการจ้างเอเจนซี่ทำการตลาด คือ เห็นผลเร็ว เห็นผลจริง ได้ลูกค้าเพิ่มตามเป้า ยอดขายสูงขึ้น และจะธุรกิจของคุณจะเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างบริการการตลาดออนไลน์ของเอเจนซี่ (อ้างอิงจากบริการของ ANGA)

  • ทำ Lead Generation (ค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับคุณมากที่สุด)
  • วางกลยุทธ์ทางการตลาด พร้อมวิเคราะห์คู่แข่ง กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงจุดแข็งของคุณ
  • ออกแบบ พัฒนา และสร้างเว็บไซต์ WordPress ที่มีคุณภาพสูง รองรับการทำ SEO
  • ทำ SEO สำหรับคลินิก ตั้งแต่ขั้นตอนแรกยันขั้นตอนสุดท้าย
  • ทำโฆษณาที่มีประสิทธิภาพผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ Google Ads, TikTok Ads, Facebook Ads
  • สร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อการตลาด (Content Marketing) สำหรับทุกช่องทาง

ทำ Backlink เสริมความน่าเชื่อถือและเพิ่มคุณภาพให้แก่เว็บไซต์ของคุณ

ผลงานการทำการตลาดคลินิกเสริมความงาม โดย ANGA

ช่องทางทำการตลาด สำหรับคลินิกเสริมความงาม

ช่องทางในการทำการตลาดธุรกิจสุขภาพอย่างคลินิกเสริมความงาม ในปัจจุบันมีอยู่หลายช่องทางที่ทำแล้วให้ผลลัพธ์ที่ดี และช่วยเพิ่ม ROI ได้จริง แต่เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากคุณจะต้องใส่ใจ Algorithm ของช่องทางต่าง ๆ แล้ว คุณจะต้องทำคอนเทนต์ให้ออกมาเหมาะสมกับช่องทาง และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ในแต่ละแพลตฟอร์มด้วย ซึ่งช่องทางในการทำการตลาดคลินิกเสริมความงามที่อยากแนะนำให้คุณทำ มีดังนี้

  1. Website : ผลิตบทความ SEO เรื่องความรู้ต่าง ๆ ตามหลัก E-E-A-T เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
  2. Facebook : สร้างเพจเพื่ออัปเดตข้อมูลต่าง ๆ และสร้างกลุ่มเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาโพสต์รีวิวได้
  3. TikTok : คอนเทนต์วิดีโอสั้นเป็นไวรัลได้ง่าย เหมาะกับการสร้าง Brand Awareness อย่างมาก
  4. Instagram : ช่องทางยอดฮิตของคนยุคนี้ โพสต์ภาพเด็ดพร้อมติด # ให้ตรง รับรองปังชัวร์
  5. YouTube : สำหรับลงคลิปคุณหมอให้ความรู้ หรือลงรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง แบบจัดเต็ม
  6. LINE Official Account : ช่องทางหลักที่ใช้ในการพูดคุยกับลูกค้า และส่งโปรเด็ด ๆ ถึงหน้าจอ
Social Media Marketing for Beauty Clinic

บทสรุป เรื่องการตลาดคลินิกเสริมความงาม

ถ้าคุณอยากสำเร็จในการทำการตลาดคลินิกเสริมความงามในยุคนี้ คุณต้องหันมาทำการตลาดด้วยกลยุทธ์ที่สามารถจูงใจลูกค้าได้ รวมถึงช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์  และทำให้คลินิกของคุณมีความน่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ลูกค้าของธุรกิจความงามใช้ในการตัดสินใจว่าจะไปรับบริการที่คลินิกใด หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่าน หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญจาก ANGA ดูแล ติดต่อมาได้ที่ LINE @ANGA หรือโทร 080-054-9199

บทความที่เกี่ยวข้อง

สรุปเนื้อหาจากงาน Google Search Central Live 2024

Google Search Central Live 2024 คืองานสัมมนาที่ทาง Google จัดขึ้นมาเพื่ออัปเดตข้อมูลด้าน Google Search โดยเฉพาะ จัดเต็มไปด้วยเนื้อหาเรื่องการทำ SEO (Search Engine Optimization), Search Engine, Search
101

Google กลับลำไม่ยกเลิก Third-Party Cookies แล้ว!

ย้อนกลับไปในปี 2019 ได้มีประกาศสำคัญที่ว่า Google ยกเลิก Cookies บน Chrome และคาดว่าจะเลิกใช้ Third-Party Cookies ทั้งหมดได้ภายในปี 2024 เพราะ Google ต้องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน พร้อมทั้ง
159

Search Engine คืออะไร มีอะไรบ้าง และแบ่งออกเป็นกี่ประเภท?

หลาย ๆ คนคงจะเคยเห็นคำว่า “Search Engine (เสิร์ชเอนจิน)” ผ่านตามาบ้างแล้ว จากการอ่านบทความหรือฟังพอดแคสต์ที่พูดถึงการทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นการเพิ่ม Or
126
th