MarTech คืออะไร? การตลาดที่ผนวกเทคโนโลยี ทวีคูณผลลัพธ์ให้ธุรกิจ
“MarTech” อาจดูเหมือนเป็นสิ่งที่ไกลตัวหรือไม่คุ้นเคยสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะคำนี้ไม่ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายมากนัก แต่คุณเชื่อไหมว่า MarTech นั้นใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด เผลอ ๆ คุณอาจจะใช้งาน MarTech เป็นประจำทุกวันโดยที่ไม่รู้ตัวเลยก็เป็นได้ โดยเฉพาะผู้ที่โลดแล่นอยู่ในโลกของการทำการตลาดออนไลน์เป็นประจำทุกวัน
ซึ่งในครั้งนี้ ANGA (ดิจิตอลเอเจนซี่ด้านการตลาดครบวงจร) จะพาคุณมาเจาะลึกและทำความเข้าใจว่า MarTech คืออะไร? การตลาด MarTech มีประโยชน์ในด้านใดบ้าง? และสามารถแบ่งออกได้เป็นกี่ประเภท? บอกได้เลยว่าหลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จบแล้ว คุณจะเข้าใจเรื่อง MarTech อย่างแจ่มแจ้งแน่นอน!
Marketing Technology หรือ MarTech คืออะไร?
MarTech คือ เครื่องมือ โปรแกรม หรือซอฟต์แวร์ที่เหล่านักการตลาดนำมาใช้งาน เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพด้านการทำการตลาดให้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการสร้างผลลัพธ์ที่ทรงคุณค่าให้แก่ธุรกิจด้วย ซึ่งเราอาจจะเรียก MarTech ว่าเป็น “เทคโนโลยีทางการตลาด” หรือ “การตลาดรูปแบบใหม่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี” ก็ได้เช่นกัน
MarTech ประกอบไปด้วยเครื่องมือมากมาย และมีประโยชน์ต่อการทำการตลาดในทุก ๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การ Research, การวิเคราะห์, การจัดเก็บและจัดการข้อมูล, การสร้างคอนเทนต์, การสรุปผล, การนำเสนอ, การปิดการขาย และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งนอกจากประโยชน์ด้านการตลาดแล้ว MarTech ยังถูกนำมาใช้งานการทำงานเพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจด้วย
ประโยชน์ของ MarTech คืออะไร?
- ช่วยเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่มีปริมาณมหาศาลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และทำให้คุณเรียกใช้งานได้ง่าย ๆ
- ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พร้อมสรุปผล และแนะนำวิธีการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไปอย่างละเอียด
- รู้ทันพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย และนำข้อมูลไปปรับปรุงด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยิ่งขึ้นให้แก่กลุ่มเป้าหมาย
- ทำให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น
- ช่วยสร้างชื่อเสียงและสร้างการรับรู้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี ภายในระยะเวลาไม่นาน
- สามารถโต้ตอบและสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงแบบ Real Time
- ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และช่วยประหยัดเวลาในการเก็บข้อมูลด้วยตนเองได้มาก
- ทำให้นักการตลาดสามารถวางแผนงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
- ใช้ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์รูปแบบต่าง ๆ เช่น รูปภาพ วิดีโอ เว็บบล็อก ฯลฯ
ทำความรู้จักรู้จัก MarTech ทั้ง 6 ประเภท
เราก็ได้รู้กันไปแล้วว่า MarTech คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ต่อมาเรามาดูกันว่า MarTech มีกี่ประเภทกันต่อได้เลย! แต่เราขออธิบายก่อนว่าโลกของ Marketing Technology นั้นกว้างมาก จึงมีการแบ่งหมวดหมู่ออกไปมากมายตามเงื่อนไขต่าง ๆ อาทิ รูปแบบการใช้งาน เงื่อนไขการตลาด จุดประสงค์ในการใช้งาน ฯลฯ
หากจะให้เอ่ยถึงทุกประเภทคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้น เราจะคัดมาแนะนำคุณเฉพาะประเภทหลัก ๆ ที่สำคัญก่อน โดยจะมีอยู่ 6 ประเภทคือ Advertising & Promotion, Data & Analytics, Content & Experience, Social & Relationships, Commerce & Sales และ Collaboration & Management พร้อมทั้งยกตัวอย่างว่าเครื่องมือ MarTech ในแต่ละประเภทนั้นมีอะไรบ้าง และเรามั่นใจว่าคุณต้องเคยผ่านการใช้งานเครื่องมือ MarTech มาอย่างน้อย 3 เครื่องมือเป็นแน่!
1. Advertising & Promotion
Advertising & Promotion คือ MarTech ที่ใช้สำหรับการทำโฆษณาและโปรโมชัน ซึ่งจะมีการเสียค่าใช้จ่ายในการทำแคมเปญ เพื่อส่งสารจากแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด อาทิ การสร้างการรับรู้ การสร้างความน่าเชื่อถือ หรือการกระตุ้นยอดขาย เป็นต้น โดย MarTech ประเภทนี้ จะอยู่ในรูปแบบของ รูปภาพ, ข้อความ, วิดีโอ หรือแบนเนอร์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่ซื้อโฆษณา
ตัวอย่างของ MarTech ประเภท Advertising & Promotion
- Facebook Ads
- LINE Ads
- Google Ads
- YouTube Ads
- TikTok Ads
- CPAS Ads
- Instagram Ads
- Twitter Ads
2. Data & Analytics
ทำการตลาดทั้งที จะพลาดเรื่อง Data ไปได้อย่างไร? MarTech ประเภท Data & Analytics จะเกี่ยวข้องกับการจัดการ วิเคราะห์ นำเสนอ และใช้งานข้อมูล เพื่อให้นักการตลาดนำข้อมูลไปวางแผนการทำงานได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
ตัวอย่างของ MarTech ประเภท Data & Analytics
- Google Analytics : เครื่องมือวิเคราะห์และเก็บข้อมูลของเว็บไซต์
- Google Search Console : เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์
- Google Tag Manager : เครื่องมือจัดการ Tags ต่าง ๆ บนเว็บไซต์
- Facebook Insight : เครื่องมือเก็บข้อมูลหลังบ้านของเพจเฟซบุ๊ก
- Looker Studio : เครื่องมือที่ใช้ในการดึงข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มาไว้ด้วยกัน
- SimilarWeb : เครื่องมือตรวจข้อมูลและประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราและคู่แข่งในเชิงลึก
- Ahrefs : เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ สำหรับการทำ SEO (Search Engine Optimization)
- Tableau : เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ธุรกิจและแสดงผลในรูปแบบของ Dashboard
3. Content & Experience
Content & Experience เป็น MarTech ที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ทุกรูปแบบ เช่น การสร้างคอนเทนต์ การเผยแพร่เนื้อหา การหาไอเดียทำคอนเทนต์ และการสร้างประสบการณ์อันดีบนโลกออนไลน์ ให้แก่กลุ่มเป้าหมายของคุณ
ตัวอย่างของ MarTech ประเภท Content & Experience
- WordPress : โปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้ในการสร้างและจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์
- WIx : เครื่องมือการสร้างเว็บไซต์อย่างอิสระ
- Canva : เครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบกราฟิก
- Adobe Photoshop : โปรแกรมสำหรับแก้ไขและตกแต่งรูปภาพ
- Adobe Illustrator : โปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบกราฟิก
- Ubersuggest : เครื่องมือที่ใช้ในการทำ Keyword Research หาคีย์เวิร์ดมาทำคอนเทนต์
4. Social & Relationships
Social & Relationships คือ MarTech ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์ในระหว่างบุคคล และระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย โดยการสื่อสารโต้ตอบ, การรวบรวมข้อมูลลูกค้า, การสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า หรือการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า เป็นต้น
ตัวอย่างของ MarTech ประเภท Social & Relationships
- Social Media Platform : Facebook, Twitter, Instagram, TikTok
- Live Chat : LINE, Facebook Messenger, WhatsApp, Instagram Direct
- Social Listening : เครื่องมือที่ใช้ฟังเสียงของลูกค้า อย่าง Hootsuite หรือ Zocial Eye
- CRM : เครื่องมือบริการความสัมพันธ์กับลูกค้า อย่าง HubSpot
5. Commerce & Sales
Commerce & Sales จะเป็น MarTech ที่เกี่ยวข้องกับการขายบนโลกออนไลน์และการดูแลจัดการสินค้า อย่างระบบ e-Commerce หรือระบบ Chat Commerce ต่าง ๆ
ตัวอย่างของ MarTech ประเภท Commerce & Sales
- WooCommerce : ปลั๊กอินของ WordPress ที่จะเปลี่ยนเว็บไซต์ธรรมดา ๆ ให้เป็นเว็บไซต์สำหรับขายของออนไลน์
- TikTok Shop : ร้านขายของออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok
- LINE My Shop : ระบบจัดการร้านค้าของ LINE
- 2C2P : ระบบการชำระเงินบนโลกออนไลน์
- Ketshopweb : ผู้ให้บริการเว็บขายของออนไลน์แบบสำเร็จรูป
- MakeWebEasy : ผู้ให้บริการเว็บขายของออนไลน์แบบสำเร็จรูป
6. Collaboration & Management
MarTech ประเภทสุดท้าย คือ Collaboration & Management หรือเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารจัดการงานภายในองค์กร เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยที่ทุกคนในองค์กรสามารถทำงานร่วมกันผ่านเครื่องมือนี้ได้
ตัวอย่างของ MarTech ประเภท Collaboration & Management
- ClickUp
- Slack
- Asana
- Process Street
- Workday
บทสรุป
จบไปแล้วกับบทความ “MarTech คืออะไร? การตลาดที่ผนวกเทคโนโลยี ทวีคูณผลลัพธ์ให้ธุรกิจ” บางคนอาจจะพบว่าเครื่องมือ MarTech หลาย ๆ ตัวเป็นเครื่องมือที่คุณคุ้นเคยและใช้งานเป็นประจำอยู่แล้ว ลองคิดดูว่าถ้าขาดเครื่องมือเหล่านี้ไป คุณจะสามารถทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพอย่างทุกวันนี้ได้หรือไม่? แน่นอนว่าคงจะเป็นเรื่องที่ลำบากมากแน่ ๆ ด้วยเหตุนี้ MarTech จึงเป็นนวัตกรรมที่คุณควรทำความเข้าใจ และศึกษาอย่างละเอียด เพื่อให้การทำงานของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายและมีคุณภาพมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามความรู้เรื่อง MarTech สำหรับเอเจนซี่นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะเอเจนซี่มีหน้าที่ในการสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดให้แก่ลูกค้า ซึ่งเอเจนซี่ควรทำความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีทางการตลาดต่าง ๆ ให้ถ่องแท้ เพื่อนำมาใช้ส่งเสริมให้ผลลัพธ์ดีขึ้น ทำงานเร็วขึ้น แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงสุดเอาไว้ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่อาจมีทรัพยากรทางบุคคลด้านการตลาดที่เข้าถึงเครื่องมือเหล่านี้ได้ยังไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ เอเจนซี่ที่ใช้ MarTech ได้อย่างเชี่ยวชาญจะทราบว่าดีกว่ามันช่วยให้เราวิเคราะห์ดาต้าได้ละเอียดขึ้น หา Insight ได้ลึกกว่าเดิม และการ Research ใหม่ ๆ ก็เข้ามาช่วยให้เราตัดสินใจเรื่องของ “ทิศทางการตลาด” สำหรับแบรนด์และธุรกิจของลูกค้าได้เป็นอย่างดีด้วย ซึ่งถ้าเราแบ่งออกไปตามประเภทของเอเจนซี่อีก เราก็จะพบได้ว่าเอเจนซี่แต่ละประเภทมีการเรียนรู้และใช้งาน MarTech แตกต่างกัน เพราะเครื่องมือ MarTech มีเยอะมาก ๆ และมีให้ใช้งานตั้งแต่แบบฟรีไปจนถึงตัวที่มีราคาใช้งานสูง ๆ เลยทีเดียว