1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. ทำความรู้จักกับกลยุทธ์ Remarketing
เผยแพร่เมื่อ: มีนาคม 9, 2022 | แก้ไขเมื่อ: เมษายน 28, 2023

ทำความรู้จักกับกลยุทธ์ Remarketing

Table Of Contents

หากคุณเคยเข้าไปดูสินค้าในเว็บใดเว็บหนึ่ง แล้วพอเปลี่ยนเว็บไซต์ก็ดันมีโฆษณาของสินค้าชิ้นนั้นตามมาให้เห็นทุกที่ จากที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ ก็เกิดความสนใจ แล้วกดเข้าไปซื้อสินค้าในเว็บไซต์ นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการทำการตลาดที่เรียกว่า “Remarketing” หรือ “Retargeting” การตลาดแบบติดตามเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้ลูกค้าที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือมองเห็นโฆษณา เกิดความสนใจในตัวสินค้า หรือบริการ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย

remarketing-retargeting

Remarketing หรือ Retargeting คืออะไร

การทำ Remarketing หรือ Retargeting คือ การทำการตลาดแบบติดตามเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line หรือ Twitter โดยลักษณะโฆษณาที่ปรากฏให้กลุ่มเป้าหมายเห็นจะแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์มที่ทำ Remarketing แต่ไม่ว่าจะเป็นการทำ Remarketing ที่แพลตฟอร์มไหนก็ล้วนมีวัตถุประสงค์ที่คล้ายกันคือ กระตุ้นให้เป้าหมายเกิดความสนใจในตัวแบรนด์หรือสินค้า และกลับมาซื้อสินค้าของเรา

ประเภทของ Remarketing

การทำ Remarketing แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  • – Standard Remarketing หรือที่เรียกว่า “Static Remarketing” เป็นการทำ Remarketing ทั่วไป โดยลักษณะของโฆษณามักปรากฏเป็นแบนเนอร์เว็บไซต์ที่เชิญชวนให้คนกดกลับมาที่เว็บไซต์อีกครั้ง ไม่ได้เจาะจงไปที่สินค้าชนิดใดเป็นพิเศษ
  • – Dynamic Remarketing คือ การทำ Retargeting แบบเฉพาะเจาะจง โดยโฆษณาที่ปรากฏให้เห็นจะเป็นโฆษณาสินค้า หรือบริการที่กลุ่มลูกค้าเคยกดเข้าไปดู ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าได้มาก จัดเป็นการทำการตลาดที่เหมาะกับธุรกิจ E-Commerce มาก
  • – Email Remarketing เป็นการโฆษณาโปรโมชัน หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ไปยังอีเมลของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอีเมลจะได้จากการทำ Lead Generation เช่น การกรอกแบบฟอร์ม การสมัครสมาชิก หรือการของข้อมูลลูกค้าโดยตรง โดยเป้าหมายเหล่านี้มักเป็นกลุ่มคนที่ให้ความสนใจสินค้าอยู่แล้ว

Platform ที่นิยมทำ Remarketing

การทำ Remarketing สามารถทำได้หลายแพลตฟอร์ม ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มได้พัฒนาระบบการทำ Remarketing ให้สามารถใช้งานได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านการเขียนโปรแกรมแต่อย่างใด โดยจะมีลักษณะโฆษณาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • – Google Remarketing คือ การโฆษณาแบบติดตามคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ แต่ยังไม่ได้สั่งซื้อสินค้า โดยโฆษณาจะไปปรากฏตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของ Google ในรูปแบบของแบนเนอร์
  • – Google RLSA หรือที่เรียกว่า “Remarketing List for Search Ads” คือ การทำ Remarketing บนหน้า Google Search ในรูปแบบของ Text Ads โดยจะปรากฏขึ้นเมื่อเป้าหมายเสิร์ชคีย์เวิร์ดที่เราซื้อไว้ซ้ำอีกครั้ง
  • – Facebook Retargeting Ads คือ การโฆษณาไปยัง Custom Audience ที่เคยเข้าชม หรือมีส่วนร่วมกับ Facebook Ads หรือ Facebook Page ของคุณ ซึ่งสามารถเลือกได้เลยว่าจะโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมกับสื่อบน Facebook ของเรามากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็น Video, Lead Form, Facebook Post เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่บริษัทรับทำ Facebook Marketing แนะนำว่ามีประสิทธิภาพ
  • – LINE Official Account Retargeting คือ การโฆษณาสินค้าหรือบริการกับผู้ที่ติดตามบัญชี LINE Official Account ในลักษณะของการบรอดแคสต์ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ Click Retargeting โฆษณากับคนที่เคยกดลิงก์โฆษณา และ Impression Retargeting โฆษณากับคนที่เคยเห็นโฆษณา
  • – Twitter Retargeting คือ การโฆษณาในลักษณะ Promote Tweet กับผู้ใช้งานที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ หรือเคยใช้แอปพลิเคชันของเรามาก่อน โดยใน Twitter จะเรียกการกำหนดกลุ่มเป้าหมายนี้ว่า “Tailored audience” ซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกับ Custom Audience ใน Facebook

การทำ Remarketing เหมาะกับใคร

การทำ Remarketing เหมาะสำหรับกลุ่มธุรกิจที่เคยทำโฆษณาในแพลตฟอร์มนั้น ๆ มาก่อน เพราะจะต้องใช้ฐานข้อมูลลูกค้าไว้กำหนดกลุ่มเป้าหมายในการทำ Remarketing ซึ่งในแต่ละแพลตฟอร์มจะมีการเก็บข้อมูลของผู้ติดตาม หรือผู้ที่เคยเข้าถึงโฆษณาไว้อยู่แล้ว ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

หากธุรกิจใดไม่เคยทำ Remarketing แนะนำให้เริ่มการทำ Remarketing หรือ Retargeting เพราะเป็นช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าเก่า ๆ กลับมาสนใจสินค้า และซื้อสินค้าซ้ำอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายได้มาก นอกจากนี้ยังเสียค่าโฆษณาน้อยลงกว่าเดิม เพราะกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แคบกว่าลงกว่าเดิม

วิธีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย Remarketing เบื้องต้น

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการทำ Remarketing จะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการทำ Remarketing เช่น กำหนดเป้าหมายไปยังคนที่เคยเข้ามาดูสินค้า แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อสินค้า เพื่อกระตุ้นให้กลับมาซื้อสินค้าที่เว็บไซต์ หรือกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มลูกค้าเก่า เพื่อโปรโมตสินค้าใหม่ ๆ ด้วยการใช้ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษที่น่าดึงดูด

อย่างไรก็ตาม ในแต่ละแพลตฟอร์มจะมีรายละเอียดในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย Remarketing ที่แตกต่างกันไป เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำการตลาด คุณควรวางแผนร่วมบริกับบริษัทที่เชี่ยวชาญในแต่ละแพลตฟอร์มนั้น ๆ เช่น หากต้องการ Remarketing ใน Facebook ก็ควรเลือกทำกับบริษัทรับทำ Facebook Ads โดยเฉพาะ หรือถ้าต้องการทำใน Google ก็ควรเลือกบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการรับทำโฆษณา Google เป็นต้น

การทำ Remarketing กับการค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ใช่

การทำ Remarketing คือ การทำการตลาดแบบติดตามเป้าหมาย หรือโฆษณาแบบหลอกหลอนที่จะช่วยตอกย้ำการตัดสินใจของเป้าหมาย ทำให้เป้าหมายกลับมาซื้อสินค้าที่เว็บไซต์ หรือกระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าเก่า ๆ กลับมาสนใจแบรนด์อีกครั้ง จัดเป็นช่องทางการทำการตลาดที่น่าสนใจ มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่าการลงทุน เพราะในการทำ Remarketing หรือ Retargeting แต่ละครั้ง จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายแคบลงกว่าเดิม และเพิ่มโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ ที่จงรักภักดีกับแบรนด์ (Brand Loyalty) ได้อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องกับโครงการ AMC (ANGA Management Candidates) รุ่น 2 ที่ใคร ๆ หลายคนต่างรอคอย หลังจากที่โครงการ AMC รุ่น 1 ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก  เพราะเป็นโครงการที
88

Demand Gen คือโฆษณารูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณา Google Ads พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วย Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Discovery Ads โดยการดึงเอาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้งาน พร้
101

DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากที่สุด

อย่างที่เรารู้กันว่า Google เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แล้วรู้ไหมว่าใครคืออันดับสอง? คำตอบคือ DuckDuckGo นั่นเอง ซึ่ง DuckDuckGo คือ​ Search Engine ที่มีจุดเด่นด้านความปลอดภัยท
95
th