1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Google Ads : Maximize Clicks หรือ Maximize Conversions แบบไหนดีกว่ากัน?
Maximize Clicks
เผยแพร่เมื่อ: ธันวาคม 8, 2023 | แก้ไขเมื่อ: มกราคม 11, 2024

Google Ads : Maximize Clicks หรือ Maximize Conversions แบบไหนดีกว่ากัน?

Table Of Contents

Google Ads หรือ การทำโฆษณาบน Google เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้าง นับว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ได้รับความนิยมและสำคัญต่อการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันอย่างมาก การทำโฆษณา Google Ads จะถูกดำเนินการด้วยกลยุทธ์และวิธีการต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะกับกลยุทธ์การเสนอราคา Bidding Strategies   ที่ต้องเลือกแนวทางให้เหมาะสมกับแคมเปญ ไม่เช่นนั้นประสิทธิภาพของโฆษณาอาจจะไม่ดีเท่าที่คาดหวังไว้ได้

สำหรับบทความนี้ ทาง ANGA จะพาคุณมาเจาะลึกเรื่อง Bidding Strategies ว่ากลยุทธ์ Maximize Clicks หรือ Maximize Conversions แบบไหนดีกว่ากัน? เพื่อให้เงินทุกบาทที่คุณเสียไปกับการโฆษณา มีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง

Bidding Strategies คือ กลยุทธ์การเสนอราคา อันเป็นพื้นฐานของการทำแคมเปญโฆษณา Google Ads เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการตลาด อาทิ การเพิ่มยอดขาย, การทำให้เว็บไซต์อยู่ในตำแหน่งดี ๆ บนหน้าการค้นหา หรือ การเพิ่มผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) เป็นต้น โดย Bidding Strategies ฉบับอัปเดตใหม่ล่าสุดปี 2024 นี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่คือ Fully Automated, Semi-automated และ Non-automated

Bidding Strategies 2023

1. Fully Automated

Fully Automated คือ การเสนอราคาแบบอัตโนมัติ ที่มีการใช้ Machine Learning เข้ามาช่วยประมวลผลปรับราคา พร้อมทั้งประเมินแนวโน้มที่จะเกิด Click หรือ Conversion ขึ้น โดยมีเป้าหมายในการสร้างยอดขายหรือโอกาสในการขายให้แก่ธุรกิจ ซึ่งจะมีทั้งหมด 8 กลยุทธ์ย่อย แต่จะมี 4 ใน 8 กลยุทธ์ย่อยที่ถูกจัดอยู่ใน Smart Bidding

  1. Maximize Clicks : เน้นการเพิ่มยอดคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ให้ได้มากที่สุด
  2. Target Impression Share : ส่วนแบ่งการแสดงผลเป้าหมาย
  3. Viewable CPM (vCPM) : การคิดค่าโฆษณาจากการแสดงวิดีโอ 1,000 ครั้ง (YouTube)
  4. Cost Per View (CPV) : การคิดค่าโฆษณาต่อการชมวิดีโอ 1 ครั้ง (YouTube)

Smart Bidding

Smart Bidding เป็นกลยุทธ์การเสนอราคาแบบอัตโนมัติ แต่ความพิเศษของมันคือการนำ AI ของ Google มาเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion และ Conversion Values ในการเสนอราคาแต่ละครั้ง หรือการเสนอราคาตามเวลาจริงในการประมูล

  1. Maximize Conversions :  เน้นการสร้าง Conversion และยอดขายให้ได้มากที่สุด
  2. Maximize Conversions Value : คล้ายกับ Maximize Conversions แต่รูปแบบนี้จะเน้นไปที่มูลค่าในการสั่งซื้อต่อ 1 คำสั่งซื้อ เพื่อให้ได้คำสั่งซื้อที่มีมูลค่าสูงที่สุด
  3. Target CPA (Cost Per Acquisition) : การเสนอราคาเพื่อให้ Conversion ที่ได้ เกิด Action ขึ้นจริง เพื่อให้ Cost Per Conversion ไม่เกินงบประมาณที่กำหนดไว้
  4. Target ROAS (Return on Ad Spend) : การเสนอราคาตามจำนวนกำไรที่ได้ (ROAS) โดยทาง Google จะเสนอให้แบบอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ Conversion Value ที่สูงกว่าเรากำหนดไว้ และเพื่อให้ Conversion มี Action เป็นไปตามที่คาดหวัง

2. Semi-automated

Semi-automated หรือ Enhanced PCP เป็นกลยุทธ์การเสนอราคาที่ผสมผสานระหว่าง Non-automated กับ Smart Bidding อย่าง Target CPA หรือ Target ROAS เมื่อตั้งค่า Manual Bidding เสร็จ จากนั้น Google ก็จะทำการเพิ่มราคาเสนอ ตามแนวโน้มของผู้ใช้งานที่จะทำให้เกิด Conversion โดยมีข้อดีตรงที่คุณสามารถควบคุมราคาเสนอได้ ทำให้ลดต้นทุนโฆษณาได้ถูกจุด และทำให้คุณสามารถจัดสรรงบประมาณในการยิงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม

3. Non-automated 

Non-automated หรือ Manual Bidding คือ การที่ผู้ลงโฆษณามีการเสนอราคาเอง โดยสามารถกำหนดตำแหน่งที่ต้องการและกำหนดราคาเองได้ แต่กลยุทธ์การเสนอราคาประเภทนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำโฆษณาผ่าน Google Ads หรือคนที่สามารถประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ได้ว่า Keyword ที่เลือกมานั้นมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน และจะสามารถมอบผลลัพธ์ให้แก่ธุรกิจได้อย่างไร

Google Ads Bidding Strategies

Maximize Clicks คือ การเสนอราคาเพื่อให้ได้ปริมาณคนคลิกเข้าเว็บไซต์มากที่สุด ภายใต้งบประมาณที่กำหนดไว้ โดยจะเป็นการที่ Google ทำการเสนอราคาให้เราแบบอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถกำหนดงบประมาณได้ เพื่อไม้ให้งบบานปลายจนเกินไป โดยมีเป้าหมายคือการเพิ่มจำนวนคนเข้าชมเว็บ (คนคลิกเข้าชมเว็บไซต์)

Maximize Clicks คือ

Maximize Clicks เหมาะสำหรับ

  • สำหรับเว็บไซต์ใหม่ที่มีคนรู้จักน้อย ต้องการให้คนรู้จักเพิ่มขึ้น
  • การเริ่มต้นทำแคมเปญใหม่ ๆ ก่อนที่จะไปใช้กลยุทธ์ที่ลึกไปอีกขั้น
  • การประมูล Keyword ที่มี Search Volume น้อย ต้องการ Traffic เยอะ

ตัวอย่างของ Maximize Clicks

เราตั้งงบประมาณต่อวัน (Daily Budget) เอาไว้ที่ 1,000 บาท และเลือกใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบ Maximize Clicks สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Google จะปรับปรุงและจัดการแคมเปญโฆษณาของเรา เพื่อทำให้เกิด “Click” มากที่สุดภายใต้งบประมาณ 1,000 บาท โดยที่โฆษณาของเราจะแสดงผลอยู่ในตำแหน่งที่ 2-3 เป็นหลัก จะเห็นได้ว่า Google ไม่ได้ประมูลให้เรามากจนขึ้นเป็นอันดับ 1 และไม่ได้ประเมินต่ำเกินไป เพื่อให้เรายังสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อยู่นั่นเอง

Maximize Conversions คือ การเสนอราคาเพื่อให้ได้ Conversion มากที่สุด ภายใต้งบประมาณที่ตั้งไว้ ไม่จะว่าเป็นการอ่านบทความ การกรอกฟอร์มลงทะเบียน การแอดไลน์ การโทรศัพท์ติดต่อ หรือการซื้อสินค้าก็ตาม โดยไม่ได้สนใจค่า ROI หรือ ROAS
ซึ่งการทำงานของ Maximize Conversions จะเริ่มต้นจากที่ทาง Google จะเข้ามาเก็บข้อมูลจาก Conversion เดิมที่เรามี (เราต้องเคยยิงแคมเปญมาก่อนหน้านี้แล้ว อย่างน้อย 3 เดือน) จากนั้นก็จะนำข้อมูลเสนอผลและปรับราคาประมูลให้อัตโนมัติ เพื่อให้เกิด Conversion สูงที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีข้อเสียบางประการ นั่นก็คือเราไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย เพราะ Google จะจัดการให้ทั้งหมด

Maximize Conversions คือ

Maximize Conversions เหมาะสำหรับ

  • ธุรกิจที่ต้องการกระตุ้นยอดขาย
  • ผู้ที่ต้องการยอด Conversion บนเว็บไซต์จำนวนมาก
  • ธุรกิจที่เคยสร้างแคมเปญและมี Conversion แล้วในระดับหนึ่ง
  • ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้งบประมาณยิงโฆษณา

ตัวอย่างของ Maximize Conversions

ในช่วงแรกแนะนำให้ใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบ Maximize Clicks เสียก่อน เพื่อให้ระบบของ Google ทราบว่า Conversion ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของเราอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ จากนั้นให้เปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบ Maximize Conversions ซึ่งจะทำให้เราทราบได้ว่าหากเราต้องการจำนวน Conversion เท่านี้ ควรใช้งบประมาณเท่าไหร่ โดยในส่วนนี้ Google จะเป็นผู้ประเมินให้กับเรา

การทำแคมเปญโฆษณาแต่ละครั้ง เราก็เสียเงินค่าโฆษณาไปไม่ใช่น้อย ๆ ยิงโฆษณาเสียเงินทั้งที ไม่ว่าใครต่างก็คาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกลับมา หากถามว่าระหว่าง Maximize Clicks กับ Maximize Conversions แบบไหนดีกว่ากัน? ถ้าเป็นเรื่องของ “ผลตอบแทน” อย่างยอดขาย หรือ Conversion ที่มีคุณภาพ ต้องตอบว่า Maximize Conversions แน่นอน

เนื่องจาก Maximize Clicks นั้น จะมุ่งเน้นไปที่ทำให้เกิดคลิกเข้ามาบนเว็บไซต์ เปรียบเสมือนกับการเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ หากคลิกเยอะ แต่คลิกที่เข้ามานั้นไม่เกิด Action ใด ๆ ก็อาจจะไม่คุ้มค่าเท่ากับคลิกแล้วเกิด Action อย่างการใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบ Maximize Conversions

อย่างไรก็ตาม การเลือก Bidding Strategy จะขึ้นอยู่กับ “วัตถุประสงค์” ของแต่ละแคมเปญและธุรกิจของคุณเป็นหลัก ไม่แน่ว่ากลยุทธ์ที่เหมาะอาจจะเป็นกลยุทธ์อื่นที่ไม่ใช่สองรูปแบบนี้ก็เป็นได้ 
และอย่าลืมว่าก่อนที่คุณจะยิงโฆษณาแบบ Maximize Conversions จะต้องมี Conversion เกิดขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่ง ดังนั้น ทางแองก้าขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นจากการสร้างแคมเปญ Maximize Clicks ก่อน เมื่อมีจำนวน Click และข้อมูลของ Conversion ที่เข้ามาบนเว็บไซต์ในระดับหนึ่งแล้ว ค่อยเดินหน้าใช้กลยุทธ์ Maximize Conversions ในภายหลัง

โฆษณา Google Ads

การเลือกกลยุทธ์เสนอราคา หรือ Bidding Strategies ที่เหมาะสม ย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่ต้องการ แต่การที่คุณจะรู้ได้นั้นว่ากลยุทธ์ใดดีที่สุดสำหรับแต่ละแคมเปญ ล้วนมาจากการวิเคราะห์อย่างละเอียด และการวางแผนงบประมาณมาเป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถทำโฆษณาออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในบทความนี้คุณก็ได้รู้แล้วว่า Bidding Strategies มีอะไรบ้าง? Maximize Clicks คืออะไร? Maximize Conversions คืออะไร? และควรจะยิงโฆษณาด้วยกลยุทธ์แบบไหนถึงจะตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด
สำหรับใครที่กำลังมองหาเอเจนซี่รับทำโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, TikTok, Instagram หรือช่องทางใดก็ตาม ANGA (แองก้า) เอเจนซี่ด้านการตลาดออนไลน์ที่มีบริการยิงโฆษณาและรับทำ SEO ครบวงจร โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หากสนใจสามารถสอบถามได้ที่ 080-054-9199 หรือ LINE : @ANGA ได้ทุกเมื่อ พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรี!

บทความที่เกี่ยวข้อง

Organic Traffic คืออะไร พร้อมวิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์

Web Traffic คือผู้เข้าชมเว็บไซต์ ที่มีความสำคัญมาในการทำให้เว็บไซต์เติบโตและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Traffic มาได้จากหลายช่องทาง อาทิ Paid, Direct, Social Media, Referral และ Organic Traffic แต่ Traf
50

Breadcrumb Navigation ป้ายนำทางบนเว็บไซต์ ที่ส่งผลดีต่อ SEO

เว็บไซต์ส่วนใหญ่มีหน้าเว็บและข้อมูลเยอะมาก อาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกสับสนและหลงทางได้ การมีตัวช่วยนำทางบนเว็บไซต์หรือ Breadcrumb Navigation ติดตั้งไว้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับ
46

รู้จัก DeepSeek AI เอไอสัญชาติจีนที่กำลังมาแรงในตอนนี้

ต้องบอกว่าในปี 2025 นี้ แพลตฟอร์ม AI เติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลายด้านได้อีกด้วย คุณสามารถใช้ AI ในการทำงานแทน อย่างเขียนบทความ สรุปข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาข้อมูล เขี
50
th