เปิดกลยุทธ์สร้าง Brand Image ให้รุ่งบน Social Media ในปี 2024
ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าอะไร ให้บริการด้านใด หรือทำธุรกิจประเภทไหน ในท้องตลาดอันกว้างใหญ่นี้ไม่ได้มีแค่แบรนด์ของคุณแค่แบรนด์เดียวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะสินค้าหรือบริการที่มีความต้องการสูง อย่างอาหารเสริม, เครื่องสำอาง, เครื่องแต่งกาย, ของใช้ในบ้าน หรือบริการรับทำการตลาดออนไลน์ต่าง ๆ เป็นต้น แล้วคุณจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าของคุณ ในขณะที่พวกเขามองเห็นสินค้าแบบเดียวกันในหลาย ๆ แบรนด์? คำตอบไม่ใช่อะไรที่ซับซ้อนเลย แต่เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่ง หรือ Brand Image นั่นเอง
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า Brand Image คืออะไร พร้อมอธิบายความสำคัญ รวมถึงแนะนำกลยุทธ์ในการสร้าง Brand Image บน Social Media อันเป็นช่องทางการสื่อสารบนโลกออนไลน์ที่มีบทบาทมากที่สุดในยุคนี้! เพราะผลลัพธ์ที่ได้นั้นมากเกินกว่าคำว่า “คุ้มค่า” และยังเป็นผลดีต่อแบรนด์ในระยะยาวอีกด้วย
Brand Image คืออะไร?
ภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือ Brand Image คือภาพลักษณ์ที่แบรนด์สร้างขึ้นมา เพื่อให้เป็นที่จดจำในสายตาของผู้บริโภค อาทิ คุณภาพของสินค้า, คุณค่าของแบรนด์, จุดยืนของแบรนด์, การให้บริการ, ประสบการณ์ที่ผู้บริโภคได้รับ ฯลฯ
เพื่อให้แบรนด์มีความโดดเด่นและแข็งแกร่งมากกว่าแบรนด์คู่แข่งที่อยู่ในท้องตลาด จนทำให้แบรนด์มีความเติบโตมากขึ้นทางด้านชื่อเสียง ยอดขาย และส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) เนื่องจาก Brand Image นั้น ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก หรือแม้แต่ตัวคุณเอง คงจะเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือ มากกว่าสินค้าจากแบรนด์ที่ไม่เคยได้ยินชื่อและไม่มีใครเคยใช้มาก่อนเป็นแน่
ความสำคัญของการสร้าง Brand Image
การสร้าง Brand Image สำคัญจริงหรือ? และมีความสำคัญต่อการทำธุรกิจอย่างไร แองก้าสรุปมาให้แล้ว!
แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ประโยชน์อย่างแรกของการสร้าง Brand Image คือการทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง หรือกล่าวคือคนที่ไม่เคยรับรู้การมีอยู่ของแบรนด์คุณมาก่อน ก็จะรู้ว่ามีแบรนด์ของคุณขายสินค้า หรือให้บริการประเภทนี้อยู่นะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นหนึ่งในตัวเลือกประกอบการตัดสินใจซื้อ
แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ดีและน่าจดจำ
Brand Image ช่วยให้แบรนด์มีภาพลักษณ์และจุดยืนที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อคนเห็นคอนเทนต์หรือแพ็กเกจสินค้าก็จะรู้ได้ทันทีว่านี่คือแบรนด์ของคุณ โดยอาจจะมาจากการใช้สี, การใช้ตัวอักษร, สโลแกน, สไตล์ของภาพ, สไตล์คอนเทนต์, ลักษณะคำพูด หรืออื่น ๆ ก็ได้
รักษาลูกค้าเก่าและดึงดูดลูกค้าใหม่
ถ้าคุณรักษามาตรฐานของ Brand Image ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง คุณก็จะรักษาลูกค้าเก่าของคุณไว้ได้เช่นกัน และยิ่งถ้าลูกค้าเก่าของคุณ Loyalty ด้วย พวกเขาอาจจะแนะนำสินค้าของคุณกับคนรู้จัก เพื่อน หรือคนอื่น ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าของคุณไปอีกขั้น โดยที่คุณไม่ต้องลงแรงอะไรเลย รวมทั้งยังเป็นการดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามาสนใจและเปิดใจซื้อสินค้าไปใช้งานด้วย
แบรนด์มียอดขายสูงขึ้น
ภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ เช่น สินค้าคุณภาพดี ราคาเหมาะสม คุ้มค่า, ความน่าเชื่อถือ, การทำคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์, มีจุดแข็งที่ชัดเจน, สินค้ามีคุณสมบัติโดดเด่น หรือแม้แต่การให้บริการของแอดมินหลังบ้าน ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถกระตุ้นยอดขายสินค้าของคุณให้สูงขึ้นได้ เพราะเมื่อลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและเกิดความประทับใจ คุณจะเป็นตัวเลือกแรกหากพวกเขาต้องการซื้อสินค้านั้นอีกครั้ง
ดีต่อการทำธุรกิจในระยะยาว
หลังจากที่คุณสร้าง Brand Image สำเร็จ และทำให้ผู้บริโภคจดจำภาพลักษณ์ที่คุณต้องการได้แล้ว พวกเขาจะจดจำคุณแบบนั้นในระยะยาว แม้เวลาจะผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปีแล้วก็ตาม ยิ่ง Brand Image แข็งแกร่งมากแค่ไหน หากเจอดราม่าหรือปัญหาที่เกิดขึ้นแบบใด โอกาสที่แบรนด์จะล้มยิ่งน้อยลง ทำให้การสร้าง Brand Image เป็นสิ่งดีต่อธุรกิจในระยะยาวนั่นเอง
กลยุทธ์การสร้าง Brand Image บน Social Media ในปี 2024
Social Media คือแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ที่คุณสามารถรับความบันเทิง พูดคุยโต้ตอบ หรือแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ได้อย่างอิสระและทันทีทันใด ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการใช้บริการเลย อีกทั้ง Social Media ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มาก จนแพร่กระจายความนิยมไปยังวัยอื่น ๆ อย่างวัยเด็ก วัยทำงาน และวัยสูงอายุด้วย
จากสถิตการใช้งาน Social Media ของคนไทยในปี 2023 ที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 52 ล้านคน หรือคิดเป็น 73.2% ของประชากรไทยทั้งหมด ซึ่งคนส่วนใหญ่ใช้ Social Media ในการซื้อสินค้าและติดตามข่าวสารมากที่สุด ทำให้ Social Media เป็นแหล่งรวมกลุ่มเป้าหมายของทุก ๆ ธุรกิจเลยก็ว่าได้ ดังนั้น เราไปเริ่มลงมือสร้าง Brand Image บน Social Media ด้วยกลยุทธ์ที่เราเอามาฝากกันได้เลย!
สร้างตัวตนบน Social Media
คุณอาจจะเปิดธุรกิจมานานแล้ว แต่ไปเน้นการขายแบบหน้าร้านสักส่วนใหญ่ หรือไม่ก็มีแค่เว็บไซต์เป็นช่องทางออนไลน์ช่องทางเดียว บอกเลยว่าแค่นี้ไม่พอแน่นอน ถ้าอยากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมหาศาลที่อยู่ใน Social Media คุณจะต้องสร้างตัวตนบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก่อน โดยแนะนำให้เปิดบัญชีทางการบน Facebook, LINE และ TikTok เป็นหลัก รองลงมาคือ Instagram, YouTube และ Twitter ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ สินค้า และปริมาณกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณที่มีอยู่ในแต่ละแพลตฟอร์มด้วย
แสดงภาพลักษณ์ที่ชัดเจน
เพื่อให้แบรนด์แข็งแกร่งอย่างแท้จริง คุณจะต้องนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือ Brand Image ที่ชัดเจน และมีจุดยืนที่แน่วแน่ เช่น Brand Identity (สีประจำแบรนด์, สโลแกน, โลโก้, แบบตัวอักษร, บรรจุภัณฑ์, สไตล์ของงานออกแบบ), Brand Values (คุณค่าของแบรนด์ หรือสิ่งที่แบรนด์ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ), Brand Positioning (จุดยืนของแบรนด์) และ Brand Voice (น้ำเสียงที่แบรนด์สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการพูด การเขียนข้อความ หรือการใช้คำพูดต่าง ๆ ให้ลูกค้าประทับใจ)
เลือกช่องทางและวิธีการที่เหมาะสม
อย่างที่เราเห็นกันว่า Social Media มีอยู่หลายแพลตฟอร์มเลย คุณจะต้องเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะกับประเภทธุรกิจ ประเภทสินค้า กลุ่มเป้าหมาย และประเภทของเนื้อหา รวมถึงการใช้วิธีการที่เหมาะสมด้วย เช่น แบรนด์ A เป็นธุรกิจ B2C ขายผ้าปูที่นอนราคาย่อมเยา กลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น วัยทำงาน คู่รัก และคนมีครอบครัว ทุกเพศ ได้เลือกใช้ Facebook และ TikTok เป็นช่องทางในการสร้าง Brand Image โดยใช้วิธีการยิงโฆษณา Facebook Ads เพื่อกระตุ้นยอดขาย ร่วมกับการโพสต์วิดีโอโปรโมตสินค้าใน TikTok ใส่สินค้าใน TikTok Shop และยิงโฆษณา TikTok Ads
สร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดใจ
ก่อนที่กลุ่มเป้าหมายจะจดจำคุณได้ คุณจะต้องทำให้พวกเขาถูกดึงดูดใจด้วยคอนเทนต์ที่คุณได้สร้างสรรค์ขึ้นมาก่อน เช่น ใช้ข้อความที่ดึงดูดใจ, ทำภาพที่สะดุดตา, แนบรีวิวสินค้า, ใส่คำกระตุ้นการตัดสินใจ หรือทำคอนเทนต์แนะนำโปรโมชันสุดคุ้ม เป็นต้น
โปรโมตจุดเด่นและความเชี่ยวชาญ
หนึ่งในตัวชี้วัดที่บ่งบอกว่าคุณสร้าง Brand Image ได้สำเร็จ คือเวลาที่ลูกค้าอยากได้สินค้าแล้วนึกถึงแบรนด์ของคุณเป็นแบรนด์แรก เช่น อยากทำ SEO ต้องทำกับ ANGA หรือนึกถึงเครื่องดื่มชาเขียวน้ำผึ้งมะนาวก็นึกถึงโออิชิ เป็นต้น หากคุณอยากให้แบรนด์ของคุณเป็นเช่นนี้ สิ่งที่คุณควรทำ คือการโปรโมตจุดเด่น จุดแข็ง ข้อดี ความเชี่ยวชาญ หรือสิ่งที่คุณทำได้ดีกว่าคู่แข่ง เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์ได้ดีมาก
สื่อสารและสร้างการมีส่วนร่วม
หยุดการพูดฝ่ายเดียว แต่ปรับให้เป็นการสื่อสารกันระหว่างทั้งสองฝ่าย (แบรนด์และลูกค้า) โดยการสร้างการมีส่วนร่วมบน Social Media หรือเปิดพื้นที่ให้พวกเขาแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ และกระตุ้นให้พวกเขาตอบคำถาม, ตั้งคำถาม, เข้าร่วมกิจกรรม, กดถูกใจ, กด Save โพสต์, กดติดตาม, กดแชร์ หรืออื่น ๆ เพื่อให้บัญชีเข้าถึงคนมากขึ้นและทำให้ฐานลูกค้ากว้างขึ้น
รับฟังความคิดเห็นของลูกค้า
การรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า ยอมรับข้อผิดพลาด และปรับปรุงให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด เป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรเมินเฉยเมื่อถูกเอ่ยถึง และควรตอบกลับเพื่อแสดงความใส่ใจอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าคุณไม่ทำสิ่งเหล่านี้ อาจทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือ Brand Image ที่คุณบรรจงสร้างมา ถูกกระแสโจมตีจนย่อยยับก็เป็นได้ และแน่นอนว่าภาพลักษณ์จะติดตัวคุณไปอีกนานในสายตาของผู้บริโภค
บทสรุป
สรุปว่าการสร้าง Brand Image เป็นการสร้างภาพจำให้แก่ผู้บริโภคในรูปแบบที่ทางแบรนด์ต้องการ ซึ่ง Brand Image มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน และทุกธุรกิจควรหันมาให้ความสนใจกับการสร้าง Brand Image บน Social Media เป็นอันดับแรก หากคุณไม่ถนัดในเรื่องการตลาดออนไลน์เลย ไม่ว่าจะเป็น Social Media Marketing, ยิงโฆษณา, Content Marketing หรืออื่น ๆ ก็ตาม สามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ ANGA ได้เลย! การันตีความเชี่ยวชาญจากรางวัลที่เราได้รับเพียบ!