1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. YouTube SEO คืออะไร กลยุทธ์ปั้นช่องให้ติดอันดับแบบ Organic
YouTube SEO คืออะไร กลยุทธ์ปั้นช่องให้ติดอันดับแบบ Organic
เผยแพร่เมื่อ: มิถุนายน 5, 2024

YouTube SEO คืออะไร กลยุทธ์ปั้นช่องให้ติดอันดับแบบ Organic

Table Of Contents

เคยสงสัยไหมว่าทำไมคลิปวิดีโอในช่อง YouTube ของเราถึงมียอดวิวไม่เท่ากับช่องอื่น ทั้ง ๆ ที่ยอดผู้ติดตามและเนื้อหาภายในวิดีโอเหมือนกันแท้ ๆ ? อาจเป็นเพราะว่าคุณโฟกัสผิดจุดไปก็ได้ อย่างการเน้นปริมาณการอัปเดตของคลิปมากกว่าคุณภาพ หรือการมองข้ามรายละเอียดต่าง ๆ ที่ทาง YouTube ต้องการ เป็นต้น

ถ้าคุณอยากให้วิดีโอและช่อง YouTube ของคุณเข้าถึงคนได้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการยิงโฆษณา YouTube Ads ต้องมาทำความเข้าใจเรื่อง YouTube SEO ในบทความนี้ เพราะแองก้าได้รวบรวมข้อมูลมาอธิบายให้คุณเข้าใจแล้วว่า YouTube SEO คืออะไร รวมถึงเทคนิคและวิธีการในการทำ YouTube SEO ให้ติดอันดับต้น ๆ และแสดงผลบนหน้าการค้นหาของ YouTube ในระยะยาว

YouTube SEO คืออะไร

YouTube SEO คือการปรับแต่งวิดีโอและช่อง YouTube ของให้ออกมาตรงกับอัลกอริทึมของ YouTube มากที่สุด เพื่อให้วิดีโอของติดอันดับต้น ๆ บนหน้าแสดงผลการค้นหาของ YouTube และนำมาซึ่งประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณมากมาย เช่น ช่อง YouTube มีการเติบโตขึ้น, ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้น, สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ, เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย และเพิ่มโอกาสที่วิดีโอจะติดอันดับบนหน้าการค้นหาของ Google ด้วยเช่นกัน

ทำความรู้จักอัลกอริทึมของ YouTube

ทำความรู้จักอัลกอริทึมของ YouTube

ถ้าอยากทำ YouTube SEO ให้ได้ผล อย่างแรกเลยคุณต้องรู้จักอัลกอริทึมของ YouTube ก่อนว่ามันมีการทำงานอย่างไร โดยอัลกอริทึมของ YouTube จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ  คือ 1. สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการค้นหา และ 2. คือการแนะนำวิดีโอที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอวิดีโอที่มีแนวโน้มตรงกับความสนใจของผู้ใช้งานมากที่สุดนั่นเอง

1. การค้นหา (Search)

  • ความเกี่ยวข้อง (Relevance) : เนื้อหา ชื่อ และรายละเอียดของวิดีโอ
  • การมีส่วนร่วม (Engagement) : ยอดวิว ยอดคอมเมนต์ ยอดไลก์ ยอดแชร์
  • คุณภาพของวิดีโอ (Quality) : ระยะเวลาในการรับชมวิดีโอ อัตราการกดข้ามวิดีโอ
  • ปัจจัยทางเทคนิค (Technical) : ความยาวของเนื้อหา ความคมชัดของภาพ ความลื่นไหลของวิดีโอ

2. การแนะนำ (Recommendations)

  • ประวัติการรับชม (Watch History) : แนะนำวิดีโอที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกับวิดีโอที่เคยรับชมมาก่อน
  • ช่องที่ติดตาม (Channel Subscriptions) : อัลกอริทึมจะแนะนำวิดีโอจากช่องที่ผู้ใช้งานติดตามขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะกับวิดีโอใหม่ที่ช่องเหล่านั้นเพิ่งอัปโหลดลง
  • เทรนด์ (Trending) : วิดีโอที่มีเนื้อหาหรือหัวข้อเกี่ยวกับเทรนด์ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนั้น จะถูกนำไปแสดงผลบนแถบ Trending
  • ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์และตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้งาน (Location and Demographic Data) : อัลกอริทึมอาจจะแนะนำวิดีโอที่กำลังได้รับความนิยมในพื้นที่ที่กลุ่มเป้าหมายอาศัยอยู่มาให้ดูได้
  • ความคล้ายคลึงของกลุ่มผู้ใช้งาน (Collaborative Filtering) : อัลกอริทึมจะมีการวิเคราะห์ความสนใจของกลุ่มผู้ใช้งานที่มีลักษณะคล้ายกัน และนำวิดีโอที่คนหนึ่งชมไปแนะนำอีกคน เป็นต้น

วิธีทำ YouTube SEO ดันคลิปให้ติดอันดับ

วิธีทำ YouTube SEO ดันคลิปให้ติดอันดับ ฉบับ 2024 มีอยู่ 3 วิธีหลัก ดังนี้

1. ตั้งชื่อวิดีโอด้วย SEO Keyword (Title)

กลยุทธ์การตั้งชื่อวิดีโอสำหรับการทำ YouTube SEO ไม่ยากและไม่ง่าย ถ้าคุณรู้เคล็ดลับและนำไปใช้งานก็มีลุ้นที่วิดีโอจะติดอันดับไม่ยากเลย เริ่มจากการทำ Keyword Research เพื่อหา SEO Keyword ที่มีผู้ใช้งานค้นหาจริง ๆ ก่อน จากนั้นก็นำคีย์เวิร์ดดังกล่าวมาแต่งเป็นประโยค เพื่อนำไปตั้งชื่อหัวข้อวิดีโอ (Title) ซึ่งหัวข้อจะต้องตรงกับเนื้อหาในวิดีโอ กระชับ และดึงดูดความสนใจของผู้ชม

วิธีทำ YouTube SEO ดันคลิปให้ติดอันดับ

2. ใส่คำอธิบายวิดีโอ (Description)

หลาย ๆ คนมักจะมองข้ามการใส่คำอธิบายวิดีโอ (Description) ไป ทำให้วิดีโอไม่มีรายละเอียดข้อมูลอะไรเลย แนะนำให้ใส่คำอธิบายวิดีโอที่ประกอบไปด้วยหัวข้อ, เนื้อหาโดยย่อของวิดีโอ, คีย์เวิร์ด, และรวมไปถึงช่องทางในการติดต่อและ Hashtag ด้วย

เพื่อให้อัลกอริทึมของ YouTube ค้นพบวิดีโอของคุณเจอง่ายขึ้น และนำวิดีโอของคุณไปแสดงบนหน้าฟีดของผู้ใช้งานที่ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ คำอธิบายวิดีโอ (Description) ยังเป็นตัวช่วยดึงความสนใจ และทำให้ผู้ชมรู้คร่าว ๆ ว่าวิดีโอนี้จะพูดถึงอะไร เกี่ยวกับความสนใจหรือสิ่งที่พวกเขากำลังมองหาอยู่หรือไม่

วิธีทำ YouTube SEO ดันคลิปให้ติดอันดับ

3. ติด Tag (#) รองรับการค้นหาของผู้คน

ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานจะมีการค้นหาวิดีโอเรื่องเดียวกันก็ตาม แต่คีย์เวิร์ดหรือคำที่ใช้ในการค้นหาจะแตกต่างกันออกไป เราจึงต้องติด Tag คำต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของวิดีโอเอาไว้ เพื่อรองรับการค้นหาเหล่านี้ด้วย และในขณะเดียวกัน Tag ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ YouTube SEO ได้เช่นกัน 

ตัวอย่างเช่นวิดีโอเรื่อง “เราเองหรือเปล่าที่เป็นคน Toxic ไม่รู้ตัว?” ซึ่งมีการใช้คีย์เวิร์ดคำว่า “คน Toxic” เป็นคำหลัก ส่วน Tag ที่จะติดเอาไว้ในวิดีโอนี้ก็จะมีทั้งคำที่เกี่ยวกับเนื้อหาของวิดีโอและช่อง YouTube อย่าง คน Toxic, คน Toxic ในที่ทำงาน, คน Toxic คือ, Toxic ไม่รู้ตัว, toxic, คน toxic เป็นแบบไหน, วิธีจัดการคน toxic, podcast จิตวิทยา หรือ พัฒนาตัวเอง เป็นต้น ตามภาพตัวอย่างด้านล่างนี้

เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพของ YouTube SEO

  • วิดีโอต้องมีคุณภาพ มีความละเอียดคมชัด และมีความยาวตั้งแต่ 1 นาทีขึ้นไป
  • แชร์วิดีโอไปยังช่องทางอื่น ๆ อย่างเว็บไซต์หรือ Social Media
  • ใส่ภาพ Thumbnail (ภาพปก) และออกแบบให้สวยงาม น่าสนใจ
  • ใส่ลิงก์เว็บไซต์ลงไปในคำอธิบายวิดีโอ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเหมือนการทำ Backlink
  • ตอบกลับหรือกดไลก์คอมเมนต์ที่มีผู้แสดงความคิดเห็นบนวิดีโอ
  • สร้าง Playlist แบ่งหมวดหมู่ของเนื้อหา เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกชม
  • ปรับแต่ง Home Page ของช่อง YouTube ให้สวยงามและใส่รายละเอียดให้ครบ
  • เพิ่มคำบรรยายเนื้อหาในวิดีโอ (Closed Captions : CC) พร้อมกับสอดแทรก SEO Keyword ลงไป
  • ตั้งชื่อไฟล์วิดีโอก่อนอัปโหลดลง YouTube ด้วยคีย์เวิร์ดหรือชื่อหัวข้อวิดีโอ (Title)
  • ปิดท้ายวิดีโอด้วย End Screen ก่อนจบเนื้อหา เพื่อแนะนำวิดีโอที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้ชม

สรุป

สรุปง่าย ๆ ว่า YouTube SEO คือการทำให้คลิปวิดีโอของเราไปแสดงผลบนฟีดของผู้ใช้งาน เพื่อเพิ่มการมองเห็นและทำให้พวกเขารู้จักเรามากขึ้น โดยวิธีทำ YouTube SEO มีอยู่ 3 อย่างหลัก ๆ คือการตั้งชื่อวิดีโอด้วยคีย์เวิร์ด SEO, การใส่คำอธิบาย และการติด Tag แต่ถ้าคุณทำไปได้สักพักแล้ว ผลลัพธ์ยังไม่ดีขึ้นอย่างที่ต้องการ คุณก็สามารถใช้เทคนิคต่าง ๆ ที่เราได้แนะนำไปเพิ่มเติมได้เลย ยอดวิวเพิ่มขึ้นชัวร์!

บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องกับโครงการ AMC (ANGA Management Candidates) รุ่น 2 ที่ใคร ๆ หลายคนต่างรอคอย หลังจากที่โครงการ AMC รุ่น 1 ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก  เพราะเป็นโครงการที
90

Demand Gen คือโฆษณารูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณา Google Ads พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วย Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Discovery Ads โดยการดึงเอาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้งาน พร้
104

DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากที่สุด

อย่างที่เรารู้กันว่า Google เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แล้วรู้ไหมว่าใครคืออันดับสอง? คำตอบคือ DuckDuckGo นั่นเอง ซึ่ง DuckDuckGo คือ​ Search Engine ที่มีจุดเด่นด้านความปลอดภัยท
98
th