1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Featured Snippet คืออะไร ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าอันดับ 1 บน Google
Feature Snippet
เผยแพร่เมื่อ: ธันวาคม 4, 2024

Featured Snippet คืออะไร ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าอันดับ 1 บน Google

Table Of Contents

การแข่งขันเพื่อให้ติดอันดับ 1 บน Google เป็นเรื่องที่ยากและท้าทายอย่างมาก เพราะคุณต้องแข่งขันกับเว็บไซต์ของคู่แข่ง แถมยังต้องปรับปรุงเว็บไซต์ให้ถูกใจ Google และสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานด้วย แต่การได้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่ง 0 หรือ Featured Snippet นั่นยากกว่ามาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่า เนื่องจาก Featured Snippet จะมีการแสดงผลที่ใหญ่และแตกต่างจากตำแหน่งอื่น ๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นได้ง่าย ซึ่งจะช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างโอกาสในการคลิกได้มากขึ้นนั่นเอง มาทำความรู้จักว่า Featured Snippet คืออะไร แตกต่างจาก Rich Snippet อย่างไร และทำยังไงให้เว็บไซต์ของเราติด Featured Snippet บน Google ผ่านบทความนี้จาก ANGA กันเถอะ

Featured Snippet คืออะไร

Featured Snippet คือรูปแบบการแสดงผลลัพธ์บนหน้าการค้นหาของ Google ที่จะปรากฏอยู่ในตำแหน่งเหนือผลการค้นหาปกติ หรือที่เรียกว่า “ตำแหน่ง 0” โดยจะแสดงข้อมูลที่เป็นคำตอบหรือเนื้อหาสำคัญในรูปแบบกล่องข้อความขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถอ่านคำตอบได้ทันทีโดยไม่ต้องคลิกเข้าไปในเว็บไซต์แต่อย่างใด ทั้งนี้ทั้งนั้น Google จะเป็นผู้คัดเลือกเนื้อหาที่ดีที่สุดและตรงประเด็นที่สุดมาแสดงในรูปแบบของ Featured Snippet เอง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลที่ต้องการอย่างรวดเร็ว อย่างเช่นหน้าบทความวิธีติดตั้ง Google Analytics 4 จากแองก้า

Featured Snippet

Featured Snippet เป็นรูปแบบการแสดงผลที่มีพลังมาก เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มการมองเห็นได้ดีมาก ๆ ด้วย เนื่องจาก Featured Snippet จะมีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่กว่าผลการค้นหาปกติถึง 50% และอยู่ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด การได้ขึ้น Featured Snippet จึงสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้งานได้มากกว่า เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ ก็อยากให้บทความ SEO ที่ตัวเองเขียนติดอยู่ในตำแหน่งนี้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ใช้งานสามารถอ่านเนื้อหาได้ทันทีโดยไม่ต้องคลิกเข้าเว็บไซต์ อาจส่งผลให้อัตราการคลิกผ่าน (CTR) และ Website Traffic ลดลงได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อหาและพฤติกรรมของผู้ใช้งานด้วย

ข้อดีของการติด Featured Snippet คืออะไร

การที่เว็บไซต์ติด Featured Snippet ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของการทำ SEO เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะทำให้เว็บไซต์ของเราดูโดดเด่นน่าสนใจแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อธุรกิจด้วย มาดูกันว่าการติด Featured Snippet มีข้อดีอะไรบ้าง

  • ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ เพราะ Google เลือกเฉพาะเนื้อหาที่มีคุณภาพมาแสดงในส่วนนี้
  • ได้พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่บนหน้า SERP กินพื้นที่มากถึง 50% ของหน้าจอ ทำให้ดึงดูดความสนใจได้มากกว่าผลการค้นหาทั่วไป
  • เป็นทางลัดสู่อันดับต้น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เว็บไซต์ติดอันดับ 1 ก่อน แม้อยู่อันดับ 5-10 ก็มีโอกาสติด Featured Snippet ได้
  • เพิ่มโอกาสในการได้รับ Traffic จากการค้นหาด้วยเสียง เนื่องจาก Voice Assistant มักใช้ข้อมูลจาก Featured Snippet ในการตอบคำถาม
  • ประหยัดงบประมาณการตลาด เพราะได้พื้นที่โฆษณาขนาดใหญ่แบบ Organic โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
  • สร้างการจดจำแบรนด์ได้ดี เพราะผู้ใช้งานเห็นชื่อเว็บไซต์ของคุณในตำแหน่งที่โดดเด่น
  • เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะในแต่ละคำค้นหาจะมีเพียง 1 Featured Snippet เท่านั้น
  • รองรับการใช้งานบนมือถือได้ดี เพราะ Featured Snippet จะแสดงผลเต็มหน้าจอบนอุปกรณ์มือถือ

Featured Snippet มีกี่ประเภท

Featured Snippet มีรูปแบบการแสดงผลที่หลากหลาย เพื่อให้ข้อมูลตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด โดยแต่ละประเภทจะเหมาะกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  1. Paragraph Snippets เป็นการแสดงเนื้อหาในรูปแบบข้อความสั้น ๆ ความยาวประมาณ 40-60 คำ เหมาะสำหรับการอธิบายความหมายหรือตอบคำถาม What, Why, Who, When, How
  2. List Snippets จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือแบบลำดับตัวเลข (Numbered List) และแบบหัวข้อย่อย (Bullet List) ใช้สำหรับแสดงขั้นตอน วิธีทำ หรือรายการต่าง ๆ
  3. Table Snippets จะแสดงข้อมูลในรูปแบบตารางเปรียบเทียบ เหมาะกับการนำเสนอข้อมูลตัวเลข ราคา สถิติ หรือการเปรียบเทียบคุณสมบัติต่าง ๆ
  4. Video Snippets คือแสดงวิดีโอจาก YouTube พร้อมไฮไลต์ช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหา นิยมใช้กับเนื้อหาประเภทสอนทำอาหาร สาธิตวิธีการ หรือแนะนำผลิตภัณฑ์
  5. E-commerce Snippets จะแสดงรายการสินค้าพร้อมราคาและลิงก์ไปยังหน้าขาย เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์

Featured Snippet ต่างกับ Rich Snippet อย่างไร

Featured Snippet และ Rich Snippet เป็นรูปแบบการแสดงผลพิเศษบน Google เหมือนกัน ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าทั้งสองสิ่งนี้คือสิ่งเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วก็มีความแตกต่างกันอยู่หลายจุด ทั้งตำแหน่งในการแสดงผล วิธีทำ ข้อดี และเนื้อหาที่นำมาแสดง

  • Featured Snippet จะแสดงผลในตำแหน่งอันดับ 0 หรือด้านบนสุดของหน้าผลการค้นหา มาในรูปแบบกล่องข้อความขนาดใหญ่ที่แสดงเนื้อหาที่ตอบคำถามหรือให้ข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการได้ทันที (เน้นการสร้างความน่าเชื่อถือและการรับรู้แบรนด์)
  • Rich Snippet จะแสดงผลในตำแหน่งปกติตามอันดับ SEO แต่จะมีข้อมูลเพิ่มเติมแสดงใต้ Title และ Description เช่น ดาวรีวิว ราคา หรือระยะเวลา ซึ่งเจ้าของเว็บไซต์สามารถกำหนดได้ผ่านการใส่โค้ด Schema Markup (เน้นการเพิ่ม CTR เหมาะกับเว็บไซต์ที่ต้องการดึงคนเข้ามาบนเว็บไซต์ อย่างพวกเว็บไซต์ขายของออนไลน์)

4 วิธีทำ SEO ให้เว็บไซต์เราติด Featured Snippet

อยากให้เว็บของคุณติด Featured Snippet บ้าง ลองทำตาม 4 วิธีนี้ได้เลย!

1. ใช้คีย์เวิร์ดที่มีความเฉพาะเจาะจง

แนะนำให้ใช้คีย์เวิร์ด (Keyword) ที่มีความเฉพาะเจาะจงหรือคีย์เวิร์ดที่มีความยาวมากขึ้น (Long-tail Keyword) ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์ของเราติด Featured Snippet ได้ดีกว่าการใช้คีย์เวิร์ดสั้น ๆ เพียงคำเดียว ตัวอย่างเช่น แทนที่จะใช้คำว่า “รับทำ SEO” ก็เปลี่ยนเป็นใช้คำว่า “รับทำ SEO ติดหน้าแรก สายขาว” เป็นต้น  เพราะคำถามที่มีความเฉพาะเจาะจงมักจะได้รับการแสดงผลเป็น Featured Snippet มากกว่า

2. วางโครงสร้าง Heading ให้ดีและถูกต้อง

โครงสร้าง Heading ที่ดี จะช่วยให้ Google เข้าใจและจัดหมวดหมู่เนื้อหาได้ง่ายขึ้น ควรใช้ H1 เป็นหัวข้อหลักที่มีคีย์เวิร์ดสำคัญ ตามด้วย H2 เป็นหัวข้อย่อยที่แตกประเด็นออกมา และ H3 สำหรับรายละเอียดหรือตัวอย่างเพิ่มเติม ทั้งนี้ควรตั้งชื่อหัวข้อในรูปแบบคำถามเพื่อเพิ่มโอกาสในการติด Featured Snippet มากขึ้นด้วย

3. เขียนเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

เนื้อหาที่มีโอกาสติด Featured Snippet จะต้องตอบคำถามของผู้ใช้งานได้อย่างตรงประเด็นและชัดเจน ควรเขียนคำตอบให้กระชับ และวางไว้ในย่อหน้าแรกของเนื้อหา โดยเน้นข้อมูลที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ และมีการอ้างอิงแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือด้วย

4. ปรับปรุงเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ

การอัปเดตเนื้อหาให้ทันสมัยและถูกต้องอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ Google ชอบเนื้อหาที่มีความสดใหม่และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน เราจึงต้องหมั่นอัปเดตเนื้อหาให้สดใหม่อยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องสร้างบทความใหม่ก็ได้ แนะนำให้เพิ่มข้อมูลใหม่ที่อัปเดตล่าสุดเข้าไปในบทความเก่าแทน หรืออัปเดตปีให้เป็นปีล่าสุด เป็นต้น

บทสรุป

เป้าหมายของการทำ SEO ไม่ได้อยู่ที่อันดับ 1 เสมอไป คุณอาจจะเพิ่ม Featured Snippet เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายก็ได้เช่นกัน แม้การติด Featured Snippet จะทำให้เกิดโอกาสในการคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์น้อยลง แต่ก็ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และการจดจำแบรนด์ได้ดี วิธีทำ Featured Snippet ก็ไม่ได้ต่างจากวิธีทำ SEO โดยทั่วไปมากนักที่เน้นคุณภาพของคอนเทนต์ การวางโครงสร้างเนื้อหาตามหลัก การตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน และใช้ข้อมูลที่เป็นความจริง แต่จะมีปรับตรงกลยุทธ์การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เน้นไปที่คีย์เวิร์ดคำถามหรือ Long-tail Keyword มากขึ้น ยังไงก็ลองทำตามวิธีที่เราแนะนำไปในบทความนี้ได้เลย แต่ถ้าคุณกำลังมองหาเอเจนซี่ดูแล SEO และเว็บไซต์ให้ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก ANGA ได้เช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องกับโครงการ AMC (ANGA Management Candidates) รุ่น 2 ที่ใคร ๆ หลายคนต่างรอคอย หลังจากที่โครงการ AMC รุ่น 1 ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก  เพราะเป็นโครงการที
88

Demand Gen คือโฆษณารูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณา Google Ads พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วย Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Discovery Ads โดยการดึงเอาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้งาน พร้
101

DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากที่สุด

อย่างที่เรารู้กันว่า Google เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แล้วรู้ไหมว่าใครคืออันดับสอง? คำตอบคือ DuckDuckGo นั่นเอง ซึ่ง DuckDuckGo คือ​ Search Engine ที่มีจุดเด่นด้านความปลอดภัยท
96
th