13 ข้อเท็จจริงของบทความ SEO
การทำ SEO Content หรือ บทความ SEO มีองค์ประกอบและรายละเอียด ข้อเท็จจริงมากมายพอสมควรที่หลายคนหรือ SEO agency อาจจะยังไม่เคยรู้ เพื่อการทำบทความให้ออกมามีคุณภาพ และสามารถพาติดอันดับที่ดีขึ้นได้ เราได้รวบรวม 13 ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ของบทความ SEO จากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ จะมีข้อไหนที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการทำ SEO Content บ้าง
ข้อเท็จจริงของ SEO Content ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
1. พยายามทำให้ Keyword เห็นชัดมากที่สุด
SEO คืออะไรที่ต้องพยายามทำให้คีย์เวิร์ดมองเห็นได้มากที่สุด ชัดเจนที่สุด ควรใส่คีย์เวิร์ดไว้ตั้งแต่ชื่อเรื่อง หัวข้อหลัก หัวข้อย่อย ตามด้วยการกระจายคีย์เวิร์ดในบทความ เพื่อเวลาที่ Google เข้าไปตรวจสอบในหน้าของเนื้อหานั้น จะได้รู้ว่าบทความ SEO นี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ เพื่อให้มีการจัดอันดับที่ดีขึ้น
2. เลือกพัฒนาเนื้อหาที่ใช้ได้และตัดส่วนที่ไม่จำเป็น
บางครั้งการทำ SEO Content ก็ต้องมีการกลับมาแก้ไขปรับปรุงเนื้อหาอยู่บ้าง แต่บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของคุณว่าต้องการคงเนื้อหาเอาไว้ หรือต้องลบมันออกไปเลย หากไม่อยากลบออกแต่เนื้อหาไม่ค่อยมีคุณภาพ ก็สามารถเอามาปรับแก้ได้ แต่ถ้าต้องการลบออก เป็นเนื้อหาที่คิดว่าไม่เกี่ยวข้อง ก็สามารถลบออกไปได้จะดีกว่าเก็บเนื้อหาส่วนนั้นไว้
3. วางเนื้อหา SEO Content ที่สำคัญไว้บทสุดของบทความ
การทำบทความ SEO นั้นอีกสิ่งสำคัญคือ การจัดวางเนื้อหา หรือประเด็นสำคัญ ๆ เอาไว้ด้านบนสุดของบทความ คือควรพูดถึงประเด็นสำคัญ เรื่องนั้นเรื่องเดียวไปเลย เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่าน และ Google ที่เข้ามาตรวจสอบ รับรู้ได้อย่างรวดเร็วและตรงประเด็น ว่าบทความนี้ต้องการจะสื่อถึงอะไร
4. การสะกดและไวยากรณ์มีความสำคัญมาก
การสะกดคำผิด หรือใช้ไวยากรณ์ผิดนั้นสำคัญมากทีเดียว เพราะอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ที่เข้ามาอ่านบทความ SEO ได้ รวมทั้งบางครั้งอาจทำให้เข้าใจประเด็นที่ต้องการสื่อผิดพลาดไปได้ ทางที่ดีควรมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ ทั้งการสะกดคำและการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้องก่อนการลงเนื้อหาบนเว็บไซต์จะดีที่สุด
5. บทความ SEO จะใช้เวลา Index เป็นสัปดาห์
เมื่อมีการเผยแพร่บทความ SEO บนหน้าเว็บไซต์ใหม่ Google อาจต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ในการ Index ซึ่งส่วนใหญ่ บทความที่ดีจะถูก Index ภายในเวลาประมาณเพียงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งอาจมีผลต่อการจัดอันดับด้วย
6. เนื้อหาเดียวกันแตกต่าง Format ไม่นับเป็น Duplicate Content
อีกข้อของการทำ SEO Content ที่หลายคนอาจไม่รู้คือ การที่เนื้อหาเดียวกัน แต่เนื้อหาไปอยู่ต่างฟอร์แมต Google ก็ไม่นับเป็น Duplicate Content ด้วย เช่นการเผยแพร่เนื้อหาเป็นบล็อกหรือบทความ แล้วเอาเนื้อหาไปทำเป็นวิดีโอก็สามารถทำได้ เพราะทาง Google ไม่สามารถถอดเสียง หรือบทสนทนาในวิดีโอเพื่อเปรียบเทียบกับบล็อกหรือบทความที่เป็นลายลักษณ์อักษรในบล็อกโพสต์
7. Affiliate Link ใช้งานได้ถ้าคอนเทนต์มีคุณภาพพอ
ในการทำ SEO Content บางครั้งอาจทำให้หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับ Affiliate Link ว่าหากใส่ในบทความเยอะไป จะส่งผลเสียอะไรในด้านการทำบทความ SEO รึเปล่า แต่แท้จริงแล้ว การมี Affiliate Link จำนวนมากบนหน้าเว็บไซต์นั้นไม่ได้เป็นอันตราย หรือส่งผลเสีย ถ้าหากคอนเทนต์นั้นมีคุณภาพมากพอ เว็บไซต์สามารถ Affiliate Link ได้มากเท่าที่ต้องการในหน้าเดียว ตราบใดที่มีบทความหรือเนื้อหามีคุณภาพ
8. Embed Videos มีค่าเท่ากับ Upload Video ทั่วไป
วิดีโอที่ฝังจากแหล่งอื่น (Embed Videos) จะมีค่าเหมือนกันกับวิดีโอที่อัปโหลดทั่วไป ไม่ได้มีการส่งผลใด ๆ ต่อการทำบทความ SEO แต่อาจจะต้องตรวจดูอีกครั้งว่า บทความนั้น จำเป็นที่จะต้องมีวิดีโอประกอบด้วยรึเปล่า หากบทความต้องการให้มีวิดีโอประกอบด้วยก็สามารถ Embed Videos เข้ามาไว้ในหน้านั้นได้
9. ใส่ Internal Link มากไปทำให้ SEO Content ด้อยค่าลง
การมี Internal Link ในบทความนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การใส่ Internal Link มากเกินไป ก็อาจทำให้ SEO Content ด้อยค่าลงได้ การใส่ Internal Link มากเกินไป อาจทำให้เสียการจัดเรียงโครงสร้างของ SEO Content ได้ บางครั้งอาจจะทำให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจแต่ละหน้าในเว็บไซต์ของคุณได้ยากขึ้น
10. ใช้รูปภาพแสดงแผนภูมิแทนการใช้ HTML Code
การทำบทความ SEO บางครั้งก็การใส่รูปภาพประกอบด้วย มีข้อแนะนำว่าให้ใช้รูปภาพที่แสดงแผ่นภูมิแทนการใช้ HTML Code การใช้ HTML Code นั้นถือว่าไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ เพราะการใช้รูปภาพจะทำให้คนเห็นเข้าใจข้อมูลได้มากกว่า ส่วนใหญ่ในหลาย ๆ เว็บจึงมักนิยมใช้รูปภาพเท่านั้น
11. ควรจัดบริบทของ Anchor Text ให้เหมาะสม
ควรมีการเลือกใช้คำที่จะเอามาทำ Anchor Text ให้เหมาะสม กระชับ และได้ใจความ ควรเป็นคำที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์เนื้อหา หรือสินค้า และจะต้องไม่ใส่ Anchor Text ในบทความมากจนเกินไป และนอกจากนี้ยังต้องเป็น Anchor Text ที่มีประโยชน์เหมาะกับการกดเข้าไปด้วย เช่น รายละเอียดสินค้าที่คนอาจสนใจ
12. Anchor Text ขนาดยาวมีผลต่อการติดอันดับ
การใช้ Anchor Text ขนาดยาวก็อาจมีผลต่อการติดอันดับได้ และ Google มีการใช้ anchor text เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้าที่ทำการลิงก์ไป ทำให้บางครั้งยิ่ง Anchor Text ยาว ก็อาจจะยิ่งสามารถทำให้ Google ได้รู้เกี่ยวกับบริบทนั้น ๆ มากขึ้น ให้บริบทกับ Google มากขึ้นเท่านั้น และ ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำมาพิจารณาเมื่อมีการจัดอันดับจาก Google ด้วยนั่นเอง
13. การใส่เนื้อหา SEO Content แนวประชดประชันไม่มีประโยชน์ต่อการติดอันดับ
บางครั้งหากมีการทำ SEO content ในแนวการใช้คำพูดเสียดสี หรือประชดประชันนั้นอาจทำให้ผู้อ่านชื่นชอบแต่จะไม่มีประโยชน์ต่อการติดอันดับบนหน้าค้นหาของ Google เนื่องจากอัลกอริทึมของ Google มีแนวโน้มที่จะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้คำพูดประชดประชันเสียดสีได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้คำประชดประชันในการทำบทความ SEO หรือทำคอนเทนต์ใด ๆ เพราะบทความประเภทนี้จะไม่มีผลต่อการจัดอันดับเลย
การทำบทความ SEO มีหลายสิ่งที่ควรใส่ใจ
การทำบทความ SEO เพื่อต้องการให้บทความและหน้าเว็บไซต์ติดอันดับนั้น มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพ การวางโครงสร้าง ข้อควรรู้ ข้อควรระวังต่าง ๆ ล้วนมีผลต่อการติดอันดับทั้งนั้น ในบทความนี้เป็นข้อควรรู้เพียงส่วนหนึ่งของการทำบทความ SEO จากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการทำ SEO นั้นมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกมากมายที่จะทำให้การทำบทความมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากต้องการอ่านบทความ หรือเคล็ดลับต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำ SEO ต้องรอติดตามบทความต่อไปได้เลย