1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Influencer Marketing กลยุทธ์การตลาดมาแรงที่แบรนด์ไม่ควรพลาด
Influencer Marketing
เผยแพร่เมื่อ: ตุลาคม 24, 2024

Influencer Marketing กลยุทธ์การตลาดมาแรงที่แบรนด์ไม่ควรพลาด

Table Of Contents

Influencer Marketing คืออีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะผู้ติดตามของพวกเขาต่างเชื่อมั่นและไว้ในสิ่งที่อินฟลูเอนเซอร์พูด ทำให้เกิดความคล้อยตามได้ง่าย ประกอบกับช่องทางที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ในการทำคอนเทนต์ก็เป็น Social Media ยอดฮิตที่ผู้คนนิยมใช้งานกันด้วย ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ หันมาทำ Influencer Marketing กันอย่างถ้วนหน้า อย่างไรก็ตามการทำ Influencer Marketing ก็เป็นสิ่งที่คุณต้องระมัดระวังสักหน่อย​ โดยเฉพาะกับขั้นตอนการคัดเลือกอินฟลูเอนเซอร์ เพราะถ้าคุณเลือกอินฟลูเอนเซอร์ผิด แบรนด์ของคุณก็อาจจะเสียชื่อเสียและหมดความน่าเชื่อถือได้

Influencer Marketing คือ

Influencer Marketing คืออะไร

Influencer Marketing คือกลยุทธ์ในการทำการตลาดรูปแบบหนึ่งที่ใช้บุคคลที่มีอิทธิพล หรือบุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมากบนโลกออนไลน์ มาสื่อสารและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไปยังกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) และโน้มน้าวใจผู้บริโภคอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในยุคนี้

Influencer Marketing จะอาศัยความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์ที่อินฟลูเอนเซอร์มีกับผู้ติดตามของพวกเขา เพราะ Message ที่อินฟลูเอนเซอร์พูดออกไปจะไม่ใช่คำโฆษณาแบบที่แบรนด์พูด แต่เป็นการนำประสบการณ์จริงที่ได้ในฐานะผู้ใช้งานสินค้าหรือผู้บริการ พร้อมกับสอดแทรกความคิดเห็นลงไปในคอนเทนต์ คล้าย ๆ กับผู้บริโภคที่ซื้อมาใช้เองจริง (User-Generated Content : UGC)

Influencer Marketing จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อแบรนด์เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย มีภาพลักษณ์เข้ากันกับแบรนด์ สร้างคอนเทนต์ที่มีความเป็นธรรมชาติ รวมถึงการมีภูมิหลังที่ดีก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้เช่นกัน

จากผลสำรวจของ MediaKix ในปี 2020 พบว่านักการตลาดทั่วโลกกว่า 80% ยอมรับว่า Influencer Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลดีเยี่ยม นั่นก็เพราะว่าผู้บริโภคมักเชื่อถือคำแนะนำจากบุคคลที่พวกเขาติดตามและชื่นชอบมากกว่าการโฆษณาแบบตรงๆ จากแบรนด์นั่นเอง

ประเภทของ Influencer

ประเภทของ Influencer

  1. Nano Influencer (ผู้ติดตาม 0 – 1,000 คน) ราคาไม่สูงและสามารถทำ Barter Media ได้ เหมาะกับแบรนด์ที่มีงบประมาณจำกัด ต้องการทำการตลาดแบบกระจ่าย เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย
  2. Micro Influencer (ผู้ติดตาม 1,001 – 100,000 คน) เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากและกว้างขึ้น เหมาะกับการโปรโมตสินค้าและบริการให้เป็นที่รู้จัก
  3. Macro Influencer (ผู้ติดตาม 100,001 – 1,000,000 คน) ราคาค่อนข้างสูง แต่การันตีคุณภาพ เข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก สร้างยอดขายและผลลัพธ์ได้ดี เหมาะกับแบรนด์ที่มีงบประมาณในระดับหนึ่ง และสินค้าหรือบริการที่มีความเฉพาะเจาะจง
  4. Mega Influencer (ผู้ติดตาม 1,000,001 คนขึ้นไป) อินฟลูเอนเซอร์กลุ่มนี้เป็นคนที่ได้รับความนิยมสูงและเป็นไวรัล หรืออาจจะเป็นดารา นักแสดง นักร้องก็ได้ (มีชื่อเสียง) เหมาะกับแคมเปญที่ต้องการเข้าถึงคนเยอะ ๆ ไม่ได้ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง

Influencer กับ KOL แตกต่างกันอย่างไร

Influencer เป็นกลุ่มคนที่มีผู้ติดตามเยอะกว่าคนปกติทั่วไป คอนเทนต์ค่อนข้างหลากหลาย เนื้อหาจะเน้นไปที่การแสดงความคิดเห็น และไม่ได้เจาะจงไปที่คนกลุ่มใดเป็นพิเศษ แต่ KOL (Key Opinion Leader) คือผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีอิทธิพลในเรื่องดังกล่าวสูง เนื้อหาจึงจะเป็นแนวให้ความรู้ และกลุ่มผู้ติดตามก็จะเป็นผู้ที่ชื่นชอบหรือให้ความสนใจในเรื่องนั้นจริง ๆ 

ข้อดีของการทำ Influencer Marketing ต่อธุรกิจ

  • ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผ่านการผลิตคอนเทนต์ที่น่าสนใจของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก
  • การใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการนำเสนอสินค้าหรือบริการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เนื่องจากผู้บริโภคมักเชื่อถือความคิดเห็นของบุคคลที่พวกเขาชื่นชอบและติดตาม
  • ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง โดยเฉพาะการกำหนดโปรโมชันพิเศษผ่านอินฟลูเอนเซอร์
  • ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคกับแบรนด์ ผ่านการแสดงความคิดเห็น การแชร์ หรือการติดต่อสอบถามคำถามเกี่ยวกับสินค้า
  • แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีฐานผู้ติดตามตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์
  • ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ ทำให้โดดเด่นจากคู่แข่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
  • ช่วยสร้าง Testimonial ที่น่าเชื่อถือให้กับสินค้าหรือบริการ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
  • สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน ทำให้แบรนด์สามารถประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญได้แม่นยำขึ้น
  • Influencer Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามเทรนด์ตลาด ทำให้แบรนด์สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที
ประเภทของ Influencer

แชร์กลยุทธ์ทำ Influencer Marketing ที่เห็นผลจริง

แบรนด์ที่ทำ Influencer Marketing มีทั้งรอดและมีทั้งร่วง แบรนด์ส่วนใหญ่ที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ทำการตลาดมักจะได้รับผลตอบรับที่ดี รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่โอกาสดันกลายเป็นวิกฤตสำหรับบางแบรนด์ เพราะมีต้นเหตุมาจากการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ผิด หรือไม่ได้มีการวางกลยุทธ์ที่ดีมาตั้งแต่แรก มาดูกันว่าจะทำ Influencer Marketing อย่างไรให้เห็นผลจริงในปี 2024 นี้

1. กำหนดเป้าหมายและงบประมาณให้ชัดเจน

ควรกำหนดเป้าหมายและงบประมาณที่ชัดเจนในการทำ Influencer Marketing ตั้งแต่แรก อาทิ ต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือ ต้องการให้คนรู้จักสินค้ามากขึ้น ต้องการเพิ่มยอดผู้ติดตาม หรือต้องการเพิ่มยอดขาย พร้อมกับกำหนดงบประมาณที่มี เพื่อที่จะสามารถเลือกประเภทและจำนวนของอินฟลูเอนเซอร์ได้อย่างเหมาะสม

2. เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมกับแบรนด์

การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีภาพลักษณ์และสไตล์การนำเสนอที่สอดคล้องกับแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ แนะนำให้พิจารณาจากประเภทคอนเทนต์ที่อินฟลูเอนเซอร์ผลิต จำนวนผู้ติดตาม ใครคือผู้ติดตาม และอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement Rate) เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. กำหนด Key Message และคอนเซ็ปต์ของแคมเปญ

เราต่างรู้ดีกว่าอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนจะมีการทำคอนเทนต์ในสไตล์ที่แตกต่างกัน เพื่อให้สารที่สื่อออกไปเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากที่สุด คุณควรมีการกำหนด Key Message และคอนเซ็ปต์ของแคมเปญให้ชัด เพื่อใช้ในการบรีฟอินฟลูเอนเซอร์อีกที ส่วนสไตล์การทำคอนเทนต์แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอินฟลูเอนเซอร์ ว่าใครจะสามารถสร้างคอนเทนต์ได้น่าสนใจมากกว่ากัน

4. วัดผลลัพธ์และวิเคราะห์ประสิทธิภาพ

เมื่ออินฟลูเอนเซอร์โพสต์งานให้แล้ว คุณจะต้องติดต่อไปขอข้อมูลเชิงลึกกับพวกเขาด้วยว่าคอนเทนต์ที่ได้ทำไปมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน มียอดวิวกี่ครั้ง มียอดคลิกเท่าไหร่ หรือมีคำสั่งซื้อเกิดขึ้นมากแค่ไหน คุณจะได้นำไปวิเคราะห์และวางแผนการทำการตลาดต่อไปได้ โดยระยะเวลาในการเก็บข้อมูลหลังจากโพสต์จะขึ้นอยู่กับคุณเป็นผู้กำหนด เช่น 1 สัปดาห์, 2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน เป็นต้น

5. รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับอินฟลูเอนเซอร์

แบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์ต่างต้องพึ่งพากันในโลกของการทำธุรกิจ หากแบรนด์ไม่มีอินฟลูเอนเซอร์ก็อาจจะทำให้แสงส่องมาไม่ถึงตัวแบรนด์ได้ ในทางกลับกันหากอินฟลูเอนเซอร์ไม่มีแบรนด์มาจ้างงานก็ขาดรายได้ไป ทั้งสองฝั่งควรรักษาความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ เพราะในอนาคตอาจจะต้องร่วมงานกันอีกครั้งได้ รวมถึงการบอกต่อในทางที่ดีด้วย

บทสรุป

ถ้าคุณได้มีการเข้าไปใช้งาน TikTok, Facebook หรือ Instagram บ้าง คุณจะต้องเคยพบกับการทำ Influencer Marketing อย่างแน่นอน ทั้งแบบที่รู้ตัวและแบบที่ไม่รู้ตัว เพราะการทำ Influencer Marketing ได้แพร่กระจายไปอยู่บนทุก ๆ แพลตฟอร์มแล้ว บางคอนเทนต์อาจจะดูแล้วพอรู้ได้บ้างว่าเป็นการจ้างงานอย่างแน่นอน แต่บางคอนเทนต์ก็เนียนจนดูไม่ออกเลยก็มี แถมยังกระตุ้นกิเลสให้คุณอยากกดซื้อสินค้าตามคอนเทนต์ที่กำลังดูอยู่ให้จบ ๆ ไปอีกด้วยเห็นไหมว่า Influencer Marketing คือเครื่องมือที่แบรนด์ไหน ๆ ก็ทำกัน แต่ทั้งนี้คุณอาจจะต้องดูก่อนว่าธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจแบบไหน เหมาะกับ Influencer Marketing หรือ KOL Marketing มากกว่ากัน ไม่แน่ว่าธุรกิจของคุณอาจจะยังไม่ควรเริ่มทำInfluencer Marketing ก็เป็นได้ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์จะเป็นการดีที่สุด หรือไม่ก็เริ่มลงมือทำและเรียนรู้ด้วยตัวเองได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องกับโครงการ AMC (ANGA Management Candidates) รุ่น 2 ที่ใคร ๆ หลายคนต่างรอคอย หลังจากที่โครงการ AMC รุ่น 1 ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก  เพราะเป็นโครงการที
88

Demand Gen คือโฆษณารูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณา Google Ads พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วย Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Discovery Ads โดยการดึงเอาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้งาน พร้
101

DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากที่สุด

อย่างที่เรารู้กันว่า Google เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แล้วรู้ไหมว่าใครคืออันดับสอง? คำตอบคือ DuckDuckGo นั่นเอง ซึ่ง DuckDuckGo คือ​ Search Engine ที่มีจุดเด่นด้านความปลอดภัยท
96
th