
สตอรีบอร์ด (Storyboard) คืออะไร พร้อมสอนเทคนิคการทำ
ทุกวันนี้เนื้อหาที่เป็นวิดีโอ (Video Content) ได้รับความนิยมมากในหมู่นักการตลาดออนไลน์และเจ้าของธุรกิจ ที่ต้องการโปรโมตสินค้าและบริการให้เป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ แต่การทำวิดีโอให้มีประสิทธิภาพ ย่อมเริ่มต้นจากการวางสตอรีบอร์ด (Storyboard) ที่ดี เพราะสตอรีบอร์ดคือตัวกำหนดทิศทางเนื้อหา การตัดต่อ การนำเสนอ ฯลฯ ซึ่งคุณจะต้องมีการคิดเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะดำเนินการถ่ายทำ มาทำความรู้จักสตอรีบอร์ดให้มากขึ้น พร้อมเทคนิคการเขียนสตอรีบอร์ดให้ผลลัพธ์ปังอย่างมืออาชีพกับ ANGA (แองก้า) ได้ในบทความนี้
สตอรีบอร์ดคืออะไร
สตอรีบอร์ด (Storyboard) คือการวางแผนลำดับของภาพหรือฉากต่าง ๆ ในรูปแบบคล้ายการ์ตูนช่อง ที่มาพร้อมรายละเอียดสำคัญในการแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ อย่างมุมกล้อง เสียงประกอบ การเคลื่อนไหว หรือบทพูด ซึ่งมักจะพบบ่อยในการทำโฆษณา ภาพยนตร์ แอนิเมชัน และคอนเทนต์วิดีโอสำหรับลง Social Media ทั้ง TikTok, Facebook และ YouTube การมีสตอรีบอร์ดที่ดี จะทำให้ทุกคนในทีมเห็นภาพรวมของงานวิดีโอก่อนลงมือผลิตจริง มีความเข้าใจที่ตรงกัน ลดข้อผิดพลาดในการทำงาน และช่วยลดระยะเวลาในการผลิตได้

องค์ประกอบของสตอรีบอร์ด มีอะไรบ้าง
- ภาพร่าง (Sketches) ภาพวาดที่แสดงให้เห็นฉากต่าง ๆ อาจเป็นลายเส้นง่าย ๆ หรือภาพละเอียดขึ้นอยู่กับความต้องการและเวลาที่มี
- หมายเลขฉาก (Scene Number) ตัวเลขกำกับเพื่อให้ทุกคนในทีมอ้างอิงฉากได้ตรงกัน และช่วยให้เรียงลำดับการถ่ายทำได้ถูกต้อง
- คำอธิบายฉาก (Action Description) ข้อความสั้น ๆ ที่อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นในฉาก ตัวละครทำอะไร หรือมีอะไรเคลื่อนไหวในภาพบ้าง
- บทพูด (Dialogue) บทสนทนาของตัวละครที่จะพูดในฉากนั้น ๆ บางครั้งอาจมีการระบุน้ำเสียงหรืออารมณ์ประกอบ เช่น “ให้ ANGA เป็นบริษัทรับทำ SEO ที่คุณไว้วางใจ” (น้ำเสียงมั่นใจ มุ่งมั่น) เป็นต้น
- มุมกล้อง (Camera Angle) การระบุว่าจะถ่ายจากมุมไหน เช่น มุมสูง มุมต่ำ ระดับสายตา ภาพรวม หรือภาพใกล้
- การเคลื่อนไหวของกล้อง (Camera Movement) ระบุว่ากล้องนิ่งหรือเคลื่อนไหว เช่น แพน (เลื่อนซ้าย-ขวา) ทิลท์ (เลื่อนขึ้น-ลง) หรือแทร็คกิ้ง (ติดตาม)
- เสียงประกอบ (Sound Effects) เสียงพิเศษที่ต้องใส่เพิ่มนอกเหนือจากบทพูด เช่น เสียงประตูปิด เสียงโทรศัพท์ หรือเสียงฝนตก
- ระยะเวลา (Duration) ระบุว่าแต่ละฉากจะใช้เวลานานเท่าไร มักระบุเป็นวินาทีหรือนาที ช่วยในการคำนวณความยาวรวมของวิดีโอ
- การเปลี่ยนฉาก (Transition) วิธีเชื่อมระหว่างฉากต่าง ๆ เช่น ตัดชน (Cut) เฟดอิน-เอาท์ (Fade) หรือดิสโซลฟ์ (Dissolve)
ข้อดีของการมีสตอรีบอร์ดคืออะไร
สตอรีบอร์ดคือขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การผลิตวิดีโอมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทุกคนในทีมจะมีความเข้าใจตรงกันก่อนเริ่มลงมือทำงานจริง ทำให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่น ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจกัน และช่วยให้ผลงานออกมาตรงตามความต้องการ
ทำงานได้เร็วขึ้นและใช้เงินน้อยลง
การมีสตอรีบอร์ดทำให้ทีมงานรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ต้องถ่ายฉากไหนก่อนหลัง และต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง ช่วยลดเวลาที่ต้องมานั่งคิดหน้างานและลดการถ่ายทำซ้ำเพราะไม่ได้ตามที่ต้องการ ทำให้ใช้เงินได้คุ้มค่ากว่าและไม่เสียเวลาไปกับการแก้ไขงานที่ผิดพลาด
ทีมงานทุกคนเข้าใจงานตรงกัน
สตอรีบอร์ดจะทำให้ทุกคนในทีมเห็นภาพเดียวกัน ทั้งผู้กำกับ คนถ่าย คนตัดต่อ หรือคนแสดง ทุกคนรู้ว่าแต่ละฉากจะออกมาหน้าตาอย่างไร ช่วยลดความสับสนและความขัดแย้งในทีม ทำให้งานเดินหน้าได้เร็วขึ้นและราบรื่นกว่า
เจอปัญหาก่อนลงมือทำจริง
การวางแผนด้วยสตอรีบอร์ดช่วยให้เห็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น เช่น ฉากที่ต้องใช้สถานที่พิเศษ อุปกรณ์เฉพาะ หรือเทคนิคถ่ายทำที่ยาก ทำให้เตรียมรับมือได้ล่วงหน้า ไม่ต้องมาปวดหัวตอนถ่ายทำจริง
คุยกับลูกค้าหรือหัวหน้าได้เข้าใจง่าย
สตอรีบอร์ดช่วยให้ลูกค้าหรือผู้บริหารเห็นภาพงานที่จะออกมาได้ชัดเจนกว่าการอธิบายเฉย ๆ ทำให้ได้รับความเห็นชอบหรือคำแนะนำที่ตรงจุดมากขึ้น และลดการแก้งานเพราะความเข้าใจไม่ตรงกัน
เนื้อหาออกมาน่าสนใจมากขึ้น
การวางแผนด้วยสตอรีบอร์ดช่วยให้จัดลำดับเรื่องได้ดีขึ้น มองเห็นว่าควรนำเสนออะไรก่อนหลัง จังหวะไหนควรเน้น จังหวะไหนควรเบา ทำให้เนื้อหาสนุกและน่าติดตาม ผู้ชมเข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อได้ดีขึ้น และมีโอกาสที่จะทำให้วิดีโอนั้นบรรลุเป้าหมายทางการตลาดมากขึ้น
5 เทคนิคการทำ Storyboard อย่างมืออาชีพ
การทำสตอรีบอร์ดที่ดีไม่จำเป็นต้องวาดสวย แต่ต้องวางแผนเก่งและเล่าเรื่องให้เป็น ต่อไปนี้คือเทคนิคที่ช่วยให้คุณสร้างสตอรีบอร์ดที่ใช้งานได้จริงสำหรับงานวิดีโอโฆษณาหรือคอนเทนต์การตลาดออนไลน์
1. เริ่มต้นด้วยการกำหนดข้อความหลักให้ชัดเจน
รู้ให้ชัดก่อนว่าคุณต้องการสื่อสารอะไรกับคนดู วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายว่าเป็นใคร มีปัญหาอะไร และสินค้าคุณช่วยได้อย่างไร เช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายเบื่อการรอคิวจ่ายเงิน ก็นำเสนอแอปที่ช่วยจ่ายเงินได้เร็วขึ้น วิดีโอที่มีข้อความชัดเจนจะช่วยให้คนจดจำและเข้าใจแบรนด์คุณได้ดีขึ้น
2. เลือกรูปแบบการเล่าเรื่องที่เหมาะกับเนื้อหา
เลือกวิธีเล่าเรื่องให้เหมาะกับสิ่งที่ต้องการสื่อ จะเล่าตามลำดับเวลาแบบตรง ๆ หรือสลับไปมาเพื่อสร้างความสนใจก็ได้ เช่น อาจเริ่มด้วยผลลัพธ์แล้วย้อนกลับไปเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น วิธีนี้ทำให้คนดูอยากรู้ว่าเรื่องราวเป็นมายังไง การวางลำดับในสตอรีบอร์ดช่วยให้เห็นภาพรวมและแก้ไขได้ก่อนถ่ายทำจริง
3. กำหนดอารมณ์และโทนสีให้เข้ากัน
บอกให้ชัดในสตอรีบอร์ดว่าแต่ละฉากต้องการอารมณ์แบบไหน สนุก เศร้า ตื่นเต้น หรือสงบ และจะใช้โทนสีอะไร เช่น โทนร้อนเพื่อความสนุก หรือโทนเย็นเพื่อความสงบ การกำหนดไว้ล่วงหน้าช่วยให้ทีมงานเข้าใจตรงกันและสร้างวิดีโอที่มีความต่อเนื่องทั้งเรื่อง
4. หาภาพอ้างอิงที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ต้องการ
หาภาพจากโฆษณา มิวสิควิดีโอ หรือหนังที่คล้ายกับสิ่งที่คุณอยากได้ แล้วนำมาใส่ในสตอรีบอร์ดพร้อมคำอธิบาย การมีภาพอ้างอิงช่วยให้ทีมงานเข้าใจสิ่งที่คุณคิดได้ชัดเจนขึ้น ลดความเข้าใจผิด และทำให้ผลงานออกมาใกล้เคียงกับที่คุณต้องการมากที่สุด
5. ทบทวนและรับฟังความคิดเห็นก่อนเริ่มผลิต
เมื่อทำสตอรีบอร์ดเสร็จแล้ว ให้ทบทวนและแบ่งปันกับทีมงานเพื่อรับฟังความเห็น อาจมีคนเห็นจุดบกพร่องหรือมีไอเดียดี ๆ ที่คุณนึกไม่ถึง เช่น บางฉากอาจไม่จำเป็น หรือบางฉากอาจต้องเพิ่มรายละเอียด การแก้ไขในขั้นตอนนี้ทำได้ง่ายและประหยัดกว่าการแก้ไขระหว่างหรือหลังถ่ายทำมาก
บทสรุป
สตอรีบอร์ดคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้งานวิดีโอของคุณมีความชัดเจนและมีคุณภาพ การวางแผนด้วยภาพและคำอธิบายที่ละเอียดช่วยให้ทุกคนในทีมเข้าใจเป้าหมายเดียวกัน ทำให้การผลิตราบรื่นทุกกระบวนการ ลดการแก้ไขที่ไม่จำเป็น และประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณให้แก่ธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะทำคอนเทนต์แบบไหน การใช้เทคนิคการทำสตอรีบอร์ดที่ถูกต้องจะช่วยให้ผลงานของคุณโดดเด่นและตอบโจทย์ผู้ชมได้อย่างตรงจุด หากคุณกำลังมองหาดิจิทัลเอเจนซี่ช่วยดูแลเรื่องการตลาดออนไลน์ให้กับคุณ แองก้ามีบริการรับทำ Content Marketing, รับทำ SEO, รับทำโฆษณา Google Ads และบริการด้านการตลาดครบวงจร โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง
บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)
