1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. การตลาดสายมู (Muketing) กลยุทธ์มัดใจลูกค้าด้วยความเชื่อ
Cover - การตลาดสายมู
เผยแพร่เมื่อ: ตุลาคม 4, 2024 | แก้ไขเมื่อ: ตุลาคม 7, 2024

การตลาดสายมู (Muketing) กลยุทธ์มัดใจลูกค้าด้วยความเชื่อ

Table Of Contents

ช่วงนี้เทรนด์การตลาดสายมูหรือ Muketing กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งแบรนด์ใหญ่แบรนด์เล็ก ทั้งสินค้าความงามหรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ต่างก็ทำการตลาดสายมูกันทั้งสิ้น นั่นก็เพราะว่ามันตรงกับวิถีชีวิตของคนไทยตลอดมานั่นเอง ตั้งแต่การหาฤกษ์งามยามดีสำหรับการแต่งงาน คลอดลูก หรือเปิดกิจการ การไหว้พระทำบุญ การสวมเสื้อผ้าตามตารางสีมงคล และอื่น ๆ อีกสารพัดสิ่ง แล้วแบบนี้คนไทยอย่างเราจะหนีการตลาดสายมูยังไงให้พ้น? ในเมื่อ “ความเชื่อ” มันติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ด้วยเหตุนี้การตลาดสายมูจึงเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมและที่สำคัญคือมันประสบความสำเร็จจริง ๆ 

การตลาดสายมูคืออะไร? 

การตลาดสายมู (Muketing) คือการทำการตลาดที่ผสมผสานศรัทธาและความเชื่อเข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างลงตัว เพื่อมัดใจกลุ่มเป้าหมายที่มีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อาทิ โชคลาภ ความเป็นสิริมงคล ความเจริญก้าวหน้า การงาน การเงิน ฯลฯ โดยคำว่า “สายมู” ย่อมาจากคำว่า “มูเตลู (Metelu)” แปลว่าความเชื่อ  การเสริมดวง การเสริมโชคชะตา การดูไพ่ ไสยศาสตร์  โหราศาสตร์ การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การนับถือบรรพบุรุษ ฯลฯ 

การตลาดสายมูเติบโตขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2019 ที่ทั่วโลกเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกคนตื่นตระหนกกับโรคใหม่ที่คืบคลานเข้ามาในชีวิตประจำวัน เพราะมันแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและเชื้อก็รุนแรงจนคร่าชีวิตของผู้คนไปมากมาย ต้องอยู่แต่ในที่พักอาศัยเท่านั้น ไม่สามารถออกจากบ้านไปพบปะกับคนอื่นได้ เนื่องจากในตอนนั้นยังไม่มีวิธีการรักษาที่แน่ชัดเท่าไหร่นัก ‘ที่พึ่งทางใจ’ จึงเป็นสิ่งสำคัญในสถานการณ์เช่นนี้ รวมทั้งสถานการณ์ของเหล่าผู้ประกอบการทั้งหลายก็ไม่สู้ดีนัก ใครไหวก็ไปต่อ ส่วนใครไม่ไหวก็ต้องปิดตัวลงไป

การตลาดสายมู

ขอบคุณภาพจาก ellecanada

ทำไมการตลาดสายมูถึงประสบความสำเร็จ

ผลจากงานวิจัยเรื่อง Marketing in the Uncertain World กับกลุ่มตัวอย่าง 1,200 ราย ในช่วงปี 2563 ของมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าโควิด-19 เป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยกังวลมากที่สุด ซึ่งกังวลจนต้องมองหาตัวช่วยสำคัญเพื่อปลอบประโลมจิตใจ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นมีอยู่ 3 รูปแบบได้แก่

  1. หันหน้าเข้าหาความเชื่อหรือเดินทางเข้าสู่การเป็นสายมู
  2. หาเพื่อคุยหรือเสพข่าวสารจากคอมมูนิตี้ออนไลน์
  3. เชื่อในสิ่งที่อินฟลูเอนเซอร์บอกว่าดี KOL บอกว่าใช่

Insight สายมูจากผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้หัวข้อ “การตลาดสายมู (เตลู) การใช้ความเชื่อความศรัทธามาทำการตลาด” ได้อธิบายว่าจริง ๆ แล้วการตลาดสายมูไม่ได้ทำมาเพื่อศรัทธาและความเชื่อเสมอไป ในบางครั้งแบรนด์ก็ทำการตลาดสายมูเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคจริง ๆ เช่น

  • การสวมเสื้อสีที่แตกต่างกันในแต่ละวัน ตามตารางสีมงคล เพื่อเสริมดวงชะตาด้านต่าง ๆ ในวันนั้น >> เพิ่มความมั่นใจ โดยเฉพาะวันที่ต้องประชุมกับลูกค้า หรือพูดคุยเจรจาธุรกิจ
  • การดูดวง เปิดไพ่ทำนายอนาคต อย่างดูดวงความรัก การงานในปีหน้า การเงินในอนาคต ฯลฯ >> เพื่อหาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้
  • การพกเครื่องรางของมงคลไว้ติดตัว >> เพื่อให้ตัวเองสบายใจขึ้นและมีกำลังใจในการต่อสู้กับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันนั้น
  • การใส่กำไลสายมูที่มีตะกรุดด้านต่าง ๆ และร้อยด้วยหินมงคล >> เพื่อเสริมดวงส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือการสวมตามเทรนด์แฟชั่นในขณะนั้น
muketing

ตัวอย่างการตลาดสายมูจากแบรนด์ต่าง ๆ ในไทย

เราก็มีตัวอย่างของ Muketing ด้านความรักจากแอปพลิเคชันหาคู่ยอดฮิต “Tinder” ผู้จัดจำหน่ายวอลล์เปเปอร์เสริมดวงครบทุกด้านในที่เดียว “HoroWall” และค่ายเครือข่ายโทรศัพท์ชื่อดังอย่าง “True” มาฝากกัน ลองไปดูกันเลยว่าเค้าจะเล่นการตลาดสายมูด้วยกลยุทธ์อะไรบ้าง?

Tinder

Tinder แอปพลิเคชันหาคู่ชื่อดัง ทำการตลาดสายมูร่วมกับ centralwOrld  ในช่วงเดือนแห่งความรัก บริเวณลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ที่ตั้งของพระตรีมูรติ (เทพเจ้าในศาสนาฮินดูที่ดังเรื่องความรัก) โดยการเนรมิตพื้นที่ดังกล่าวคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายของความรัก พร้อมกับแจกชุดไหว้พระตรีมูรติฟรี 100 ชุด/วัน สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนใช้งานแอปพลิเคชัน Tinder

การตลาดสายมู ตัวอย่าง

ขอบคุณภาพจาก Prachachart . net

HoroWall

HoroWall เป็นแบรนด์วอลล์เปเปอร์สายมูที่โด่งดังไปทั่ว Social Media โดยสินค้าที่หลักของ HoroWall คือวอลล์เปเปอร์หน้าจอมือถือเสริมดวง ที่ออกแบบมาให้แต่ละบุคคลโดยเฉพาะ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเรื่องที่ต้องการเสริมดวงได้ ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน ความรัก สุขภาพ หรืออื่น ๆ จากนั้นก็ทำการส่งข้อมูลส่วนตัวไปให้ทางแบรนด์จัดทำวอลล์เปเปอร์ที่เหมาะสมกับดวงและเรื่องที่คุณต้องการมาให้ HoroWall ได้ร่วมมือกับอาจารย์ด้านโหราศาสตร์ชื่อดัง และนำความเชื่อทั้ง 4 ศาสตร์มาไว้ในวอลล์เปเปอร์ภาพเดียว ทั้งใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก และพกไปกับตัวได้ทุกที่ จึงทำให้วอลล์เปเปอร์สายมูได้รับความนิยมอย่างมาก

เคสตัวอย่างของการทำการตลาดสายมูของ HoroWall คือการร่วมมือกับ SkinX แอปพลิเคชันแพทย์ผิวหนังออนไลน์ ในการมอบวอลล์เปเปอร์เสริมดวงมูลค่า 199 บาท ให้แก่ลูกค้าใหม่ที่สมัครใช้งานแอปพลิเคชัน นอกจาก SkinX จะมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยโปรโมตวอลล์เปเปอร์เสริมดวงของ HoroWall ไปในตัวด้วย

ตัวอย่างการตลาดสายมู

ขอบคุณภาพจาก Facebook Page ‘SkinX พบแพทย์ผิวหนังออนไลน์’

True

True คือหนึ่งในเครือข่ายผู้ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ได้ทำแคมเปญ “เบอร์คู่มงคลคัดพิเศษ” ที่เป็นการนำความเชื่อด้านตัวเลขและเบอร์มงคล มาผสานเข้ากับเบอร์โทรศัพท์มือถือที่เป็นหนึ่งในสินค้าของ True อย่างลงตัว เพราะในประเทศไทยเองมีผู้ที่เชื่อในศาสตร์แห่งตัวเลขไม่น้อยเลย

Muketing ตัวอย่าง

ขอบคุณภาพจาก Facebook Page ‘True4U’

บทสรุป

การตลาดสายมู หรือ Muketing เป็นการใช้ศาสตร์ (ทางความเชื่อ) และศิลป์ (ความคิด ความครีเอทีฟ) รวมถึงกลยุทธ์การทางตลาดมารวมตัวกัน นอกเหนือจากตัวอย่างการตลาดสายมูที่เราได้เอ่ยถึงในบทความนี้แล้ว ก็มีแคมเปญและสินค้าสายมูอีกมากมายในท้องตลาด อาทิ ลิปมหาเสน่ห์, ฉีดหน้าเสริมโหงวเฮ้ง, พวงกุญแจตามราศี, เสื้อสกรีนลายเทพเจ้า ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นการเอาความเชื่อความศรัทธาของกลุ่มเป้าหมายมาใช้เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ดังนั้น ถึงแม้ว่ามันจะเห็นผลและดูมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง แต่คุณก็จะต้องวางกลยุทธ์ให้ดีและเลือกจับคู่ความเชื่อสินค้าอย่างชาญฉลาด ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะโดนกระแสตีกลับหรือทำให้แบรนด์เสียความน่าเชื่อถือไปได้ในฐานะที่ ANGA เป็น Digital Agency (เอเจนซี่การตลาดออนไลน์) ขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์คู่แข่ง จากนั้นก็ค่อยวางกลยุทธ์ทางการตลาดสายมูว่าจะใช้วิธีใดในการทำให้กลุ่มเป้าหมายกลายมาเป็นลูกค้าของคุณ พร้อมกับติดตามผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจอเทคนิคและวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ โดยวิธีที่เราอยากแนะนำคงไม่พ้นการยิงโฆษณา Facebook Ads ให้แบรนด์ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ, การทำ Influencer Marketing มัดใจกลุ่มเป้าหมายด้วยอินฟลูเอนเซอร์ และการทำเว็บไซต์ควบคู่ไปกับการทำ SEO เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์ เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

Organic Traffic คืออะไร พร้อมวิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์

Web Traffic คือผู้เข้าชมเว็บไซต์ ที่มีความสำคัญมาในการทำให้เว็บไซต์เติบโตและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง Traffic มาได้จากหลายช่องทาง อาทิ Paid, Direct, Social Media, Referral และ Organic Traffic แต่ Traf
50

Breadcrumb Navigation ป้ายนำทางบนเว็บไซต์ ที่ส่งผลดีต่อ SEO

เว็บไซต์ส่วนใหญ่มีหน้าเว็บและข้อมูลเยอะมาก อาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกสับสนและหลงทางได้ การมีตัวช่วยนำทางบนเว็บไซต์หรือ Breadcrumb Navigation ติดตั้งไว้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับ
46

รู้จัก DeepSeek AI เอไอสัญชาติจีนที่กำลังมาแรงในตอนนี้

ต้องบอกว่าในปี 2025 นี้ แพลตฟอร์ม AI เติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลายด้านได้อีกด้วย คุณสามารถใช้ AI ในการทำงานแทน อย่างเขียนบทความ สรุปข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ค้นหาข้อมูล เขี
50
th