เว็บย่อลิงค์ฟรี 2024 ย่อ URL ให้สั้น ภายในไม่กี่วินาที
เว็บย่อลิงค์ ย่อ URL หรือเป็นตัวช่วยที่สำคัญมากของนักการตลาด เพราะเรามักจะมีการแชร์ลิงค์เว็บไซต์ไปยังแพลตฟอร์ม Social Media ต่าง ๆ เป็นประจำ แต่ปัญหาที่พบคือ URL เว็บไซต์ยาวมาก จนทำให้แบรนด์ดูไม่น่าเชื่อถือและดูไม่เป็นมืออาชีพ คนไม่กล้าคลิกเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมจากลิงค์ยาว ๆ แม้จะโพสต์โดยเพจ Official ของแบรนด์เองก็ตาม
ดังนั้น การย่อลิงค์จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์ ยิ่งลิงค์สั้นและกระชับมากแค่ไหน ก็จะยิ่งดูน่าเชื่อถือมากเท่านั้น แถมยังช่วยให้อ่านง่ายสบายตาอีกด้วย และในวันนี้ ANGA (แองก้า) ก็ได้รวบรวมเว็บย่อลิงค์มาฝากกันแบบจัดเต็ม อัปเดตข้อมูลให้เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด 2024 พร้อมแนะนำฟีเจอร์เด็ด ๆ ในเว็บแปลงลิ้งค์ที่นักการตลาดไม่ควรพลาดให้ด้วย!
การย่อลิงค์สำคัญกับการทำการตลาดออนไลน์อย่างไร
ในแง่ของการตลาดออนไลน์ การย่อลิงค์เป็นขั้นตอนที่ช่วยเพิ่มผลลัพธ์ในการทำงานได้เป็นอย่างดี ทั้งช่วยลดจำนวนตัวอักษรให้เป็นไปตามที่แพลตฟอร์มกำหนดไว้ และยังช่วยเพิ่ม User Experience ที่ดีให้กับผู้ใช้งานได้อีกด้วย ทั้งนี้ในมุมเชิงลึกที่ผู้ใช้หลายคนมองข้ามคือการ Track Performance เราอาจรู้จักการใช้ UTM สำหรับลิงค์เต็ม เพื่อเก็บข้อมูลเข้า Google Analytics 4
แต่เว็บย่อลิงค์ต่าง ๆ ก็มีฟีเจอร์ที่ง่ายต่อผู้ใช้งานในระดับ Beginner อย่างการแสดงแหล่งที่มาว่ามีคนคลิกลิงค์นั้นมาจากที่ไหน (Traffic Source) บอกเลยว่ามีประโยชน์มาก เพราะเราสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ดาต้าและปรับปรุงแคมเปญการตลาดออนไลน์ของเราได้อย่างแม่นยำ และวิธีย่อลิงค์ที่ดีคือการเลือกใช้ Domain หรือ Path ที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างชื่อแบรนด์ของคุณเองจะเป็นการดีที่สุด
ประโยชน์ของการย่อลิงค์จากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ
ในฐานะที่แองก้าเป็นดิจิทัลเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ บอกได้เลยว่าการย่อลิงค์มีประโยชน์อย่างมาก ทั้งในด้านของการทำ SEO, การยิง Ads และการทำการตลาดบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ดังนั้น เราจึงจะมาเปิดมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านให้คุณรู้ว่าพวกเขาใช้ลิงค์สั้น ๆ เพื่ออะไร และทำให้เกิดผลลัพธ์อะไรตามมาบ้าง
ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO
“การย่อลิงค์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Backlink ได้ดีมากครับ คือตัวเว็บย่อลิงค์เค้าจะมีระบบ Tracking การคลิกของ User ที่ทำงานคล้าย ๆ กับ UTM มาด้วย ทำให้เรารู้ว่า User คลิกลิงค์มาจากเว็บไซต์ไหน มี Traffic เข้ามาจากเว็บที่เราเอาคอนเทนต์ไปลงเท่าไหร่ ซึ่งเราจะดูและวัดผล Performance ได้ง่ายกว่าการทำ UTM ด้วยครับ” – Piyawat Supsindumrong | Senior SEO Specialist at ANGA Bangkok
ผู้เชี่ยวชาญด้านการยิงโฆษณา
“ส่วนใหญ่เราจะใช้ Short URL ในการติดตามผลของแคมเปญโฆษณาค่ะ เช่น การใช้ Short URL แยกตามแคมเปญโฆษณา Google Ads เพื่อดูว่าแคมเปญไหนสร้าง Conversion Rate ได้มากที่สุด หรือการใช้ Short URL แยกตามกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญ Facebook Ads เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย แล้วเอาข้อมูลมา Optimize Ads ในอนาคต รวมถึงการทำ Personalize Ads หรือ Content ให้กับลูกค้า ANGA ที่ยิงแอดกับเราด้วยค่ะ” – Kantika Waewsawang | Paid Media Team Lead at ANGA Bangkok
7 เว็บย่อลิงค์ฟรี ใช้ย่อ URL ง่าย ลูกเล่นเพียบ 2024
ต้องบอกว่าเว็บย่อลิงค์ที่เราเอามาฝากกันนี้ ไม่ได้ทำได้แค่การย่อ URL ให้สั้นลงเท่านั้น แต่ยังสามารถกำหนดชื่อลิงค์ ตั้งชื่อ URL ได้ตามต้องการ และใช้งานลูกเล่นได้หลากหลายรูปแบบอีกด้วย ซึ่งมีประโยชน์กับนักการตลาดมาก ๆ เพราะจะทำให้คุณสามารถตรวจสอบได้ว่ากลุ่มเป้าหมายคลิกลิงค์ของคุณมาจากแหล่งที่มาใด นำไปวิเคราะห์จำนวนผู้เข้าชมลิงค์ได้ และอื่น ๆ อีกสารพัด เรียกว่าคุ้มสุด ๆ ! มาดูกันว่า 7 เว็บย่อลิงค์เด็ด ๆ ที่เราเอาฝากกันจะมีเว็บไซต์ไหนบ้างนะ
1. Rebrandly
เริ่มกันที่ ‘Rebrandly’ เว็บย่อลิงค์ที่มีความโดดเด่นในการทำการตลาดสำหรับแบรนด์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเว็บใดบนโลกอินเทอร์เน็ตก็สามารถย่อลิงค์ให้กระชับได้ แถมยังมีอีกหลากหลายฟังก์ชันที่น่าสนใจ เช่น การสร้าง QR Code, การย่อ URL เพื่อ Collaborate ระหว่างทีมหรือแผนก, การรวมลิงค์ของแบรนด์ทั้งหมดใน Workflow, การติดตามจำนวนผู้ชมและจัดหมวดหมู่ เช่น ประเทศ ภาษา อุปกรณ์ที่ใช้ ความถี่และอื่น ๆ รวมถึงการ Optimize สำหรับการขยายฐานลูกค้าด้วย
สำหรับวิธีย่อลิงค์ก็แสนง่ายดาย เมื่อเข้าไปยังเว็บไซต์ rebrandly.com จะพบกับช่อง Shorten URL ที่คุณสามารถย่อ Brand link ได้ฟรี 10 ลิงค์/เดือน และสามารถติดตามการคลิกชมได้ 5,000 Clicks ต่อเดือน แถมสร้างชื่อโดเมนได้ 5 ลิงค์ต่อเดือน สำหรับใครที่จ่ายเงินรายเดือนจะสามารถ Custom การรายงานแต่ละเดือนได้และใช้ฟีเจอร์ Active Teammate
2. TinyURL
หากนึกถึงความสะดวกสบายใช้เวลาน้อยที่สุดในการย่อ URL ต้องไม่พลาดเว็บย่อลิงค์อย่าง ‘TinyURL’ เพราะไม่ต้องสมัครก็สามารถวางและย่อลิงค์ได้ทันที ไม่มีวันหมดอายุ หากต้องการ Customize ครึ่งหลังของลิงค์ก็สามารถทำได้เช่นนั้น จากนั้นคลิก ‘Make TinyURL!’ เป็นอันเสร็จสิ้น
ทั้งนี้หากเปิดบัญชีแบบฟรีคุณสามารถดูประวัติลิงค์ทั้งหมดที่เคยย่อได้ ส่วนใครที่ต้องการใช้ฟีเจอร์เสริมอย่างการติดตามและวิเคราะห์การเข้าชม การสร้าง Brand Domain และการแก้ไขชื่อลิงค์ที่สร้างไปแล้วต้องควักตังกันหน่อยประมาณ 330 บาทต่อเดือนเท่านั้น
3. BL.INK
อีกหนึ่งเว็บไซต์ที่ครบเครื่องเรื่อง URL สามารถย่อ URL และติดตาม Traffic ที่มาจากลิงค์นั้น ๆ ได้ โดยข้อมูลจะปรากฏบน Dashboard ว่าลิงค์ใดกำลังได้รับความนิยมพร้อมกับแสดงสถิติ เจาะลึกได้ว่าผู้ชมเข้าถึงด้วยอุปกรณ์ใด สถานที่ใด และแหล่งที่กดลิงค์มาจากไหน ทำให้การทำแคมเปญการตลาดง่ายขึ้นมาอีกสเต็ป ซึ่ง เว็บย่อลิงค์ BL.INK เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กเป็นอย่างมาก
โดยแพลนการสมัครสมาชิก BL.INK มี 4 รูปแบบขึ้นอยู่กับจำนวนลิงค์ที่คุณต้องการสร้างและติดตามผล เช่น แพลน 1,500/เดือน สามารถสร้างลิงค์ได้ถึง 10,000 และติดตามต่อลิงค์ 7,500 รายการต่อลิงค์หนึ่ง ส่วนใครที่ไม่อยากเสียเงินก็สามารถใช้ฟรีได้ 1,000 ลิงค์และมีการติดตามผลอย่างจำกัด
4. Short.io
‘Short.io’ อีกหนึ่งเครื่องมือแปลงลิ้งค์ที่ได้รับความนิยมในหมู่บริษัทยักษ์ใหญ่ เพราะนอกจากจะสามารถย่อ URL และติดตามได้ว่าผู้ชมเข้ามาจากอุปกรณ์ใดแล้ว ยังสามารถกำหนดการนำทางของลิงค์ไปยังจุดหมายที่ต้องการได้อีกด้วย เช่น ผู้ชมใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ก็จะเปลี่ยนจุดหมายไปยังลิงค์ A แต่ถ้าผู้ชมใช้งานผ่านมือถือ ก็จะเปลี่ยนจุดหมายไปยังลิงค์ B เป็นต้น
ในส่วนการย่อลิงค์สามารถทำได้ดีอยู่แล้วแถมยังระบุโดเมนของตัวเองได้ ที่สำคัญยังช่วยเจาะข้อมูล สำหรับบัญชีฟรีใช้ได้ 1,000 Brand links และ 50,000 Tracked links หากจ่ายประมาณ 500/เดือน จะสามารถสร้างลิงค์ได้ไม่จำกัดพร้อมกับเจาะพื้นที่โฆษณาได้ (Geo-targeting)
5. Sniply
หากคุณเป็นฝ่ายแชร์คอนเทนต์บทความหรือวิดีโอที่น่าสนใจของคนอื่น ลงบนโซเชียลมีเดียหรือบทความข่าวสารของตัวเอง ‘Sniply’ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะทั้งช่วยย่อ URL ติดตามผลและสามารถเพิ่ม Call-to-action (CTA) เหนือลิงค์ที่แชร์ได้ เมื่อมีคนกดเข้าลิงค์จากโซเชียลมีเดียของคุณไปยังบทความที่น่าสนใจจะมี pop-up แสดงขึ้นแนะนำให้กด Subscribe เพื่อติดตามข่าวสารใหม่ ๆ ได้ ซึ่งจะเป็นข้อความหรือภาพก็ได้ทั้งสิ้น
สำหรับราคาของ Sniply ค่อนข้างแรงนิดนึงแต่ก็ให้ความคุ้มค่าสูง เนื่องจากแพลนฟรีใช้ได้เพียง 500 คลิก/เดือน ส่วนแพลน 800 บาท สามารถใช้งานได้ถึง 5,000 คลิก/เดือน และแพลนสำหรับธุรกิจ 4,080 บาท ก็สามารถกำหนดโดเมนเองได้ด้วย
6. URL Shortener by Zapier
ถ้าคุณกำลังมองหาเว็บย่อลิงค์ที่ง่ายที่สุด แบบแทบไม่ต้องทำอะไรเลย แนะนำให้ลอง ‘Zapier’ เพราะเว็บนี้มีฟีเจอร์เด็ดคือการย่อลิงค์อัตโนมัติ เมื่อคุณมีการเพิ่มรูปบน Instagram หรือเพิ่มสินค้าใหม่บนร้านค้า ก็จะมีการสร้างลิงค์ขึ้นมาและย่อลิงค์ให้แบบอัตโนมัติ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปใช้งานได้ฟรี 100 tasks/เดือน และถ้าต้องการมากกว่านั้นก็สามารถขยายเป็นแพลน 650 บาท เพื่อเข้าถึงการใช้งาน 750 tasks ได้
7. T2Mio
ปิดท้ายด้วยเว็บย่อลิงค์ที่ครบครันเรื่องการจัดการลิงค์อย่าง ‘T2Mio’ นอกจากจะช่วยให้คุณย่อ URL พร้อมกับแก้ไขชื่อและสร้าง QR Codes ได้แล้ว คุณยังสามารถสร้างโดเมนได้หลากหลาย โดยการรายงานผลจะครอบคลุมทั้งรายวัน เดือนและปี แถมมีบริการ T2M ตัวช่วยจัดการแคมเปญพร้อมกับแบ่ง Categories ของลิงค์ตาม Tag, บริการ Didicated instance, Load balancer และอื่น ๆ อีกมากมายด้วย เลือกได้หลากหลายแพ็กเกจ โดยเริ่มต้นเพียง 150 บาท/เดือน เท่านั้น
สรุปบทความเรื่องเว็บย่อลิงค์ฟรี 2024
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 เว็บย่อลิงค์ แปลงลิงค์ ย่อ URL ยาว ๆ ให้สั้นกระชับในชั่วพริบตาที่เราเอามาฝากกัน นอกจากจะช่วยให้ลิงค์ดูสวยงามไม่วุ่นวายแล้ว ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้แบรนด์ของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นอีกด้วย ทุกเว็บไซต์เปรียบเสมือนพิกัดขุมทรัพย์ดี ๆ ที่นักการตลาดควร Save เก็บไว้ เพราะทั้งง่าย ทั้งเร็ว และยังสามารถติดตามข้อมูล เพื่อนำไปวิเคราะห์และวางกลยุทธ์ทางการตลาดต่อไปได้อีกด้วย ใครที่สนใจย่อลิงค์กับเว็บไซต์ใด ก็ลองกดคลิกเข้าไปใช้งานกันได้เลย