
Demand Gen คือโฆษณารูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ
เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณา Google Ads พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วย Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Discovery Ads โดยการดึงเอาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้งาน พร้อมฟีเจอร์โฆษณาที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น มาทำความรู้จักว่า Demand Gen คืออะไร มีวิธีการทำงานอย่างไร มีประโยชน์ยังไง และ Demand Gen ต่างกับ Discovery Ads อย่างไรบ้างในบทความนี้ ANGA (แองก้า) รวบรวมข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญมาไว้ให้แล้ว
Demand Gen คืออะไร
Demand Gen คือโฆษณาใหม่รูปแบบของ Google Ads ที่เปิดตัวช่วงปลายปี 2023 โดยพัฒนาต่อยอดมาจาก Discovery Ads ด้วยการเพิ่มความสามารถของ AI และความหลากหลายของช่องทางการแสดงผล ทั้ง YouTube Shorts, YouTube In-stream, YouTube Feeds, Google Discover และ Gmail ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวางมากขึ้น โดยมีจุดเด่นคือการรวมการแสดงโฆษณาหลายรูปแบบไว้ในแคมเปญเดียว ทั้งวิดีโอและรูปภาพ รองรับ Product Feeds สำหรับกระตุ้นยอดขาย และฟีเจอร์ Lookalike Audience ที่ช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ พร้อมกับรองรับการประมูลราคาได้หลายรูปแบบ ทำให้การลงทุนโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น
Demand Gen เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการเพิ่มการรับรู้แบรนด์และยอดขาย โดยเฉพาะธุรกิจที่มีสินค้าหลากหลายและต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ Google พัฒนา Demand Gen ขึ้นมาเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คนใช้หลายแพลตฟอร์มมากขึ้น ชอบดูวิดีโอสั้น ๆ และใช้เวลากับคอนเทนต์หลากรูปแบบ การมีโฆษณาที่แสดงได้ในหลายช่องทางจึงช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม
วิธีการทำงานของ Demand Gen
วิธีการทำงานของ Demand Gen คือการนำ AI และ Machine Learning เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของ Google เพื่อหาคนที่น่าจะสนใจสินค้าหรือบริการของคุณ ระบบจะดูว่าใครชอบค้นหาข้อมูลอะไร ดูวิดีโอประเภทไหนใน YouTube หรือมีการโต้ตอบกับอีเมลแบบไหนบ้าง แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาช่วยส่งโฆษณาให้ตรงกลุ่มมากที่สุด
คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้หลายแบบ จะเลือกตามอายุ เพศ ความสนใจ หรือจะอัปโหลดรายชื่อลูกค้าที่มีอยู่แล้วก็ได้ ที่เจ๋งกว่านั้นคือคุณสามารถใช้ฟีเจอร์ Lookalike ให้ระบบไปหากลุ่มคนที่มีลักษณะคล้ายๆ กับลูกค้าคุณ นอกจากนี้ คุณยังปรับแต่งเป้าหมายได้ตามต้องการ จะเน้นให้คนคลิกเข้าเว็บเยอะ ๆ หรือจะเน้นให้คนซื้อของเลยก็ได้ ทำให้คุณปรับแคมเปญให้เข้ากับสิ่งที่ธุรกิจต้องการได้อย่างง่ายดาย
ประโยชน์ของโฆษณาแบบ Demand Gen คืออะไร
- โฆษณาของคุณจะปรากฏบนหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง YouTube, Gmail และ Google Discover ทำให้มีโอกาสเข้าถึงคนได้มากถึง 3 พันล้านคนต่อเดือน
- ระบบ AI จะช่วยส่งโฆษณาให้ตรงกับคนที่น่าจะสนใจสินค้าคุณจริง ๆ โดยดูจากข้อมูลการใช้งานต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น
- คุณสามารถใช้ทั้งรูปภาพและวิดีโอในแคมเปญเดียวกันได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพเดี่ยว ภาพชุด หรือวิดีโอสั้นๆ ช่วยให้นำเสนอสินค้าได้น่าสนใจมากขึ้น
- สามารถโชว์สินค้าได้หลายรายการในครั้งเดียวด้วย Product Feed ทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าหลากหลายของคุณได้ทันที
- คุณลองทำโฆษณาหลาย ๆ แบบแล้วปล่อยให้ระบบเทียบว่าแบบไหนได้ผลดีกว่ากัน ช่วยให้รู้ว่าควรปรับโฆษณาอย่างไรต่อไป
- ดูผลลัพธ์ได้ชัดเจนว่าคนเห็นโฆษณากี่คน คลิกกี่ครั้ง และมีคนซื้อของกี่ราย ทำให้คุณรู้ว่าโฆษณาคุ้มค่าหรือไม่
- ฟีเจอร์ Lookalike ช่วยหาคนที่มีพฤติกรรมคล้าย ๆ กับลูกค้าที่เคยซื้อของคุณ ทำให้คุณขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ได้ง่ายขึ้น
- คุณเลือกได้ว่าจะเน้นโฆษณาเพื่อให้คนกดเข้าเว็บเยอะ ๆ หรือจะเน้นให้คนซื้อของ ระบบจะปรับการประมูลราคาให้เหมาะสมตามเป้าหมายที่คุณตั้งไว้
Demand Gen ต่างกับ Discovery Ads อย่างไร
Demand Gen แตกต่างจาก Discovery Ads อย่างเห็นได้ชัดในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่แสดงผลที่มากขึ้น จาก Discovery Ads ที่แสดงเฉพาะใน YouTube Feed, Google Discover และ Gmail เท่านั้น Demand Gen เพิ่มพื้นที่แสดงผลไปยัง YouTube Shorts และ YouTube In-stream ด้วย ส่วนรูปแบบการโฆษณาก็มีความหลากหลายขึ้น จากเดิมที่ทำได้แค่โฆษณารูปภาพและ Product Feeds แต่ Demand Gen สามารถผสมผสานทั้งรูปภาพและวิดีโอได้ในแคมเปญเดียว พร้อมฟีเจอร์ A/B Testing ที่ช่วยให้คุณเปรียบเทียบประสิทธิภาพได้
นอกจากนี้ Demand Gen ยังมีตัวเลือกการประมูลราคาที่เพิ่ม Maximize Clicks เข้ามา การวัดผลก็ละเอียดขึ้นด้วย Conversion Path Report และ Data Driven Attribution ที่ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของโฆษณาได้ชัดเจนกว่าเดิม และที่สำคัญคือการมีฟีเจอร์ Lookalike Audience ที่ช่วยขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้นกว่าแค่ Optimize Targeting ของ Discovery Ads
ทำอย่างไรถึงจะใช้งาน Demand Gen ได้
สำหรับผู้ที่เคยใช้ Discovery Ads อยู่แล้ว Google จะเปลี่ยนเป็น Demand Gen ให้โดยอัตโนมัติภายในเดือนมีนาคม 2024 โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม แต่หากสนใจใช้งานเร็วขึ้น สามารถติดต่อผู้ดูแลบัญชี Google Ads ของคุณได้โดยตรง หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ Google เพื่อเข้าร่วมโปรแกรม Beta การใช้งานไม่ยุ่งยาก เพียงสร้างแคมเปญแบบ Demand Gen ในบัญชี Google Ads เตรียมรูปภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพ กำหนดกลุ่มเป้าหมาย และตั้งค่าการประมูลราคาตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด ก็สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันที
บทสรุป
คุณคงเข้าใจแล้วว่า Demand Gen คืออะไร แนะนำให้ทำโฆษณาแบบ Demand Gen ควบคู่ไปกับการทำ Google Search Ads หรือการทำการตลาดออนไลน์ด้วยวิธีอื่น ๆ อย่างทำ SEO (Search Engine Optimiaztion) ด้วย เพื่อให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้นและสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ สุดท้ายนี้ หากคุณไม่สามารถลงมือทำการตลาดออนไลน์ด้วยตัวเองได้ และต้องการมองหาเอเจนซี่รับทำโฆษณา Google Ads แบบครบวงจร สามารถรับปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญจากแองก้าได้ที่ LINE : @anga หรือโทร 02-023-8899
บทความที่เกี่ยวข้อง

Google เผยเอกสาร 8 วิธีทำให้เว็บไซต์คุณติด AI Search ทุกตัว
