Google Trends คืออะไร? พร้อมวิธีหาไอเดียทำการตลาดออนไลน์และ SEO
ในโลกการทำธุรกิจในทุกวันนี้ไม่มีอีกแล้วกับคำพูดที่ว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” มีแต่ “ปลาไวกินปลาช้า” เท่านั้นถึงจะประสบความสำเร็จได้ในโลกออนไลน์ หากคุณเข้าถึงและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ก่อนใคร คุณก็จะสามารถหาไอเดียต่อยอดเพื่อนำความสำเร็จมาแก่ธุรกิจของคุณ แล้วจะทำอย่างไรถึงจะรู้และเข้าใจว่าตลาดตอนนี้ต้องการอะไรกันแน่? วันนี้แองก้าจึงจะมาแนะนำเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจออนไลน์และเป็นเครื่องมือที่เจาะลึกทางด้าน SEO อย่าง Google Trends สุดยอดเครื่องมือที่ดิจิทัลเอเจนซี่เลือกใช้ ไปดูกันว่า Google Trends นั้นคืออะไรกันแน่? และจะมีประโยชน์แค่ไหน? มาหาคำตอบกันได้เลย!
Google Trends คืออะไร?
Google Trends คือเว็บไซต์หนึ่งที่เป็นเครื่องมือฟรีของ Google ที่ปล่อยออกมาเพื่อใช้ในการช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจทุกคนในการค้นหาและตรวจสอบความนิยมของผู้บริโภค หรือผู้ที่ใช้งาน Google จากการเสิร์ชโดยใช้ Keywords ค้นหาสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาช่วงเวลาที่คุณต้องการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการนำไปวิเคราะห์ความนิยมหรือแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งคุณสามารถใช้ Google Trends ตรวจสอบเทรนด์เหล่านี้ได้ ตามช่วงเวลาหรือตำแหน่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ฮิตรายวันในระดับประเทศ หรือเทรนด์ฮิตรายวันในระดับโลกก็ตาม อีกทั้ง Google Trends ยังสามารถย้อนดูความนิยมย้อนหลังเพื่อนำมาเปรียบเทียบถึงโอกาสความเติบโตของสิ่งนั้นๆ ได้อย่างง่ายดาย
ประโยชน์ของ Google Trends คืออะไรบ้าง?
คุณอยากรู้ไหมว่าช่วงนี้คุณจะขายอะไรดี? หรือทำคอนเทนต์ยังไงดีถึงจะเข้าถึงผู้บริโภคได้? คำถามเหล่านี้นั้นเป็นคำถามยอดฮิตของการเริ่มต้นทำธุรกิจหรือการสร้างแคมเปญทางการตลาดที่สำคัญ จึงเกิดเป็นเครื่องมืออย่าง Google Trends ขึ้นในการตอบคำถามเหล่านี้! สำหรับเว็บไซต์ที่ใช้ในการค้นหาเทรนด์ความนิยมแบบ Google Trends นี้นั้น ก็อาจไม่ได้สามารถตอบโจทย์การใช้งานของทุกคนได้ แต่ต้องเป็นคนที่สามารถใช้ประโยชน์จาก Google Trends ในการวิเคราะห์หาข้อมูลได้อย่างถูกที่และถูกเวลา แล้วประโยชน์ของ Google Trends คืออะไรอีกบ้าง? ที่จะช่วยในการทำธุรกิจของคุณได้ ไปดูฟีเจอร์เด่นๆ ของ Google Trends กันเลย
- วางแผนการตลาด Google Trends นี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการวางแผนทำธุรกิจและสร้างแคมเปญ เพื่อหาไอเดียใหม่ๆ ในการพัฒนาแผนการตลาด และวิเคราะห์ทิศทางที่จะเกิดขึ้นในอนาคตบนโลกออนไลน์ได้อย่างดี
- สร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ สำหรับสายงานด้านการสร้างคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์สำหรับงาน SEO รวมถึงคอนเทนต์สำหรับลง Blog หรือ Vlog ของตัวเองก็ตาม Google Trends ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีที่สุด ทั้งยังเป็นเครื่องมือในการหา Keyword ยอดฮิตเพื่อเป็นไอเดียในการสร้างคอนเทนต์ได้
- วัดผลธุรกิจ Google Trends นี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจสอบแผนการตลาดหรือคอนเทนต์ของคุณว่าประสบความสำเร็จมากแค่ไหน จากการค้นหาชื่อเว็บไซต์ธุรกิจของคุณบนเว็บไซต์ Google Trends นี้
- ตรวจสอบคู่แข่ง Comparison นี้เป็นอีกฟีเจอร์เด็ดของ Google Trends ที่ใช้ในการดูความนิยมของเว็บไซต์คู่แข่งได้ว่ามีแนวโน้มที่มากขึ้นหรือน้อยลง เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ของคุณเอง
วิธีการใช้งาน Google Trends แบบ Step by Step
1.เริ่มต้นการใช้งาน Google Trends
คุณสามารถเริ่มต้นการใช้งาน Google Trends ได้ทันทีที่เว็บไซต์ https://trends.google.com/trends/?geo=TH และตรงเข้าไปที่การค้นหาเทรนด์ในประเทศไทยในส่วนด้านแถบเครื่องมือด้านบนขวาของเว็บได้เลย แต่ถ้าหากอยากทราบถึงเทรนด์ที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นก็สามารถเปลี่ยนได้เสมอ
2.ค้นหาเทรนด์ฮิตในตอนนี้
ต่อมาหากเลื่อนหน้าจอของ Google Trends ลงด้านล่างจะพบกับหน้าตาของ Recently Trending ที่แสดงถึงคำที่กำลังเป็นที่นิยมจากการค้นหาในช่วงนี้ของประเทศเราได้ และบอกถึงจำนวนการค้นหาคร่าวๆ ที่เกิดขึ้นด้วย แต่หากต้องการทราบข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ก็สามารถกดไปที่ More Trending Searches ได้เพื่อดูเทรนด์ที่เกิดขึ้นอีก 15 อันดับ นอกจากนั้นยังสามารถดูเทรนด์การค้นหาย้อนหลังในแต่ละวันได้เพิ่มเติมได้อีกด้วย
3.ค้นหาแนวโน้มของ Keywords ที่คุณต้องการ
แต่หากคุณต้องการดูความนิยมของคำหรือหัวข้อที่คุณต้องการวิเคราะห์ ก็สามารถนำมาใส่ได้ในช่องการค้นหาบนสุดนี้ได้ เช่นคุณเสิร์ชคำว่า “SEO” หรือคำอื่นๆ เช่น “บริการทำ SEO” ก็มีช่องปรากฏขึ้นมาให้เลือกหลายอัน ซึ่งจะมีข้อแตกต่างดังนี้
- SEO (Search Term) หมวดนี้จะหมายถึงการแสดงข้อมูลของคำนี้เพียงอย่างเดียว ถ้าหากมีคนเสิร์ชคำว่า SEO แต่เป็นภาษาไทยว่า เอสอีโอ ก็จะไม่ปรากฏข้อมูลแสดงในนี้
- Search engine optimization (Topic) หมวดนี้จะหมายถึงการรวมคำค้นหาทุกอันที่เกี่ยวข้องกับ SEO ขึ้นมาทั้งหมด เช่น SEO ย่อมาจาก หรือ wordpress SEO แบบนี้ก็จะรวมในการแสดงผลแบบ Topic นี้
- นอกจากนี้จะเป็นการแสดงผลในหมวดที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาในประเภทอื่น ที่อาจเกี่ยวข้องกับคำที่คุณค้าหาได้
4.กราฟบน Google Trends คืออะไร?
การอ่านกราฟที่ปรากฏบน Google Trends ที่สำคัญไม่ใช่แค่จำนวนการค้นหา แต่เป็นการเปรียบเทียบเทรนด์การค้นหาจากการเทียบกับช่วงเวลาที่คุณต้องการทราบข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของเทรนด์ โดยที่กราฟบน Google Trends จะแสดงข้อมูลจำนวนของคำค้นหาที่น้อยสุดไปจนสูงสุดจากตัวเลข 0-100 ในการแสดงผล
5.ตรวจสอบเทรนด์จาก Location
เมื่อเลื่อนลงมาใต้กราฟแล้ว Google Trends จะแสดงให้เห็นถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับพื้นที่ ที่คำหรือหัวข้อนี้ถูกค้นหามากที่สุดมาแสดงผลเป็น 5 อันดับ จากข้อมูลที่คุณกำหนดช่วงเวลาในการเปรียบเทียบการค้นหาด้านบนแล้ว
6.เช็ค Keywords หรือคำที่เกี่ยวข้อง
หลังจากการตรวจสอบเทรนด์จาก Location ในแต่ละพื้นที่ไปแล้วนั้น เมื่อเลื่อนหน้าเว็บไซต์ Google Trends ลงมายังมีช่องของ Relate Topic หรือหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับคำที่คุณค้นหา ส่วนช่อง Related Queries ที่เป็นการแสดงผลคำที่ใกล้เคียงคำค้นหาของคุณ เพื่อใช้เป็นไอเดียในการใช้ Keywords ในการสร้างคอนเทนต์อื่นได้เช่นกัน
สรุปเรื่องการใช้งาน Google Trends
Google Trends คือเครื่องมือฟรีที่สำคัญและมีประสิทธิของ Google ที่จะสามารถช่วยให้คุณค้นหา Insight ของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดมากขึ้น เพื่อช่วยหาไอเดียในการสร้างคอนเทนต์หรือแคมเปญการตลาดของคุณได้จากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Keywords ที่คุณค้นหาได้อย่างง่ายดาย หากคุณนำข้อมูลมาวิเคราะห์และปรับใช้ได้อย่างถูกต้อง ก็จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จขึ้นได้และยังส่งผลต่องานด้าน SEO ที่ดีขึ้นได้อีกด้วย