
สอนวิธีปักหมุดใน Google Map ให้คนค้นพบธุรกิจคุณง่าย ๆ
การปักหมุดใน Google Map เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกธุรกิจควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการปักหมุดร้านบน Google Map จะช่วยให้ลูกค้าเดินทางมาร้านของคุณง่ายขึ้น เพิ่มความน่าเชื่อถือ และช่วยเพิ่มโอกาสให้คนมาเจอกับธุรกิจของคุณมากขึ้นนั่นเอง สำหรับใครที่กำลังหาวิธีปักหมุดใน Google Map อยู่ สามารถดูขั้นตอนการปักหมุด Google Map ในบทความนี้กับ ANGA ได้เลย (แอบกระซิบว่าใช้เวลาทำไม่นาน แค่ 10 นาทีก็เสร็จแล้ว!)
การปักหมุดใน Google Map คืออะไร?
Google Map คือแผนที่ออนไลน์ที่ช่วยให้เราค้นหาสถานที่ต่าง ๆ ดูเส้นทาง และหาร้านค้าหรือบริการที่อยู่ใกล้ตัวเราได้ ส่วนการปักหมุดใน Google Map คือการเพิ่มข้อมูลธุรกิจหรือสถานที่ของคุณลงในระบบ ทำให้ร้านหรือธุรกิจปรากฏเป็นจุดบนแผนที่ เวลาที่ใครค้นหาประเภทธุรกิจหรือบริการของคุณในบริเวณใกล้เคียง ร้านของคุณก็จะแสดงขึ้นมาในผลการค้นหา ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นพบและเดินทางมาที่ร้านได้อย่างง่ายดาย
การปักหมุดร้านสามารถทำได้โดยใช้บริการที่ชื่อว่า Google Business Profile ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีที่ Google มีให้ คุณสามารถใส่ข้อมูลร้านได้ครบถ้วน ทั้งชื่อร้าน ที่อยู่ เบอร์โทร วันเวลาเปิดปิด รูปภาพ และรายละเอียดสินค้าหรือบริการ เมื่อมีคนใช้ Google ค้นหาคำว่า “ร้านกาแฟใกล้ฉัน” หรือ “ร้านเปลี่ยนยางแถวนี้” ร้านของคุณก็มีโอกาสขึ้นมาให้คนเห็น ทำให้มีลูกค้าใหม่เข้าร้านโดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าโฆษณา Google Ads เพิ่มเติมเลย

ประโยชน์ของการปักหมุดร้านใน Google Map
- ลูกค้าหาร้านคุณเจอง่ายขึ้น เมื่อมีคนค้นหาร้านในพื้นที่ใกล้เคียง ชื่อร้านคุณจะปรากฏในผลการค้นหา ช่วยให้คนรู้จักร้านมากขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา
- ลูกค้าเดินทางมาร้านได้สะดวก คนที่สนใจร้านคุณสามารถกดปุ่มนำทางให้ GPS พาตรงมาที่ร้านได้เลย ไม่ต้องถามทางหรือโทรหาคุณให้ยุ่งยาก
- ทำให้ร้านดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ร้านที่มีข้อมูลบน Google Map จะดูมีตัวตนจริงและเป็นธุรกิจจริงจัง ทำให้คนมั่นใจและกล้าตัดสินใจมาใช้บริการ
- คนเห็นรีวิวร้านจากลูกค้าคนอื่น ระบบรีวิวช่วยให้คนเห็นความคิดเห็นจากลูกค้าเก่า ร้านที่มีคะแนนดีจะดึงดูดลูกค้าใหม่ได้มากกว่าร้านที่ไม่มีรีวิว
- แข่งกับร้านใหญ่ ๆ ได้ในการค้นหา ร้านเล็ก ๆ ก็มีโอกาสขึ้นผลการค้นหาเหนือร้านใหญ่ได้ ถ้าตำแหน่งร้านอยู่ใกล้ผู้ค้นหามากกว่าและมีข้อมูลครบถ้วน
- แสดงข้อมูลร้านได้ครบทุกอย่าง คุณสามารถใส่เวลาเปิด-ปิด รูปร้าน รูปสินค้า เบอร์โทร ทำให้คนรู้ข้อมูลครบก่อนตัดสินใจมาได้
- ดูสถิติคนค้นหาและเข้าชมร้านได้ คุณสามารถเห็นได้ว่าคนหาร้านคุณด้วยคำค้นหาอะไร กดดูอะไรบ้าง กดนำทางมากี่ครั้ง ช่วยให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้น
- แจ้งข่าวและโปรโมชันได้ตลอด คุณสามารถโพสต์ข่าวสาร โปรโมชัน หรือเมนูใหม่ได้ เป็นช่องทางบอกข่าวกับลูกค้าโดยไม่ต้องเสียเงิน
วิธีปักหมุดใน Google Map ด้วยตัวเองง่าย ๆ
วิธีปักหมุดใน Google Map สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองและไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใด ๆ เพียงแต่จะมีการยืนยันว่าคุณคือเจ้าของธุรกิจนั้นจริงหรือไม่ผ่านอีเมลเท่านั้น เมื่อคุณสร้างบัญชีและปักหมุดธุรกิจใน Google Map เรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถเข้าไปปรับแต่งเพิ่มความน่าสนใจหรือแก้ไขข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาดูกันว่าวิธีปักหมุดใน Google Map ต้องทำยังไงบ้าง?
1. เข้าสู่ระบบและสร้างบัญชีธุรกิจ

- เปิดเบราว์เซอร์และเข้าไปที่ business.google.com
- คลิกที่ปุ่ม “บริหารธุรกิจ” หรือ “จัดการเลย” ที่หน้าแรก
- เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Gmail ที่ต้องการใช้ดูแลข้อมูลธุรกิจ
- แนะนำให้ใช้อีเมลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เพื่อความน่าเชื่อถือและความเป็นระเบียบในการจัดการ
2. เพิ่มชื่อและประเภทธุรกิจ

- พิมพ์ชื่อธุรกิจลงไป เพื่อตรวจสอบว่ามีในระบบแล้วหรือไม่
- หากยังไม่เคยมีธุรกิจนี้มาก่อน ระบบจะแสดงข้อความสีเทาใต้ชื่อธุรกิจว่า “สร้างธุรกิจด้วยชื่อนี้” และเลือก “ดำเนินการต่อ”
- เลือกประเภทธุรกิจให้ตรงกับกิจการของคุณมากที่สุด เพราะส่งผลต่อการทำ SEO เว็บไซต์ด้วย เช่น ร้านค้าปลีกออนไลน์ ร้านค้าในพื้นที่ และธุรกิจบริการ โดยสามารถเลือกได้หลายธุรกิจ
- หากเลือกร้านค้าปลีกออนไลน์ คุณจะต้องระบุเว็บไซต์ก่อนเลือกหมวดหมู่ธุรกิจ
- ป้อนหมวดหมู่ธุรกิจ เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น, บริษัทรับทำ SEO, สตูดิโอศิลปะ ฯลฯ ซึ่งการเลือกหมวดหมู่ที่ถูกต้องช่วยให้ธุรกิจปรากฏใน Google Search อย่างแม่นยำ
3. กรอกข้อมูลที่ตั้งและปักหมุดบนแผนที่

- กรอกที่อยู่ธุรกิจหรือสถานที่ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาเยี่ยมชมธุรกิจของคุณได้
- กรอกที่อยู่ให้ถูกต้องและครบถ้วน (บ้านเลขที่ ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด รหัสไปรษณีย์)
- ระบบจะดึงเอาธุรกิจที่มีความคล้ายคลึงกันมาแสดง และสอบถามว่า “นี่ใช่ธุรกิจของคุณหรือไม่” หากไม่ใช่ ให้คลิก “ไม่มีเลย” และกดปุ่ม “ถัดไป”
- ถึงเวลาปักหมุดธุรกิจบน Google Map โดยลากตำแหน่งหมุดสีแดงไปให้ตรงกับที่ตั้งจริงของธุรกิจ
4. ระบุข้อมูลติดต่อและเวลาทำการ
- เพิ่มช่องทางการติดต่อ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์ เว็บไซต์ และอีเมล
- กำหนดเวลาเปิด-ปิดในแต่ละวัน รวมถึงวันหยุดพิเศษ (ถ้ามี)
- ข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์ต่อลูกค้าที่ต้องการติดต่อหรือเข้าใช้บริการ
- การให้ข้อมูลครบถ้วนช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
5. ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลธุรกิจ
- ตรวจสอบข้อมูลธุรกิจทั้งหมดอีกครั้งก่อนการยืนยัน
- กดปุ่ม “ดำเนินการต่อ” เพื่อส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบการยืนยัน
- Google จะส่งรหัสยืนยันไปยังอีเมลที่คุณระบุไว้
- ตรวจสอบอีเมลและนำรหัสมากรอกเพื่อยืนยันตัวตน
6. ปรับแต่งโปรไฟล์ให้สมบูรณ์
- ปรับแต่งโปรไฟล์ธุรกิจของคุณให้สมบูรณ์ที่สุด
- อัปโหลดรูปภาพหน้าร้าน ภายในร้าน และรูปสินค้าหรือบริการ
- เขียนคำอธิบายธุรกิจและสินค้าหรือบริการที่ชัดเจน
- แต่ถ้ายังไม่พร้อมกรอกข้อมูลในส่วนนี้ สามารถกดข้ามไปก่อนได้
7. แก้ไขและอัปเดตข้อมูล
สามารถแก้ไขหรือปรับปรุงข้อมูลได้ตลอดเวลาผ่าน “ตัวจัดการ Business Profile” สามารถเข้าถึงได้จากมุมขวาบนของหน้า Google ซึ่งคุณควรอัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเวลาเปิด-ปิดในช่วงเทศกาล หรือข้อมูลโปรโมชันก็ตาม
บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีปักหมุดใน Google Map ที่เราเอามาฝากกัน เห็นไหมว่าคุณเองก็ทำได้ง่าย ๆ ในไม่กี่ขั้นตอน แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องมีบัญชี Gmail ของก่อน แนะนำให้ตั้งชื่ออีเมลเป็นชื่อธุรกิจของคุณ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและง่ายต่อการเข้าไปจัดการธุรกิจ จากนั้นก็สร้างบัญชีธุรกิจ กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ปักหมุดแผนที่ และยืนยันธุรกิจตามขั้นตอนที่เราแนะนำไป เพียงเท่านี้ธุรกิจของคุณก็จะมีหมุดบน Google Map รองรับการค้นหาตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว อย่าลืมว่ายิ่งข้อมูลครบถ้วนมากเท่าไหร่ มีภาพประกอบมากแค่ไหน ยิ่งส่งเสริมให้ธุรกิจของคุณน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)
