Reels คืออะไร? 5 วิธีเพิ่มยอดวิว ทํายังไงให้คนดู Reels เยอะ

ทุกครั้งที่คุณเข้าไปใช้งาน Social Media อย่าง Facebook, Instagram หรือ YouTube คุณคงจะเห็นว่ามันมีฟีเจอร์สำหรับการแสดงวิดีโอสั้นโดยเฉพาะ นั่นเป็นเพราะว่าวิดีโอสั้น (Short Video) ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ยิ่งแบรนด์ไหนทำวิดีโอออกมาได้สั้นกระชับ แต่ยังได้ใจความและเนื้อหาที่เข้มข้นอยู่ ประกอบกับการตัดต่อที่ลื่นไหลและน่าดึงดูดใจเข้าอีกหน่อย รับรองได้เลยว่าวิดีโอสั้นตัวนั้นจะต้องได้รับความนิยม มียอดวิวสูง และมีโอกาสที่จะเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์เลยก็ได้

ในวันนี้ ANGA (แองก้า) จะพาคุณมาเจาะลึกเรื่องวิดีโอสั้นจากค่าย Meta หรือ Instagram Reels (IG Reels) และ Facebook Reels นั่นเอง พร้อมกับตอบทุกเรื่องที่คุณสงสัยผ่านบทความนี้ ไม่ว่าจะเป็น “Reels คืออะไร” , “Reels Facebook ใช้ยังไง” , “Reels Instagram คนดูไม่ขึ้นต้องทำยังไง”, “วิธีเพิ่มยอดวิว Reels” และรวมไปถึงการเปรียบเทียบ Reels กับวิดีโอสั้นบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วย

Reels คืออะไร

Reels คือฟีเจอร์วิดีโอสั้นที่ผู้ใช้งานสามารถทำการอัปโหลดคลิปวิดีโอลงไป เพื่อเผยแพร่เนื้อหาให้กับผู้ติดตามหรือผู้คนบนแพลตฟอร์มเห็น โดยสามารถปรับแต่งแก้ไข ตัดต่อ เพิ่มเสียงเพลง ใส่ฟิลเตอร์ เขียนข้อความ แปะสติกเกอร์ หรือตัดลดเสียงรบกวนจากวิดีโอต้นฉบับออกก็ได้ เรียกได้ว่ามีฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับการตัดต่อวิดีโอแบบครบครัน

ประโยชน์ของการใช้งาน Reels 

• ช่วยค้นหาเป้าหมายใหม่ ๆ ทำให้คนรู้จักคุณมากขึ้น เพราะ Reels จะไปแสดงอยู่บนหน้า Explore ของผู้คนที่มีความสนใจและมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีของคุณ
• กระตุ้นให้เกิดความมีส่วนร่วม เพราะวิดีโอที่น่าสนใจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำให้ผู้ชมกดถูกใจ คอมเมนต์แสดงความคิดเห็น กดแชร์ และติดตามบัญชีของคุณ
• ในมุมของแบรนด์ Reels สามารถกระตุ้นยอดขายและช่วยขยายฐานลูกค้าได้
• Reels สร้างรายได้ให้แก่เหล่า Creator และ Influencer ได้
• นำไปใช้ในการยิงโฆษณา Reels Ads ได้ เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจได้

Reels กับ Stories ต่างกันอย่างไร

บางคนอาจจะสงสัยว่า Stories ก็เป็นวิดีโอสั้นเหมือนกัน แล้วมันมีความแตกต่างจาก Reels ยังไง? ต้องบอกว่า Reels จะอยู่ในรูปแบบของโพสต์ ที่สามารถไปปรากฏอยู่บนหน้า Feed ของใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ติดตามของคุณ และถ้าไม่ลบออกมันก็จะยังคงอยู่ตลอดไป  แต่ Stories จะแสดงให้เห็นเฉพาะผู้ติดตามเท่านั้น (ถ้าไม่ใช่ผู้ติดตาม ก็สามารถดูได้ แต่เป็นการตั้งใจกดเข้ามาดูบนโปรไฟล์) และมีอายุแค่เพียง 24 ชั่วโมง จากนั้นก็จะถูกเก็บเข้าคลังไป

ด้วยเหตุนี้ Stories จึงเหมาะกับคอนเทนต์ Lifestyle การแชร์เรื่องราวในชีวิตประจำวัน ส่วน Reels จะเหมาะกับคอนเทนต์สร้างความบันเทิง รีวิวสินค้า หรือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มากกว่า (เชิงสร้างภาพลักษณ์และสร้างรายได้)

เทียบให้เห็นชัด ๆ Reels ต่างจากวิดีโอสั้นอื่น ๆ อย่างไร

และจากที่เราได้เกริ่นไปว่าวิดีโอสั้นมีอยู่บนหลาย ๆ แพลตฟอร์ม เพราะฉะนั้น เราจึงจะมากางตารางการเปรียบเทียบระหว่าง Reels ของ Meta กับวิดีโอสั้นบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ให้ดูกันว่ามันมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร

Reels Ads VS TikTok Ads อะไรยากกว่ากัน?

“Reels Ads กับ TikTok Ads มันคล้ายกันมาก แต่ก็มีความต่างอยู่ครับ ถ้าถามว่าอันไหนยากกว่า ก็ต้องถามกลับไปอีกว่ายากในด้านไหน ถ้าเป็นเรื่อง Brand Awareness ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ครับ แต่พอเป็นเรื่อง Consideration หรือ Conversion ก็ต้องมาดูที่ประเภทของธุรกิจที่เราทำด้วย

ถึงทั้งสองแบบนี้จะมีรูปแบบที่คล้ายกัน แต่เราต้องไปตรวจสอบดูอีกทีว่ากลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ที่ไหน และธุรกิจที่เราทำนั้นเป็นยังไง เพราะผู้ใช้ในแต่ละแพลตฟอร์มไม่เหมือนกัน และเนื้อหาในทั้งสองต้องปรับให้เข้ากับเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเราด้วยครับ โดยรวมแล้ว อาจบอกไม่ได้ว่าอันไหนยากกว่า แต่จะบอกว่าเราต้องดูลึกลงไปในธุรกิจของเรามากขึ้นว่าเรากำลังเจาะจงกลุ่มเป้าหมายและมีเป้าหมายอะไรบ้าง” Tanin Chulasub | Head of Performance Marketing

Reels ใช้ยังไง?

ใครที่เป็นมือใหม่หัดสร้าง Video Content บอกเลยว่า Reels ตอบโจทย์มาก! ใช้งานสะดวก ตัดต่อง่าย ฟังก์ชันครบ แถมยังมีการเข้าขึ้นค่อนข้างสูงอีกด้วย มาดูกันว่า Reels ใช้ยังไง? ทั้งในส่วนของ Instagram Reels และ Facebook Reels เลย

วิธีใช้ Instagram Reels

1. เข้าไปที่ Instagram และกดเลือกไอคอนวิดีโอ เพื่อไปที่ Reels จากนั้นหน้าจอจะแสดงวิดีโอ Reels ของบัญชีอื่น ๆ ขึ้นมาให้คุณรับชม ซึ่งคุณสามารถเลื่อนนิ้วขึ้น-ลงเพื่อดูได้
2. สำหรับคนที่อยากสร้าง Instagram Reels ของตัวเอง ให้กดไปที่ไอคอนรูปกล้องมุมขวาบน
3. จากนั้นก็เลื่อนนิ้วขึ้นเพื่ออัปโหลดวิดีโอลงไป (สามารถอัปโหลดได้หลายวิดีโอ ความยาวสูงสุดคือ 90 วินาที)
4. ตกแต่งวิดีโอได้ตามใจ จากไอคอนต่าง ๆ ได้แก่ Aa (เพิ่มข้อความ), หน้ายิ้ม (เพิ่มสติกเกอร์, GIF, เวลา, อุณหภูมิ, ตำแหน่ง, คำบรรยาย ฯลฯ), โน้ตเพลง (ค้นหาเพลงและเพิ่มเสียงประกอบวิดีโอ), วิ้งค์ ๆ (เพิ่มเอฟเฟ็กต์), รูปภาพ (เพิ่มภาพจากคลังภาพในอุปกรณ์), ลูกศรชี้ลง (การดาวน์โหลดวิดีโอลงอุปกรณ์) และปุ่มแก้ไขวิดีโอบริเวณมุมซ้ายล่าง (การตัดต่อวิดีโออย่างละเอียด)
5. เมื่อได้วิดีโอที่ถูกใจแล้ว ให้กดไปที่ปุ่ม “ถัดไป” เพิ่มคำบรรยายวิดีโอ, เพิ่มแฮชแท็ก, เพิ่มรูปหน้าปก และตั้งค่า Instagram Reels ได้ตามใจ และกดแชร์ได้เลย! 

วิธีใช้ Facebook Reels

1. เข้าไปที่ Facebook และกดเข้าไปที่ไอคอนรูปวิดีโอ บริเวณแถบเมนูด้านล่าง จากนั้นให้กดเข้าไปที่ Reels บริเวณแถบเมนูด้านบน
2. กดที่ไอคอนรูปกล่องมุมขวาบนเพื่อสร้าง Reels นอกจาก Reels แล้ว คุณยังสามารถถ่ายทอดสด (Live) และแชร์วิดีโอธรรมดาผ่านฟังก์ชันนี้ได้เช่นกัน
3. หน้าจอจะแสดงคลังสื่อจากอุปกรณ์ของคุณขึ้นมา ให้คุณเลือกคลิปวิดีโอที่ต้องการและทำการอัปโหลดลงไป
4. ตกแต่งวิดีโอด้วยการเลือกใช้เครื่องมือจากแถบที่อยู่บนขวามือของหน้าจอ เช่น เสียง, การตัดเสียงรบกวน, การเพิ่มข้อความ, การเพิ่มเอฟเฟ็กต์, การเพิ่มสติกเกอร์ หรือการตัดต่อแก้ไขเพิ่มเติม (เหมือนกับการตัดต่อ Instagram Reels เลย)
5. หลังจากที่ได้คลิปวิดีโอที่พึงพอใจแล้ว ให้กดที่ปุ่ม “ถัดไป” เพิ่มคำอธิบายวิดีโอ และตั้งค่าต่าง ๆ ก่อนที่จะกดแชร์เพื่อเผยแพร่เนื้อหา

5 วิธีเพิ่มยอดวิว Reels ทํายังไงให้คนดู Reels เยอะ

รู้จักวิธีใช้ Reels แล้ว ต่อไปเรามาดูวิธีเพิ่มยอดวิว Reels กันดีกว่า! แต่ต้องบอกก่อนว่าการที่เราโพสต์ Reels ไปแล้วมีคนเห็นน้อยในช่วงแรก ๆ นั้นเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกบัญชี สิ่งที่สำคัญในการกระตุ้นให้คลิป Reels ของเรามีการเข้าถึงคนมากขึ้นเรื่อย ๆ คือการหมั่นอัป Reels อย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับใช้เทคนิคดี ๆ ที่เราเอามาฝากกันอีกเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ช่วยปั่นวิว Reels ให้ดีขึ้นได้แล้ว

1. เลือกเพลงให้เข้ากับวิดีโอ

การเลือกเพลงที่เหมาะกับเนื้อหาในวิดีโอจะช่วยทำให้วิดีโอดูมีความน่าสนใจขึ้นเยอะมาก พร้อมกับช่วยดึงดูดผู้ชมให้ดูวิดีโอจนจบ ไม่เพียงแค่นั้น ยังช่วยเพิ่มยอดวิว Reels ได้ดีมาก ๆ อีกด้วย แนะนำให้ใช้เพลงที่กำลังเป็นกระแสหรือได้รับความนิยมสูง ๆ เพราะจะทำให้เข้าถึงคนมากขึ้น 

2. 5 วินาทีแรกต้องดึงดูดความสนใจ

คนส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจว่าจะดูวิดีโอนั้นต่อหรือไม่ ภายใน 5 วินาที เพราะฉะนั้นช่วง 5 วินาทีแรกของการเปิดวิดีโอจึงสำคัญมาก เน้นการตัดต่อที่พูดถึงเนื้อหาสำคัญ แต่ไม่ต้องเฉลยทุกอย่าง เน้นการตัดต่อแบบกระชับ รวดเร็ว ปุ๊บปั้บ แต่สื่อสารได้ชัดเจน เพื่อให้คนดูรู้สึกว่า “อยากรู้ อยากดูต่อ” 

3. เพิ่มข้อความและเอฟเฟ็กต์

Reels Instagram คนดูไม่ขึ้นเลย อาจเป็นเพราะว่าคุณไม่ได้มีการเพิ่มลูกเล่นอย่างข้อความหรือเอฟเฟ็กต์ลงไป ก็เป็นได้ แนะนำให้เพิ่มข้อความลงไปใน Reels อาจจะเพิ่มเฉพาะประโยคสำคัญหรือจะใส่เป็นคำบรรยายทั้งวิดีโอก็ได้ ข้อดีของการใส่ข้อความคือจะช่วยให้ผู้ที่ไม่สะดวกฟังเสียงได้รู้เนื้อหาภายในวิดีโอ และยังมีส่วนช่วยให้อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มอ่านข้อความ เพื่อนำไปแสดงผลแก่ผู้ที่ทำการค้นหาได้อีกด้วย (รวมถึงการใส่แฮชแท็กเช่นกัน) ส่วนการเพิ่มเอฟเฟ็กต์ก็จะช่วยให้วิดีโอดูไม่น่าเบื่อจนเกินไป

4. เพิ่มภาพหน้าปกของวิดีโอ

หน้าปกของวิดีโอ Reels ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้คนและดึงดูดให้ผู้ชมคลิกดูมากกว่า Reels ที่ไม่มีภาพหน้าปก แนะนำให้สร้างภาพปกที่สื่อถึงเนื้อหาในวิดีโอ มีข้อความชวนให้คลิกชม มีการออกแบบในสไตล์เดียวกันทุกคลิป มีแสงสว่างเพียงพอ และมีความคมชัดสวยงาม เป็นต้น 

5. ไม่ Save วิดีโอจากแพลตฟอร์มอื่นมาลง

การ Save วิดีโอจากแพลตฟอร์มอื่นอย่าง TikTok มาลงเป็น Reels เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว แต่ไม่เป็นผลดีนักกับบัญชีของคุณ เพราะทั้งสองแพลตฟอร์มถือว่าเป็นคู่แข่งกัน แถมยังอาจจะมีลายน้ำหรือโลโก้ของ TikTok อยู่ในวิดีโอ เสียงเพลงในวิดีโออาจจะผิดลิขสิทธิ์บนแพลตฟอร์มของเมต้าได้ และคุณภาพของวิดีโอก็ไม่ได้ดีอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลให้อัลกอริทึมปิดกั้นการแสดงผล Reels ของคุณนั่นเอง ดังนั้น แนะนำให้ตัดต่อวิดีโอและเลือกใช้เพลงสำหรับแพลตฟอร์มใครแพลตฟอร์มมันจะดีเสียกว่า

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างกับบทความ “Reels คืออะไร? 5 วิธีเพิ่มยอดวิว ทํายังไงให้คนดู Reels เยอะ” ที่เราเอาข้อมูลเกี่ยวกับ Reels มาอธิบายให้คุณได้รู้จักกัน จะเห็นได้ว่า Reels มีประโยชน์ทั้งกับ Creator และธุรกิจเลย นอกจากจะเป็นการอัปเดตคอนเทนต์ดี ๆ ให้ผู้ติดตามชมแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำให้บัญชีของเราเข้าถึงผู้คนจำนวนมากได้อีกด้วย ใครที่เปิดบัญชี Facebook และ Instagram เอาไว้ แต่ไม่เคยลองใช้ฟีเจอร์ Reels เลย อย่าลืมลองไปทำตามวิธีที่เราบอกไปในบทความนี้ล่ะ ทำเป็นแล้วมีติดใจแน่นอน