Canva คืออะไร? แนะนำฟีเจอร์เด็ดพร้อมวิธีการใช้ และราคาแบบละเอียด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารูปภาพนั้นดึงดูดสายตามากกว่าตัวอักษร ยิ่งในยุคที่ใครก็หันมาใช้งานโซเชียลมีเดีย ทำให้ทุกคนต้องมีการปรับตัวในการสร้างงานโฆษณามากขึ้น โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจบนโลกออนไลน์ที่จะต้องสร้างงานโฆษณาให้ดึงดูดใจผู้บริโภคอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งคงหนี้ไม่พ้นการสร้างงานด้าน ”กราฟิก” แน่นอน แต่กราฟิกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคนที่จะสร้างงานได้อย่างมืออาชีพ วันนี้แองก้าจะมาแนะนำแพลตฟอร์มดีๆ ที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างงานกราฟิกของคุณอย่าง “Canva” สำหรับมือใหม่โดยเฉพาะ พร้อมวิธีการใช้งานและราคาของ Canva ที่เหมาะสมกับคุณ!
Canva คืออะไร?
Canva คือ แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการออกแบบงานกราฟิกและวิดีโออย่างมืออาชีพ ซึ่งสามารถออกแบบได้ทั้งภาพที่ใช้สำหรับงานที่ลงในโซเชียลมีเดียต่างๆ งานพรีเซ็นเทชั่น ไปจนถึงงานโฆษณาทุกรูปแบบที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจบนโลกออนไลน์และการทำงานในโลกปัจจุบันได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโปสเตอร์ การทำโลโก้ และการทำอินโฟกราฟิกต่างๆ ก็สามารถทำได้ทั้งหมดบน Canva ผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งสามารถใช้งานได้ง่ายและมีเครื่องมือมากมายให้เลือกใช้ในการสร้างงานกราฟิกของคุณให้ได้ดั่งมืออาชีพมาทำให้เอง
ข้อดีของ Canva คือ
เนื่องจาก Canva คือ แพลตฟอร์มที่ใช้งานบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ทำให้ Canva นั้นถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้ใช้งานได้ง่าย ใครก็สามารถใช้งานได้ โดยมีฟีเจอร์พิเศษเฉพาะของ Canva ที่แตกต่างจาก “Drag and Drop” ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเลือกภาพหรือ Template สำเร็จรูปที่มีมากถึง 60,000 แบบให้ใช้งานได้ฟรี โดยการลากและวางได้ลงบนพื้นผ้าใบ พร้อมทั้ง Canva ยังช่วยในการกำหนดกรอบการวางภาพของคุณให้ง่ายขึ้น เพื่อให้ชิ้นงานโดดเด่นและสามารถนำไปใช้งานได้จริงทันที ซึ่ง Canva นี้ยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ ที่สามารถช่วยในการสร้างงานของคุณอีก ได้แก่
- การออกแบบพื้นฐาน : Canva นั้นสามารถช่วยในการออกแบบสำหรับทุกแพลตฟอร์ม ในการกำหนดขนาดภาพที่เหมาะสมในแต่โซเชียลมีเดีย รวมถึงการปรับภาพและตำแหน่งให้ได้มาตรฐาน
- การใส่ตัวอักษร : Canva สามารถที่จะใส่ตัวอักษร และกำหนด Eeffect สำหรับข้อความในงานออกแบบของคุณได้ ซึ่งยังสามารถรองรับการใช้ฟอนต์ภาษาไทยได้อีกด้วย
- การใส่ภาพ : Canva ยังมีเครื่องมือที่รองรับการเพิ่มรูปภาพของคุณ รวมถึงการปรับแต่งรูปภาพ ปรับโทนสี และใส่ฟิลเตอร์ที่คุณต้องการได้อย่างครบถ้วน
- การใส่ Icon และ Template : จุดเด่นที่สำคัญของ Canva คือ การมีสัญลักษณ์หรือรูปภาพที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการออกแบบ ให้เลือกมากกว่า 60,000 ชิ้นจากนักออกแบบมืออาชีพ
- การใช้งานร่วมกัน : Canva สามารถช่วยในการทำงานให้สะดวกมากขึ้น เพื่อให้สมาชิกในทีมสามารถออกแบบร่วมกันได้แบบเรียลไทม์
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงฟีเจอร์พื้นฐานสำคัญของการใช้งาน Canva ที่จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์งานออกแบบได้ครอบคลุมการทำงานที่คนส่วนใหญ่ใช้ในปัจจุบันตั้งแต่ การออกแบบพรีเซ็นเทชั่นในการนำเสนอ การออกแบบงานโฆษณาลงบนโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือองค์ประกอบที่จำเป็นในโลกออนไลน์ทั้งโลโก้ โปสเตอร์ อินโฟกราฟิกจนไปถึงการตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานง่ายมากกว่าเว็บไซต์อื่นๆ
แนะนำวิธีการใช้งาน Canva แบบง่าย ๆ
Canva เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกและวิดีโอได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่มีหรือไม่มีทักษะด้านการออกแบบก็ตาม ซึ่ง Anga ได้สรุปวิธีการใช้งาน Canva แบบง่าย ๆ เริ่มตั้งแต่การสมัครสมาชิก การสร้างงานออกแบบ และวิธีการเซฟงานเพื่อนำไปใช้งาน มาให้แล้ว มีรายละเอียดดังนี้
1.วิธีสมัครสมาชิก Canva
ก่อนที่จะเริ่มใช้งาน Canva ผู้ใช้งานจะต้องสร้างบัญชีผู้ใช้งานก่อน สามารถเลือกสมัครได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ Google, Facebook และอีเมลอื่นๆ โดยมีให้เลือกทั้งแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย และแบบรายเดือน หรือที่เรียกกันว่า “Canva Pro”
แนวทางในการเลือกช่องทางสมัครนั้น หากเป็นการใช้งานส่วนตัว ผู้ใช้งานสามารถสมัครด้วยอีเมลส่วนตัว หรือ Facebook ของตนเองก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากเป็นการสมัครแบบ Canva Pro เพื่อใช้งานร่วมกับทีม แนะนำให้สร้างอีเมลเฉพาะจะดีกว่า เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน
2.สร้างงานออกแบบที่ต้องการ
หลังจากที่สมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นการทำงานโดยกดที่ “สร้างงานออกแบบ” บริเวณมุมขวาด้านบน ซึ่ง Canva มีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอ, Portfolio, Resume, เมนูอาหาร, ใบปลิว, โปสเตอร์, อินโฟกราฟิก, โพสต์สำหรับ Facebook หรือ Instagram ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถอัปโหลดไฟล์งานที่มีอยู่แล้วลง Canva แล้วปรับแต่งงานบน Canva ได้เลย ทั้งนี้ไฟล์งานจะต้องมีขนาดไม่เกิน 50 MB. และอาจมีการคลาดเคลื่อนของตัวอักษรและรูปภาพได้
3.เลือก Template ที่เหมาะสมกับงาน
ในกรณีที่ไม่มีไอเดีย ไม่รู้จะออกแบบงานอย่างไร หรือไม่ต้องการสร้างงานออกแบบใหม่ทั้งหมด Canva ก็มี Template สำเร็จรูปให้เลือกใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ง่ายขึ้น
วิธีการเลือกใช้ Template นั้น ผู้ใช้งานสามารถค้นหา Template ที่เหมาะกับงานของตนเองได้โดยการกดเข้าไปที่หัวข้อแม่แบบนั้น ๆ หรือเสิร์ชรูปแบบ Template ที่ต้องการได้ที่ช่องค้นหา ได้เลย เช่น พอร์ตโฟลิโอโมเดลลิ่งออนไลน์ เรซูเม่มืออาชีพ หรือเมนูอาหารกลางวัน เป็นต้น
4.ปรับแต่ง Template ด้วยฟีเจอร์บน Canva
หลังจากเลือก Template ที่ต้องการได้แล้ว ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งบนงานออกแบบได้โดยการกดแก้ไขที่ข้อความ สีพื้นหลัง หรือรูปภาพบนงานโดยตรง หรือเพิ่มอินโฟกราฟิก เปลี่ยนฟอนต์ ใส่เอฟเฟกต์ ใส่เสียงดนตรี ด้วยฟีเจอร์ของ Canva ที่อยู่แถบข้างซ้ายได้
แต่ละฟีเจอร์ใน Canva จะมีให้เลือกใช้งานทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานออกแบบ ทำให้งานแตกต่างไปจาก Template เดิม และมีสไตล์ที่เป็นแบบเฉพาะของตนเองได้
5.วิธีเซฟงานบน Canva และเลือกชนิดไฟล์ไปใช้งานให้เหมาะสม
เมื่อทำงานออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานสามารถเซฟงานได้โดยการกดที่จุดสามจุดบริเวณมุมขวาด้านบน และกดดาวน์โหลด ซึ่ง Canva สามารถเลือกประเภทไฟล์ได้หลายชนิด เช่น PNG, JPG, PDF หรือ GIF เป็นต้น แต่ละชนิดจะเหมาะกับการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้ใช้งานควรเลือกชนิดของไฟล์ให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการนำไปพิมพ์เอกสาร ควรเลือกไฟล์ PDF สำหรับพิมพ์ แต่ถ้าต้องการนำไปอัปโหลดบนโซเชียลมีเดียต่างๆ ควรเลือกใช้ไฟล์ PNG เพราะจะได้รูปภาพที่คมชัด มีคุณภาพสูง สามารถบีบอัดไฟล์ได้โดยไม่เสียคุณภาพเดิม
ผู้ที่เหมาะกับการใช้งาน Canva คือ?
ด้วยฟีเจอร์เด่นๆ ของ Canva ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นสามารถช่วยในการสร้างสรรค์งานออกแบบได้อย่างมืออาชีพ ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ให้ใช้งานได้ฟรีในหลายฟีเจอร์ซึ่งเพียงพอต่อการทำงานโฆษณา และรองรับภาษาไทยอย่างดี Canva จึงเป็นอีกหนึ่งในแพลตฟอร์มที่น่าสนใจให้กับใครหลายคนอย่างมาก เช่น
- คนที่ไม่มีพื้นฐานด้านการออกแบบ Canva จะเป็นตัวช่วยให้ใครก็ได้สามารถกลายเป็นนักออกแบบกราฟิคมืออาชีพด้วยตัวเอง
- เจ้าของธุรกิจออนไลน์ เนื่องด้วยการทำธุรกิจออนไลน์นั้นจำเป็นอย่างมากในการสร้างสรรค์งานกราฟิก Canva จึงช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างมืออาชีพได้
- นักเรียน นักศึกษา จากที่การเรียนการสอนในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไป รูปแบบการทำงานส่วนใหญ่นั้นจึงต้องอาศัย Canva ในการประยุกต์ใช้ในการทำงาน
- ธุรกิจทุกประเภทที่มองหาแพลตฟอร์มที่จะช่วยในการทำงานร่วมกันได้ เพื่อประหยัดเวลาในการสร้างงานออกแบบให้รวดเร็วมากขึ้น
ราคา Canva นั้นเป็นอย่างไร?
ทุกคนสามารถเริ่มต้นในการใช้งาน Canva ฟรี ซึ่งส่วนใหญ่ก็เพียงพอแล้วต่อการทำงานทั่วไป แต่จะมีบางฟีเจอร์และจำนวนภาพในการใช้งานบางอย่างที่เพิ่มขึ้นหากคุณสมัครสมาชิก เช่น Icon พิเศษอีก 75 ล้านรูป หรือ Template ฟรีอีก 420,000 ชิ้น ซึ่งหากธุรกิจของคุณมีการใช้งาน Canva เป็นหลักและมีการใช้งานเป็นประจำ ก็คุ้มค่าที่ใช้งาน Canva ในระดับที่มากขึ้นด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำราคาของ Canva Pro กันว่าในแต่แบบนั้นจะมีราคาแตกต่างกันอย่างไรและแบบไหนจะเหมาะกับคุณที่สุด
ราคาของ Canva Pro นี้จะขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในการใช้งาน โดยเริ่มต้นทดลอง Canva Pro จะมีการเปิดให้ใช้งานฟรี ถึง 30 วันเพื่อเป็นช่วงการทดลองใช้ ซึ่งหากคุณต้องการใช้เกิน 30 วัน คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้เรียกเก็บเงินในรูปแบบรายปี หรือแบบรายเดือน โดยที่ราคาของ Canva Pro นั้นจะเรียกเก็บจากจำนวนสมาชิกที่ต้องการใช้งาน ซึ่งสามารถเลือกได้ถึง 5 ระดับตั้งแต่ 1 คน , 5 คน , 10 คน , 15 คน ไปจนถึงการกำหนดจำนวนสมาชิกในการใช้งานได้เอง และมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 12.99 USD สำหรับราคา Canva ของสมาชิกคนแรก และเพิ่มอีกเดือนละ 6.99 USD ต่อสมาชิกที่เพิ่มขึ้นมานั่นเอง
สุดท้ายนี้ทุกคนคงเห็นถึงการทำงานและประโยชน์ของ Canva กันแล้วว่าจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในการสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองอย่างไรกันบ้าง แต่อย่าลืมว่า Canva นั้นเป็นเครื่องมือที่ใครหลายคนเลือกใช้และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย อาจเกิดการใช้ภาพหรือ Template บางอย่างซ้ำกันได้ ทำให้ทุกคนต้องหมั่นพัฒนารูปแบบการออกแบบงานให้แปลกใหม่อยู่เสมอ และใช้ Canva เพื่อเป็นตัวช่วยให้การสร้างสรรค์งานออกแบบที่คุณต้องการให้ออกมาได้จริงอย่างมืออาชีพ