6 กลยุทธ์การตลาดร้านอาหารที่เห็นผลจริงในปี 2024
ทุกซอกทุกมุมในประเทศไทยล้วนมีร้านอาหารทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารขนาดเล็กหรือร้านอาหารขนาดใหญ่ก็ตาม ด้วยเหตุนี้ธุรกิจร้านอาหารจึงมีการแข่งขันกันที่ค่อนข้างดุเดือด ยิ่งถ้าคุณเป็นร้านอาหารขนาดเล็กหรือร้านอาหารที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ต้นทุนไม่ได้สูงมาก ชื่อเสียงก็ไม่ได้โด่งดัง โอกาสที่จะชนะคู่แข่งเจ้าใหญ่ ๆ นั้น เรียกได้ว่าแทบไม่มีเลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีการเป็นไปได้ เพราะคุณสามารถสร้างธุรกิจของคุณให้ค่อย ๆ เติบโตผ่านการทำการตลาดร้านอาหารได้
เราเข้าใจดีว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่แบรนด์ดัง ไม่ได้มีทีมการตลาดโดยตรง มีเพียงเจ้าของร้านและพนักงานในร้านที่คอยดูแลทุกอย่างกันเอง ซึ่งบางคนก็อาจจะกังวลว่าต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการทำการตลาดร้านอาหารให้คนรู้จัก แองก้าขอตอบตรงนี้เลยว่าไม่ใช่เสมอไป เพราะกลยุทธ์การตลาดร้านอาหารมีอยู่เยอะมาก คุณสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะกับธุรกิจและงบประมาณของคุณได้ ซึ่งเราก็ได้สรุปกลยุทธ์การตลาดร้านอาหารฉบับพื้นฐานออกมาให้คุณแล้ว 6 ข้อด้วยกัน หากพร้อมแล้วเราไปดูกันได้เลยว่ามีกลยุทธ์อะไรบ้าง!?
1. สร้างบัญชี Google My Business
หากคุณเคยค้นหาร้านอาหารที่สนใจบน Google คงจะเคยเห็นว่า Google จะแสดงข้อมูล ช่องทางติดต่อ พร้อมแผนที่ของธุรกิจร้านอาหารนั้นมาให้คุณเลือกกดดูอย่างง่าย ๆ นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า Google My Business (GMB) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดร้านอาหารที่มีประโยชน์กับธุรกิจท้องถิ่นอย่างร้านอาหารมาก ๆ นอกจากจะทำให้ลูกค้าค้นหาร้านอาหารของคุณเจอง่ายแล้ว ยังเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจของคุณไปแสดงผลบน Google Maps และติดอันดับ SEO บน Google Search ด้วย
วิธีสร้างบัญชี Google My Business
- เข้าสู่ระบบ https://www.google.com/business/ ด้วยบัญชีของ Google หรือ Gmail
- คลิกที่ “จัดการเลย” และกรอกข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณให้ครบถ้วน (ชื่อธุรกิจ, ที่อยู่, ปักหมุดแผนที่, พื้นที่ให้บริการ, หมวดหมู่ของธุรกิจ, ช่องทางการติดต่อ) และกด “เสร็จสิ้น”
- จากนั้นคุณจะต้องยืนยันธุรกิจ โดยสามารถวิธีการได้จากการยืนยันด้วยเบอร์โทรศัพท์ หรือการส่งรหัสผ่านทางไปรษณีย์
- เมื่อยืนยันเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถจัดการปรับแต่งธุรกิจของคุณให้น่าสนใจได้เลย อาจจะเพิ่มเมนูอาหาร, รูปภาพเมนูอาหาร, รูปภาพบรรยากาศภายในร้าน, วันเวลาในการเปิดให้บริการ และคำอธิบายธุรกิจเป็นต้น เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมรับความคิดเห็นและรีวิวต่าง ๆ จากผู้ใช้บริการจริงได้เลย (ยิ่งมีรีวิวเยอะ ยิ่งดูน่าเชื่อถือ)
2. ไม่พลาดบริการ Food Delivery
Food Delivery คือบริการจัดส่งอาหารตรงถึงบ้าน ซึ่งเป็นบริการที่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาสามารถสั่งซื้ออาหารอร่อย ๆ จากร้านโปรดได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถืออย่าง LINE MAN หรือ Grab โดยที่ไม่ต้องเดินทางออกไปที่ร้านอาหารเองให้เสียเวลาเลย และเป็นผลดีต่อร้านอาหารในอีกหลาย ๆ ด้าน เช่น เพิ่มโอกาสในการขายให้แก่คนที่ไม่ใช่ลูกค้าประจำ หรือทำให้คนรู้จักร้านอาหารมากขึ้น เนื่องจากร้านอาหารบางร้านตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ดีนั่นเอง
3. หันมาทำ Influencer Marketing
Influencer Marketing คือการจ้างอินฟลูเอนเซอร์หรือผู้ที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ให้มารีวิวร้านอาหารของคุณ พร้อมกับแนะนำเมนูเด็ดเมนูดังบนช่องของพวกเขา เพื่อทำให้ร้านอาหารของคุณเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่ง Influencer ก็มีอยู่บนทุกแพลตฟอร์ม แต่ถ้าจะให้แนะนำแพลตฟอร์มเด็ด ๆ ที่เหมาะกับการทำการตลาดร้านอาหารล่ะก็ ขอแนะนำเป็นช่องทาง TikTok, YouTube และ Facebook เป็นหลัก เนื่องจากสองช่องทางนี้มีผู้ใช้งานจำนวนมาก คอนเทนต์ถูกส่งต่อและเป็นกระแสได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
4. ใช้ Social Media ให้เป็นประโยชน์
ในตอนนี้ใคร ๆ ก็ใช้งาน Social Media กันทั้งนั้น น้อยคนมากที่จะไม่ใช้เลย ซึ่งพฤติกรรมยอดฮิตของผู้บริโภคในยุคนี้ก่อนที่จะตัดสินใจไปร้านอาหารหรือซื้อสินค้า คือการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนั้น ๆ ก่อน อาจจะดูว่าร้านอาหารเปิด-ปิดกี่โมง ให้บริการวันไหนบ้าง, บรรยากาศของร้านเป็นอย่างไร, รีวิวจากผู้ใช้บริการจริงมีความคิดเห็นอย่างไร, ดูน่าเชื่อถือไหม, ตั้งอยู่ที่ไหน เดินทางง่ายหรือเปล่า ฯลฯ
ดังนั้น คุณต้องใช้ Social Media ให้เป็นประโยชน์ โดยการลงไปทำการตลาดบน Social Media ซะเลย วิธีทำการตลาดร้านอาหารขั้นพื้นฐานไม่มีอะไรบ้าง เริ่มต้นจากการเปิดบัญชีบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก่อน เช่น Facebook Page, Instagram หรือ TikTok จากนั้นก็ใส่ข้อมูลให้ครบว่าธุรกิจของคุณให้บริการอะไรบ้าง วันเวลาในการเปิดทำการ แผนที่ และที่สำคัญเลยคือช่องทางติดต่ออย่างเบอร์โทรศัพท์
การโพสต์คอนเทนต์เกี่ยวกับเมนูอาหาร เครื่องดื่ม การบริการ หรือสตอรี่ของร้านก็สำคัญเช่นกัน เพื่อให้ผู้บริโภครู้ว่าร้านของคุณยังเปิดให้บริการตามปกติอยู่ และยังช่วยในการพิจารณาเลือกร้านอาหารให้กับพวกเขาได้มากอีกด้วย ทั้งนี้ คอนเทนต์ที่คุณโพสต์ไปไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน เนื่องจากคุณสามารถต่อยอดนำคอนเทนต์ไปยิงแอดได้
5. รับฟังเสียงจากผู้บริโภคบนโลกออนไลน์
การรับฟังเสียงจากผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดีย (Social Listening) ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรทำ เพราะจะทำให้คุณทราบว่าผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจของคุณมีความคิดเห็นยังไงกับร้านของคุณ อาหารอร่อยไหม เครื่องดื่มรสชาติเป็นอย่างไร อะไรที่ทำได้ดีแล้วลูกค้าชื่นชอบ อะไรที่ลูกค้าไม่พึงพอใจและเห็นว่าคุณควรปรับปรุง ฯลฯ เพราะการทำให้ลูกค้าพึงพอใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากการที่ลูกค้าพึงพอใจ จะช่วยสร้างโอกาสในการรีวิวบอกต่อได้ ถือว่าเป็นการตลาดร้านอาหารรูปแบบหนึ่งก็ว่าได้
6. จัดโปรโมชันพิเศษเป็นครั้งคราว
โปรโมชันเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดร้านอาหารที่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดีมาก เพราะใคร ๆ ก็ชอบความคุ้มค่าและราคาที่ถูกกว่าปกติเป็นธรรมดา ข้อดีของการจัดโปรโมชันราคาพิเศษคือช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่าให้อุดหนุนคุณต่อไป, ช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้เปิดใจลอง, เพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจ, ช่วยเคลียร์สต๊อกวัตถุดิบที่ใกล้หมดอายุ และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่การจัดโปรโมชันก็ต้องแบ่งช่วงและเว้นความถี่ให้ดี เพราะถ้าคุณจัดโปรโมชันบ่อยเกินไป ลูกค้าจะเข้าใจว่าราคาพิเศษคือราคาปกติ และจะรอซื้ออาหารเมื่อมีโปรโมชันเท่านั้น ซึ่งตรงนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของร้านได้ แนะนำให้จัดโปรโมชันในช่วงเทศกาลพิเศษ เช่น เทศกาลปีใหม่, สงกรานต์ หรือวันเลขคู่ เป็นต้น
สรุปบทความเรื่องการตลาดร้านอาหาร
เมื่อคุณได้รู้แล้วว่ากลยุทธ์การตลาดร้านอาหารในปี 2024 ต้องทำอย่างไร ก็สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้เลย โดยสรุปแล้วกลยุทธ์ในการทำการตลาดร้านอาหารจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างตัวตน เพื่อให้ธุรกิจมีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์ เปิดโอกาสให้กับตัวเองด้วยการหาช่องทางต่าง ๆ เพิ่มเติมอย่าง Food Delivery, จ้างคนมารีวิว และจัดโปรโมชั่น สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคงไม่พ้นเรื่องของการบริการที่ดีและได้มาตรฐาน รวมถึงการฟังเสียงของผู้บริโภคด้วย เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาให้ร้านอาหารของคุณตอบโจทย์และดีที่สุดสำหรับผู้รับบริการ