
เฟซโดนปิดกั้น เกิดจากอะไร? และแก้ไขยังไงได้บ้าง? อัปเดต 2025
“เฟซโดนปิดกั้น” เป็นปัญหาที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเจอ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือผู้ใช้งานทั่วไปก็เช่นกัน เพราะมันคือการโดนปิดการมองเห็น จากเดิมที่มีคนมองเห็นโพสต์ของคุณ 1,000 คน อาจจะเหลือแค่เพียงหลักสิบหรือไม่กี่ร้อยเท่านั้น เมื่อโพสต์มีการมองเห็นน้อยลง จำนวนการมีส่วนร่วมก็น้อยลงด้วย ซึ่งส่งผลต่อยอดขายและรายได้อย่างแน่นอน ใครกำลังตามหาวิธีแก้อยู่ บทความนี้มีคำตอบ ANGA จะมาอธิบายให้คุณเข้าใจว่าอาการเฟซโดนปิดกั้นคืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร มีวิธีเช็กอย่างไร และต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง
เฟซโดนปิดกั้นคืออะไร
เฟซโดนปิดกั้นคือสถานการณ์ที่โพสต์หรือเพจของคุณ มียอด Engagement (การมีส่วนร่วม) อย่างไลก์ คอมเมนต์ แชร์ และยอดการเข้าชม (View) น้อยลงผิดปกติ ทั้ง ๆ ที่จำนวนผู้ติดตามและความถี่ในการโพสต์ของคุณยังเท่าเดิม ซึ่งปัญหาเฟซโดนปิดกั้นนี้ มักเกิดจากการที่คุณโพสต์เนื้อหาที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานชุมชนของ Facebook ทำให้จำกัดการเผยแพร่เนื้อหานั้น และปิดกั้นการมองเห็นบนเพจของคุณได้
นอกจากนี้ บางครั้งการปิดกั้นการมองเห็นอาจเกิดจากการทำงานของอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กเอง ที่พยายามคัดกรองเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละคน เมื่ออัลกอริทึมประเมินว่าคอนเทนต์ของคุณไม่ตอบโจทย์ความสนใจของผู้ใช้งานกลุ่มเดิมอีกต่อไป จึงลดการแสดงผลในฟีดของพวกเขา ส่งผลให้การเข้าถึงและการมีส่วนร่วมลดลงอย่างเห็นได้ชัด
มัดรวมสาเหตุที่ทำให้เฟซโดนปิดกั้น
โซเชียลมีเดีย (Social Media) ทุกแพลตฟอร์ม ย่อมมีกฎ เงื่อนไข หรือนโยบายการใช้งาน ที่ผู้ใช้ (User) ต้องปฏิบัติตาม ซึ่ง Facebook เองก็มีมาตรฐานชุมชนเช่นกัน เพื่อใช้ในการควบคุมเนื้อหาในแพลตฟอร์ม ให้มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และน่าใช้งานสำหรับทุก ๆ คน รวมทั้งยังสามารถปกป้องผู้ใช้งานจากเนื้อหาที่เป็นอันตราย รุนแรง หรือไม่น่ารับรู้ด้วยเช่นกัน หลัก ๆ แล้วจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย, ความถูกต้องของข้อมูล, ความเป็นส่วนตัว และการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ดังนั้น ปัญหาเฟซโดนปิดกั้นจึงมีสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้อย่างแน่นอน เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นและเตือนใจว่าคุณเคยกระทำอะไรที่ผิดมาตรฐานชุมชนหรือไม่ ลองมาดูสาเหตุและตัวอย่างเพิ่มเติมด้านล่างนี้กัน
- การโพสต์เนื้อหาที่ผิดกฎระเบียบ เช่น ภาพอนาจาร ความรุนแรง การค้าสินค้าผิดกฎหมาย ข่าวเท็จ หรือเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ทำให้ระบบจำกัดการเผยแพร่ทันที
- เนื้อหาที่มีลักษณะเป็นโฆษณามากเกินไป โดยเฉพาะการโพสต์ขายสินค้าซ้ำ ๆ ที่มีรูปแบบคล้ายกันบ่อยครั้ง ทำให้ระบบมองว่าเป็นสแปม
- การแชร์เนื้อหาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือเนื้อหาสแปม ในปริมาณที่บ่อยเกินไปจะทำให้อัลกอริทึมลดความน่าเชื่อถือของบัญชีคุณ
- การละเมิดลิขสิทธิ์เนื้อหา โดยการนำภาพ วิดีโอ หรือข้อความของผู้อื่นมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
- การโจมตีหรือคุกคามผู้อื่น ทั้งการโพสต์เนื้อหาหรือการส่งข้อความที่มีลักษณะคุกคาม ข่มขู่ หรือสร้างความเกลียดชัง
- การปลอมตัวเป็นบุคคลอื่น หรือการสร้างบัญชีปลอมเพื่อวัตถุประสงค์ในการหลอกลวง จะทำให้บัญชีถูกจำกัดการเข้าถึงและอาจถูกระงับในที่สุด
- การส่งข้อความหรือคอมเมนต์แบบสแปม โดยเฉพาะการส่งข้อความในลักษณะเดียวกันให้คนจำนวนมากในเวลาใกล้เคียงกัน
- เนื้อหาที่ไม่ได้สร้างการมีส่วนร่วม หากโพสต์ของคุณไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้ใช้ อัลกอริทึมจะลดการแสดงผลเนื้อหาของคุณโดยอัตโนมัติ
- การใช้เทคนิคหลอกระบบ เช่น การขอปักหมุดหรือคอมเมนต์โดยไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เพื่อดันโพสต์ให้มีคนเห็นมากขึ้น
- การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวแบบจำกัด เช่น การตั้งค่าให้โพสต์มองเห็นเฉพาะเพื่อนหรือกลุ่มเฉพาะ ทำให้การเข้าถึงลดลงโดยธรรมชาติ
10 วิธีเช็ก Facebook ว่าโดนปิดการมองเห็นหรือไม่
ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าเฟซโดนปิดกั้น แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือคิดไปเอง ลองมาตรวจสอบด้วยตัวเองผ่าน 10 วิธีต่อไปนี้ได้เลย
1. ดูยอดการเข้าถึงที่ลดลงผิดปกติ
ลองเทียบยอดคนเข้าถึงโพสต์ปัจจุบันกับโพสต์เก่า ๆ ของคุณ หากพบว่าตัวเลขตกลงมากอย่างผิดปกติทั้งที่จำนวนคนติดตามยังเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น นี่อาจเป็นสัญญาณแรกที่บอกว่าเนื้อหาของคุณกำลังโดนจำกัดการมองเห็น
2. ตรวจสอบอัตราการมีส่วนร่วม
สังเกตจำนวนไลก์ คอมเมนต์ และแชร์ว่าลดลงหรือไม่ ถ้าคุณเคยได้ไลก์เฉลี่ย 100 ไลก์ต่อโพสต์ แต่ตอนนี้เหลือแค่ 10-20 ไลก์ทั้งที่เนื้อหายังมีคุณภาพเหมือนเดิม แสดงว่าอาจมีการจำกัดการแสดงผลจากระบบ
3. ลองทดสอบกับเพื่อน
ขอให้เพื่อนหรือคนรู้จักที่ไม่ค่อยได้เข้ามาดูเพจของคุณช่วยเช็กว่าพวกเขาเห็นโพสต์ล่าสุดของคุณในฟีดของพวกเขาหรือเปล่า วิธีนี้จะช่วยยืนยันได้ว่าเนื้อหาของคุณยังปรากฏในฟีดของผู้อื่นตามปกติหรือไม่
4. เช็กข้อความแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊ก
ตรวจสอบอินบ็อกซ์หรือการแจ้งเตือนว่ามีข้อความเกี่ยวกับการละเมิดนโยบายหรือไม่ บางครั้งเฟซบุ๊กจะส่งข้อความแจ้งเมื่อเนื้อหาของคุณไม่เป็นไปตามมาตรฐานชุมชน ซึ่งอาจทำให้เกิดการจำกัดการเข้าถึง
5. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ของเฟซบุ๊ก
เข้าไปดูข้อมูลใน Meta Business Suite หรือ Facebook Insights คุณจะเห็นกราฟและตัวเลขที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น
6. ตรวจดูการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
อย่าลืมเช็กว่าโพสต์ของคุณถูกตั้งเป็นสาธารณะหรือไม่ บางทีปัญหาอาจเกิดจากการตั้งค่าที่จำกัดคนดูโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้คิดผิดไปว่าเนื้อหาถูกปิดกั้น
7. ลองโพสต์เนื้อหาหลากหลายรูปแบบ
ทดลองโพสต์เนื้อหาแบบต่าง ๆ เช่น รูปภาพ วิดีโอ ข้อความ หรือลิงก์ แล้วดูว่ารูปแบบไหนได้ผลตอบรับดีกว่ากัน บางทีระบบอาจจำกัดเฉพาะเนื้อหาบางประเภท เช่น โพสต์ที่มีลักษณะขายของมากเกินไป
8. ตรวจประวัติการได้รับคำเตือน
ถ้าเคยได้รับคำเตือนเรื่องการละเมิดนโยบายมาก่อน บัญชีของคุณอาจยังอยู่ในช่วงถูกจับตามอง ซึ่งระบบจะจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาใหม่ไปอีกสักระยะ แม้ว่าเนื้อหาปัจจุบันจะไม่มีปัญหาก็ตาม
9. ถามผู้ติดตามของคุณตรง ๆ
วิธีง่าย ๆ คือลองสร้างโพสต์ถามคนที่ติดตามคุณว่ายังเห็นเนื้อหาของคุณในฟีดเหมือนเดิมหรือไม่ คำตอบจากผู้ติดตามจำนวนมากจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมได้ชัดขึ้น
10. ติดต่อทีมงานเฟซบุ๊กโดยตรง
ถ้าลองทุกวิธีแล้วยังไม่แน่ใจ คุณสามารถติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Meta โดยตรง เพื่อสอบถามสถานะของบัญชีและสาเหตุที่อาจทำให้การเข้าถึงของคุณลดลง
How to แก้ไขเฟซบุ๊กโดนปิดกั้นในปี 2025
- ยิงโฆษณา Facebook Ads ทำให้โพสต์ของคุณปรากฏบนฟีดของกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ
- สร้างเนื้อที่มีคุณภาพ เน้นเนื้อหาที่ให้ความรู้และเป็นประโยชน์กับผู้อ่านมากกว่าเนื้อหาโปรโมชัน
- โพสต์วิดีโอและเริ่ม Live เพราะอัลกอริทึมมักจะแสดงเนื้อหาวิดีโอและ Live มากกว่า
- โพสต์ช่วงที่ผู้ติดตามใช้งานมากที่สุด โดยดูข้อมูลได้จากแดชบอร์ดของเพจ
- สร้างโพสต์ที่กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม เช่น ตั้งคำถาม หรือจัดกิจกรรม
- หลีกเลี่ยงการแชร์เนื้อหาที่ดูเป็นสแปมหรือมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
- ลบหรือแก้ไขโพสต์เก่าที่อาจละเมิดนโยบายของเฟซบุ๊กเพื่อปรับปรุงสถานะของเพจ
- ใช้ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Stories หรือฟีเจอร์ล่าสุดที่เฟซบุ๊กเพิ่งเปิดตัวในปี 2025
- แนะนำให้แฟนเพจกดติดตามแบบ “See First” เพื่อให้โพสต์ของคุณแสดงก่อนเนื้อหาอื่น
บทสรุป
อัลกอริทึมของเฟซบุ๊กมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาระบบและนำส่งเนื้อหาที่ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานแต่ละคนมากขึ้น รวมถึงเฟซบุ๊กยังมีฟีเจอร์การตั้งค่าที่ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าได้ว่าต้องการรับข่าวสารจากเพจต่าง ๆ และเพื่อน ๆ ต่อไปหรือไม่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บางคนรู้สึกเหมือนเฟซโดนปิดกั้น ทั้ง ๆ ที่จริงอาจมีสาเหตุมาจากการตั้งค่าของผู้ใช้คนอื่น ในตอนนี้หลาย ๆ เพจก็ประสบปัญหาเรื่องโดนเฟซบุ๊กปิดการมองเห็น ทำให้ยอด Reach ลดลง รายได้ที่ควรจะเพิ่มก็น้อยลง ใครที่อยากรู้ว่าเฟซโดนปิดกั้นหรือไหม สามารถตรวจสอบจากวิธีที่เราแนะนำไปในบทความนี้ได้เลย รวมถึงวิธีแก้ไขด้วยเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)
