1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. 4 วิธีการโปรโมทเว็บไซต์ยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็เลือกใช้
เผยแพร่เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2021 | แก้ไขเมื่อ: เมษายน 28, 2023

4 วิธีการโปรโมทเว็บไซต์ยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็เลือกใช้

Table Of Contents

ปัจจุบันนี้ไม่ว่าธุรกิจรูปแบบไหนก็ต้องหันมาใส่ใจในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์กันแทบจะทุกวงการ เพราะพัฒนาการเทคโนโลยีดิจทัลเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมาก จนทำให้พฤตกรรมชองผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะใช้ช่องทางออนไลน์เป็นพื้นที่ในการค้นหาสินค้าและบริการที่ต้องการ ทำให้เหล่าผู้ประกอบการต้องเลือกที่จะสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อบ่งบอกตัวตนของธุรกิจ สินค้าและบริการของพวกเขา ถ้าให้เปรียบเทียบก็จะคล้าย ๆ กับการตั้งหน้าร้านขายของขึ้นมาเพียงแค่ทำเลที่ตั้งอยู่ในโลกออนไลน์นั่นเอง

แต่ในการทำเว็บไซต์ขึ้นมานั้นการโปรโมทถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การนำเสนอสินค้าเลยทีเดียว เพราะถ้าหากคุณทำเว็บไซต์ที่ครบถ้วนทั้งข้อมูลสินค้า และวิธีการสั่งซื้อที่ง่าย แต่ถ้าขาดวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ที่ดี อาจทำให้การพาคนเข้ามาสู่เว็บไซต์ของคุณเป็นเรื่องลำบาก วันนี้แองก้าจะมาแนะนำกับ 4 วิธีการโปรโมทเว็บไซต์ที่กำลังมาแรงและได้ผลลัพธ์อย่างที่คุณต้องพึงพอใจ

4 วิธีโปรโมทเว็บไซต์

4 วิธีโปรโมทเว็บไซต์ยอดนิยมสำหรับธุรกิจออนไลน์ มีดังนี้

1. ใช้ช่องทาง Social Media ให้เป็นประโยชน์

การใช้สื่อโซเชียลมีเดียถือเป็นช่องทางหนึ่งที่มีความนิยมมานานหลายปี แต่ก็ยังคงได้ผลลัพธ์ที่ดีในการสื่อสารอยู่เสมอ โดยแพลตฟอร์มหลัก ๆ ที่นิยมทำตลาดในไทยเช่น Facebook, Instagram และ Youtube ทั้ง 3 ช่องทางนี้มีรูปแบบและวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันตามลักษณะการใช้งานของแพลตฟอร์มดังนี้

  • Facebook
    เป็นแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันการสื่อสารหลากรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการเขียนข้อความ การโพสต์รูปภาพและวิดีโอ สำหรับวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ทาง Facebook ที่นิยมมักจะมาในรูปแบบดังนี้
    • Facebook Content ที่มีการใช้รูปภาพประกอบข้อความหรือ Copy ad นั่นเอง โดยเนื้อหาของ Content ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการสื่อสารเช่น Content เพื่อส่งเสริมการขาย, เพื่อประชาสัมพันธ์ หรือเพื่อให้ความรู้
    • Facebook Ads โดยใช้ภาพและข้อความแบบ Content เหมือนกัน แต่จะแตกต่าง ๆ ต่างที่มีการใช้งบประมาณเพื่อการ Run Ad ตามเวลาที่กำหนด
  • Instagram
    ลักษณะของช่องทางนี้จะเน้นการสื่อสารด้วยรูปเป็นหลัก มีการใช้วิดีโอได้แต่ต้องเป็นคลิปสั้น ๆ 15-30 วินาที สามารถทำการโปรโมทเว็บไซต์ได้หลายวิธี เช่น
    • การใส่ลิงก์เว็บไซต์ไว้ที่ Bio (ส่วนที่ไว้อธิบายตัวตนของคุณ)
    • การแนบลิงก์ไว้ในแคปชันของโพสต์, การใส่ลิงก์เว็บไซต์ไว้ใน IG Stories แบบปุ่ม Sipe Up (ทำได้ก็ต่อเมื่อมียอดผู้ติดตาม 10,000 คนขึ้นไป และได้รับการยืนยันตัวตนจาก IG)
    • การลงโพสต์ภาพแบบโฆษณา (Paid Advertising)
  • YouTube
    เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการสื่อสารด้วยวิดีโอเป็นหลัก โดยวิธีการการโปรโมทเว็บไซต์จะมาในรูปแบบของการซื้อพื้นที่โฆษณา เช่น
    • Display Ads เป็นโฆษณาแบบ Banner ขนาดเล็กปรากฎอยู่เหนือ Suggest Video
    • Overlay in-video ads เป็น Banner สีเหลี่ยมผืนผ้าปรากฎในวิดีโอ
    • TrueView in-streams ads เป็นวิดีโอคลิปโฆษณาความยาวตั้ง 5 วินาทีขึ้นไป ปรากฎได้ทั้งตอนต้น กลาง หรือตอนท้ายของวิดีโอ
    • TrueView in-display ads จะปรากฎเป็นวิดีโอเล็ก ๆ ใต้วิดีโอหลัก
    • TrueView in-search ads จะเป็นข้อความโฆษณาที่อยู่บน Top Rank ของหน้าค้นหาวิดีโอ

2. ลองโปรโมทด้วยการ Broadcast ใน Line OA

Line OA หรือ Line Official Account นั้นสามารถทำการโปรโมทเว็บไซต์ได้ง่าย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง เพราะคนที่จะได้รับข้อมูลจะต้องเป็นคนที่เพิ่มเพื่อนกับ Line OA ของคุณเท่านั้น โดยโปรโมทผ่านการ Broadcast ทำได้ทั้งแนบลิงก์ไปกับรูปภาพ และแนบลิงก์ไปกับ Plain Text หรือข้อความ หรือจะทำเป็น Rich Menu ขึ้นมาเพื่อลิงก์เข้าไปสู่เว็บไซต์ของคุรก็ทำได้เหมือนกัน

3. ลงทุนโปรโมทด้วย SEM

การทำ SEM ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยโปรโมทเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการซื้อพื้นที่บน Google เพื่อให้ติดอันดับการค้นหาในหน้าแรก เว็บไซต์จะแสดงขึ้นก็ต่อเมื่อถูกค้นหาด้วย Keyword ที่ตรงกับสินค้าและบริการที่คุณกำหนดไว้ สำหรับโครงสร้างในการทำ SEM นั้นก็จะต้องมีการเลือก Keyword เข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อนำมาใช้เป็น Ad Copy ลงบน Meta-Title และ Meta-description

ข้อดีของการทำ SEM คือสามารถเห็นเว็บไซต์ของคุณบนอันดับแรกของการค้นหาในหน้า Search Result ของ Google ทันที แต่ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกันคือ ต้องมีงบประมาณในการลงทุน และเมื่อคุณหยุดจ่ายเงินการโฆษณาจะถูกระงับทันที ทำให้การทำ SEM เหมาะกับแคมเปญสั้น ๆ หรือผู้ประกอบการที่เว็บไซต์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากพอในช่วงแรก ๆ 

4. โปรโมทฟรี ๆ ได้ผลระยะยาวด้วย SEO

การทำ SEO เป็นวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ที่นิยมเป็นอันดับต้น ๆ โดยหลัก ๆ ของการทำ SEO จะเป็นการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อดันตัวเองให้ติดอันดับการค้นหาของ Google นั่นเอง ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน เช่น การเลือกใช้ Keyword ที่มีประสิทธิภาพในการค้นหามากพอมาใช้ในการสร้างเนื้อหาลงเว็บไซต์, การสร้างเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือตามหลัก E-A-T, การจัดองค์ประกอบของเว็บไซต์ตามหลัก Site Structure และการสร้างบทความ Backlinks ที่มีคุณภาพ องค์ประกอบเหล่านี้เป็นหลักเกณฑ์สำคัญที่อัลกอริทึมของ Google จะพิจารณาและผลักดดันให้เว็บไซต์ติดอันดับแรก ๆ ในการค้นหา สำหรับวิธีการทำ SEO นั้นจะต้องใช้ระยะเวลาปรับแต่งและทำนาน ประมาณ 6 เดือนขึ้นไปถึงจะเห็นผล แต่เมื่อติดอันดับแล้วก็จะยืนระยะได้ยาวนาน

สรุป 4 วิธีการโปรโมทเว็บไซต์เหมาะกับใครบ้าง?

สำหรับการวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ที่แองก้าได้มาแนะนำทั้ง 4 วิธีนั้น นับว่าเป็นเทคนิคที่มีความนิยมทั้งสิ้น ซึ่งในแต่ละวิธีการนั้นก็จะมีความเหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกันไป โดยแองก้าจะสรุปให้เข้าใจสั้น ๆ ดังต่อไปนี้

  • ใช้ช่องทาง Social Media เหมาะกับทุกธุรกิจทั้งแบรนด์ที่พึ่งเริ่มนต้นใหม่ ๆ และแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว โดยแบรนด์ที่ยังไม่มีชื่อเสียงนั้นเหมาะที่จะเป็นช่องทางเพื่อแนะนำตัวเองว่าคือธุรกิจอะไรให้บริการอะไร มีสินค้าอะไรมาเสนอ ส่วนแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วก็ถือเป็น Brand Awareness ไปในตัวให้กลุ่มเป้าหมายไม่ลืมและรับรู้ว่ามีเว็บไซต์ด้วยเหมือนกัน
  • สื่อสารด้วย Line OA ช่องทางนี้เหมาะกับกลุ่มธุรกิจที่เริ่มมีชื่อเสียงมาประมาณหนึ่ง เพราะการโปรโมตเว็บไซต์ผ่านการ Broadcast ใน Line OA นั้น คนที่เห็นจะมีเพียงคนที่เพิ่มเพื่อนกับ Line OA ของคุณเท่านั้น แต่ก็สามารถจูงใจให้กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นเข้าไปสู่เว็ไซต์ของคุณได้ดีและตรงกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกัน
  • ลงทุนโปรโมทกับ SEM เป็นวิธีที่ดีเห็นผลทันทีเมื่อจ่ายเงินซื้อพื้นที่อันดับแรกกับ Google ทำให้เหมาะกับการทำแคมเปญระยะสั้น ๆ  และแบรนด์ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก สำหรับแบรนด์ใหม่นั้นที่เหมาะกับการทำ SEM ก็เพราะคุณสามารถที่จะลง SEM ควบคู่ไปกับการทำ SEO ได้ เมื่อการทำ SEO เริ่มผลที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลานั้นจึงค่อยหยุดใช้งาน SEM ได้ทันที
  • ทำ SEO ติดอันดับบน Google แบบฟรี ๆ เป็นวิธีที่เห็นผลช้าแต่ถ้าทำถูกทางเห็นผลชัวร์แน่นอน ที่นานก็เพราะคุณต้องใช้เวลาในการปรับปรุงเว็บไซต์และปรับองค์ประกอบต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐานตามที่อัลกอริทึมของ Google ตั้งไว้ จะเห็นผลจริงได้ประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หลังจากนั้นถ้าเว็บไซต์มีคุณภาพจริง ๆ ก็จะถูกผลักดันให้ติดอันดับการค้นหาให้หน้าแรก ๆ  แบบติดลมบนได้ในระยะยาวแน่นอน

นอกเหนือจากการโปโมทเหล่านี้แหละ สิ่งที่ผู้ประกอบการควรทำอยู่เสมอก็คือการฟังเสียงของลูกค้า เพราะพวกเขาจะเป็นคนที่บอกได้ว่าสิ่งที่คุณทำให้ประโยชน์อะไรแก่พวกเขาได้บ้าง หากคุณยังคุณภาพและรับฟัง หรือแลกเปลี่ยนความคิดกับลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะสามารถพาแบรนด์เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคได้อย่างไม่ยากเย็น

บทความที่เกี่ยวข้อง

HubSpot คืออะไร? ช่วยดูแลธุรกิจ ครบจบในตัวเดียวจริงไหม?

สำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้ ทีมที่องค์กรขาดไปไม่ได้เลยคือทีมการตลาดและทีมขาย ทั้งสองทีมนี้ต้องทำงานร่วมกัน ในการดึงลูกค้าเข้ามาและปิดการขาย แต่ด้วยความที่ต่างทีมต่างมีลำดับขั้นตอนและรายละเอียดของเนื้องา
37

Google Analytics 4 คืออะไร ต่างจากเวอร์ชันเก่าอย่างไร

Google Analytics (GA) เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมาก สำหรับนักการตลาดและแบรนด์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพราะ GA จะช่วยให้คุณรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้งานบนเว็บไซต์มากขึ้น และทำให้คุณได้ข้อมูล
26

Technical SEO คืออะไร? กับ 8 เทคนิคการปรับปรุงฉบับพื้นฐาน

Search Engine Optimization (SEO) เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบน Google ได้อย่างยั่งยืนและนำมาซึ่งผลลัพธ์ด้านการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งการทำ SEO จะประกอบไปด้วยฝั่งของ On-Page S
31
th