ขายออนไลน์อะไรดี มาดูเทรนด์สินค้าที่มีความต้องการสูงประจำปี 2024

สำหรับปี 2024 นี้ ท่านใดที่สงสัยว่าควรขายออนไลน์อะไรดี จึงจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ‘ANGA’ จะพามาไขคำตอบให้กระจ่าง สืบเนื่องมาจากปี 2022 จนถึงปัจจุบัน เทรนด์ธุรกิจเรื่องการรักษ์โลก การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) ความยั่งยืน (Sustainability) สุขภาพและความงาม (Health and Beauty) ยังคงมาแรงแบบหยุดไม่อยู่ 

แล้วช่วงนี้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตกันแทบจะเป็นปกติ มีความต้องการของผู้บริโภคด้านใดเปลี่ยนไปบ้าง? วันนี้เราได้หยิบสินค้าและบริการ 15 ประเภทที่น่าจับตามองมาฝากทุกท่าน เพราะธุรกิจจะเติบโตอย่างมั่นคง จำเป็นต้องจับทางตลาดให้ได้เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของคุณตอบโจทย์กับความต้องการมากที่สุด

ขายออนไลน์อะไรดี มีเทรนด์ใดที่ต้องจับให้ได้ไล่ให้ทันบ้างในปี 2024?

วงการอีคอมเมิร์ซยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดดและปี 2023-2024 จะเรียกว่าเป็นยุคทองของกลุ่มธุรกิจนี้ก็ไม่ผิด ด้วยยอดขายทั่วโลกที่ถูกคาดการณ์ว่าจะทะลุ 5 ล้านล้านดอลลาร์ในไม่ช้า แล้วเราควรขายออนไลน์อะไรดี? มีคำตอบแบบเจาะลึกมาให้คุณจับ ‘เทรนด์ธุรกิจ’ ให้ได้ไล้ให้ทัน ดังนี้

1. เทรนด์สุขภาพ

นาทีนี้ดาวเด่นที่ฮิตติดเทรนด์อย่างต่อเนื่องต้องยกให้สินค้าและบริการเกี่ยวกับสุขภาพ โดยในช่วงโควิด-19 ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสนใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้นกว่า 62% ตัวอย่างสินค้าที่ได้รับความนิยมสูง เช่น เครื่องฟอกอากาศ อาหารเสริม มัทฉะ อาหารคลีนและสินค้าที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างขวดน้ำ นอกจากนี้บริการนอกบ้านก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งทั้งคลินิก นวด สปาและฟิตเนส

2. เทรนด์ผู้สูงวัย

อีกหนึ่งเทรนด์ที่ต้องไม่คลาดสายตาก็คือผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ หลายคนอาจมองข้ามแต่หารู้ไม่ว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมาก สินค้าที่จะพิชิตใจได้ คือ อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น อาหารออร์แแกนิค อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ชะลอวัยและฟิตเนสสำหรับผู้สูงวัย เป็นต้น หากต้องการยิงแอด Google หรือทำการตลาดดิจิทัลกลุ่มเป้าหมายนี้ต้องคำนึงเรื่อง User-friendly ความปลอดภัยและความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมงด้วย

3. เทรนด์รักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

สำหรับกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยมลพิษ ประหยัดพลังงานเพื่อโลกและคุณภาพชีวิตยังได้รับความนิยมสูงต่อเนื่อง อย่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน หรือแม้แต่หลอดดูดรักษ์โลก เครื่องสำอางออร์แกนิคและกระเป๋าหรือแฟชันรีไซเคิล

4. เทรนด์สัตว์เลี้ยง ทาสหมา-ทาสแมว

เทรนด์ใหม่มาแรงที่มีโอกาสเติบโตสูงต่อมา คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง ตั้งแต่การกิน นอน ออกกำลังกายและการทำความสะอาด/ขับถ่าย เช่น อาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูง ทรายแมวจากธรรมชาติ แชมพูออร์แกนิค  กระเป๋าสุนัขหรือแมวและสถานที่แบบ Pet-friendly

5. เทรนด์ท่องเที่ยวและการขนส่ง

หลังจากผู้คนอุดอู้อยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลานาน ถึงเวลาแล้วที่จะปลดแอกกลับมาท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้จะกลับมาดำเนินการปกติดังช่วงก่อนโควิด ฉะนั้นธุรกิจการขนส่ง รถเช่า โรงแรม รีสอร์ท Airbnb สถานที่บันเทิงล้วนมีโอกาสแจ้งเกิดใหม่อีกครั้ง

6. เทรนด์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย

ธุรกิจความงามมีแนวโน้มเติบโตสูงเพราะเรื่องความงามไม่มีวันตกเทรนด์ ซึ่งในช่วงสามปีที่ผ่านมา ผู้คนให้ความใส่ใจในผลิตภัณฑ์ความงามและดูแลร่างกายกันสูงขึ้น หากไม่รู้ว่าจะขายออนไลน์อะไรดี สินค้าที่เราแนะนำ คือ เล็บปลอม ขนตาปลอม วิกผม (เติบโตมากกว่า 10% ต่อปี) แปรงแต่งหน้า อายแชโดว แปรงสีฟันไฟฟ้า หรือคลินิกเสริมความงามและศัลยกรรมก็น่าสนใจไม่น้อย โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้ามีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

7. เทรนด์แฟชัน

หากนึกถึงสินค้าที่ขายมากที่สุดในกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ต้องมีสินค้าแฟชันอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ มีการเข้าสังคม ออกไปท่องเที่ยว โดย Vogue ได้จัดอันดับเทรนด์ที่คาดว่าจะมาแรงในแห่งปี ดังนี้ แฟชัน Y2K เอวต่ำสุดเซ็กซี่ ยีนส์ มินิเดรสพริ้วเข้ากับอากาศบ้านเราและแฟชันแนวสปอร์ต

8. เทรนด์ของแต่งบ้าน

สำหรับยอดขายของแต่งบ้านมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปีนับแต่ 2020 โดยสินค้ายอดนิยม คือ ของตกแต่งธีมธรรมชาติ (Biophilic) เช่น พรมจากวัสดุธรรมชาติ ม่านจากผ้าฝ้าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ ภาพวาดรูปธรรมชาติและสัตว์ป่า โดยสีที่ติดอันดับทุกโพลล์ คือ สีม่วงลาเวนเดอร์

9. เทรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์เสริม

มาต่อกันที่เทรนด์แกดเจ็ตและเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งตลาดมีมูลค่าสูงลิ่ว มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นอีกในปีนี้ สินค้าสุดไฮเทคที่น่าจับตามอง คือ เพาเวอร์แบงค์ขนาดเล็กและแท่นชาร์จไร้สาย หูฟังไร้สาย กล้องจิ๋วถ่าย 360 องศา ไมโครโฟนสำหรับเกมเมอร์/สตรีมเมอร์และเครื่องปั่นผลไม้แบบพกพา เป็นต้น

10. เทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ 

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นสิ่งที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้คนเสมอ อย่างเช่น ChatGPT ที่เพิ่งเปิดตัวไปก็เกิดกระแสฮือฮาไม่น้อยเพราะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์อย่างมากไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล สร้างภาพ วิดีโอ การเขียนโค้ด บทความ นอกจาก Generative AI นี้แล้วยังมี Virtual Influencer ที่เหล่าเอเจนซี่โฆษณาต่างก็ให้ความสนใจเพราะควบคุมการสื่อสารได้ง่ายช่วยลดต้นทุนของแบรนด์

11. เทรนด์อุปกรณ์ในห้องครัว

หากถามว่าขายออนไลน์อะไรดีมีสิทธิ์รุ่ง ต้องไม่พลาดอุปกรณ์ในห้องครัว เพราะพฤติกรรมของผู้คนเคยชินกับการทำอาหารที่บ้านในช่วงโควิดไปแล้ว ซึ่งสินค้าขายดีแห่งปีคงหนีไม่พ้น หม้อทอดไร้น้ำมัน เครื่องล้างจานและเครื่องฆ่าเชื้อด้วย UV  เครื่องปั่นผลไม้ขนาดกะทัดรัด ชั้นวางของและกล่องจัดระเบียบ รวมถึงหม้อหรือกระทะไฟฟ้าที่ไม่ต้องพึ่งเตา

12. เทรนด์สินค้าจากท้องถิ่น

ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น สำหรับสินค้าจากท้องถิ่นที่มีการสนับสนุนชุมชน คืนกำไรสู่สังคม และลดคาร์บอนฟุตปรินต์ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนจึงเป็นที่ต้องการของชาวไทยกว่า 48% ยกตัวอย่างสินค้าเช่น มะขามหวาน จ.เพชรบูรณ์ มันฝรั่งและอโวคาโด จ.เชียงใหม่ หมูดำภูพาน จ.สกลนคร ซึ่งขยายตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ

13. เทรนด์ความโหยหาอดีต (Nostalgia)

ในช่วงที่ผ่านมา หลายคนอาจเกิดความเครียด ความกังวลและโหยหาความสุขในอดีต ดังนั้นสินค้าของความสุขในวันวานอย่าง กล้องฟิล์มและการสะสมสินค้าจึงได้รับความนิยม โดยเอเจนซี่การตลาดออนไลน์และออฟไลน์สามารถหยิบ Nostalgia Marketing มาสร้างประสบการณ์ผ่านสินค้าและสื่อสารไปยังลูกค้าหลายเจนเนอร์เรชันได้อีกด้วย

14. เทรนด์สินค้าไซส์มินิ

ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่มักจะอยู่ตัวคนเดียว ชอบลองสิ่งใหม่ ๆ รักความสะดวกสบาย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคหรือบริโภคที่มีบรรจุภัณฑ์กะทัดรัดเหมาะแก่การทานให้หมดในครั้งเดียว พกพาง่ายจึงตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าอย่างยิ่ง เช่น ครีมซอง อาหารหรือของว่างสำหรับ 1 – 2 คน ผลไม้หั่นพร้อมทาน เป็นต้น

15. เทรนด์สินค้าเด็ก

นอกจากผู้สูงอายุแล้ว สินค้าเด็กก็มาแรงอย่างเห็นได้ชัดเพราะคุณพ่อคุณแม่ต่างต้องการสินค้าคุณภาพดีแก่ลูกน้อย ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม เช่น เป้อุ้มเด็ก อุปกรณ์การเดินทาง ของเล่นรักษ์โลก เบบี้มอนิเตอร์ เป็นต้น

รู้ 15 เทรนด์สินค้าขายออนไลน์อะไรดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับรายละเอียดเทรนด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามองในปี 2024 นี้ ด้วยสินค้ากว่า 15 ประเภทจะช่วยจบปัญหาไม่รู้จะขายออนไลน์อะไรดี แถมสร้างความมั่นคงให้แก่แบรนด์เพราะเมื่อผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้ายุคนี้ก็เดินหน้าต่อไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ