
6 ทริคออกแบบโฆษณา Facebook ให้ใครเห็นต้องหยุดคลิก
การทำAds โฆษณา ถือเป็นกระบวนการหนึ่งในการทำโฆษณา Facebook ไม่ว่ากลุ่มธุรกิจประเภทไหน ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ต่างก็เลือกพื้นที่บนสื่อโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากที่ใช้งานและมองหาบริการต่างๆ ผ่านทางช่องทางนี้ ดังนั้นการออกแบบโฆษณาบน Facebook ให้โด่ดเด่นและน่าสนใจ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักการตลาดไม่ควรพลาด เพราะถ้าหากภาพ Artwork ในโฆษณาไม่น่าดึงดูด หรือไม่ได้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย นั่นอาจทำให้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การแคมเปญการตลาดนั้นไม่มีความหมาย
ทำไมรูปภาพ Ads โฆษณาจึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าแพลตฟอร์มอย่าง Facebook สามารถสร้างคอนเทนต์ได้อย่างครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นข้อความ วิดีโอ และรูปภาพที่เป็นหนึ่งในรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมในการสร้างมากที่สุดบนแพลตฟอร์มนี้ ดังนั้นในการทำภาพ Artwork ที่ดี น่าสนใจ และมีสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ ถือเป็นวิธีการสื่อสารที่สำคัญที่สุดในการดึงดูดให้พวกเขากดคลิกเข้ามาดูรายละเอียดทั้งหมดของชุดแคมเปญ Ads โฆษณาของคุณ ซึ่งในหลักการทำ Artwork ที่ดีนั้นก็จะมีเทคนิคต่างๆ ในการออกแบบโฆษณาที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดก็ตาม

6 เทคนิคในการออกแบบ Ads โฆษณาที่ทำได้จริงและมีประสิทธิภาพ
ออกแบบปุ่ม Call-To-Action ให้ชัดและเคลียร์จากการดูแค่ครั้งเดียว
ปุ่ม CTA หรือ Call-to-Action คือส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่า Artwork ชุดนี้กำลังบอกอะไรกับพวกเขา ซึ่งส่งผลต่อการกระทำต่อชุด Ads โฆษณาตัวนั้นด้วยเช่นกัน โดยคุณสามารถเลือกได้ว่าปุ่ม CTA ตัวนี้มีจุดประสงค์อะไร ทั้งการ Engage หรือจูงใจให้กับ Lead หรือจะทำขึ้นมาเพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย ตัวอย่างการใช้คำในการทำ CTA เช่น
- ปรึกษาฟรีเพื่อผลลัพธ์การตลาดที่เหนือกว่า
- ซื้อตอนนี้รับฟรีส่วนลด 15%
- ศึกษารายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมคลิกเลย
- ดูแผนประกันภัยที่เหมาะกับคุณ
- Learn More
- Download Now
- Sign Up for Free
ทั้งนี้ในการออกแบบปุ่ม CTA นั้นควรเน้นคำที่กระชับได้ใจความ และที่สำคัญควรวางในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในภาพ
ใช้ Ad Format เป็นตัวตั้งต้นในการออกแบบ
ถัดมาเป็นการนำ Ad Format ที่ต้องการมาเป็นหลักในการพิจารณารูปแบบของ Artwork ที่ต้องการจะทำ ซึ่งในปัจจุบัน Ads โฆษณาของ Facebook นั้นมี Ad Format ให้เลือกมากถึง 8 รูปแบบด้วยกันดังนี้
- รูปภาพ เป็น Ad Format ทั่วไปสามารถทำ Artwork เพียงรูปเดียวที่มีข้อความและ Objective ที่ชัดเจน
- วิดีโอ เป็น Ad Format ถัดมาที่สามารถลงได้เพียง 1 คลิปวิดีโอเท่านั้น ซึ่งจะสามารถโชว์ Product หรือสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารได้หลากหลายมากกว่า
- Facebook Stories เป็นการสร้างคอนเทนต์ที่อยู่บนพื้นที่นอก Feed หรือหน้า Timeline ของ Facebook โดยสามารถใช้ได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอขนาดสั้นๆ ไม่เกิน 15 วินาที ช่วยดึงดูดความสนใจได้ดี
- Messenger โฆษณาประเภทนี้มักจะใช้ภาพนิ่งเพียง 1 ภาพพร้อม Ad Copy หรือคำอธิบายโฆษณาที่มีความกระชับและได้ใจความ
- Carousel เป็นโฆษณาที่สามารถแสดงรูปแบบหรือวิดีโอได้สูงสุดครั้งละ 10 รายการ โดยที่แต่ละภาพหรือวิดีโอนั้นจะมีการฝังลิงก์ URL ลงไปเพื่อส่งกลุ่มเป้าหมายไปยัง Landing Page ที่ต้องการ
- Slide show เป็นรูปแบบโฆษณาที่ใกล้เคียงกับวิดีโอแต่จะเป็นการนำรูปภาพมาแสดงเป็นหลัก โดยสามารถนำรูปภาพและเสียงรวมไว้ใน Ads โฆษณาเพียง 1 ชุดเท่านั้น
- Collection เป็นรูปแบบโฆษณาที่เหมาะกับการนำภาพสินค้ามาใช้ในการโปรโมตมากที่สุด
- Playables เป็นรูปแบบโฆษณาที่สามารถมอบ Experience ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ด้วยการสร้างเกม Interactive เพื่อส่งพวกเขาไปยัง Landing Page ที่ต้องการหลังจากที่เล่นจนจบเกม
เมื่อคุณรู้แล้วว่าจะทำโฆษณาใน Ad Format อะไรก็จะสามารถช่วยให้คุณวางแผนออกแบบโฆษณาและคิดไอเดียได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดการสื่อสารที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า
ออกแบบโฆษณาให้สอดคล้องกับ Landing Page
การนำรูปแบบของ Landing Page ที่จะนำมาสร้าง Ads โฆษณามาเป็นไอเดียหลักในการออกแบบ Artwork ถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจและช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ดี ทำให้พวกเขาได้มองเห็นก่อนว่าถ้าหากพวกเขาคลิกเข้าไปแล้วจะเจออะไร ในทางกลับกัน Artwork ที่ออกไม่สอดคล้องกับ Landing Page มีความเสี่ยงที่ยอด ROI หรือ Return On Investment จะต่ำ
เลือกรูปภาพดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
การเลือกรูปภาพที่สอดคล้องกับไอเดียและ Message ของโฆษณาถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะจะทำให้กลุ่มเป้าหมายสนใจมากขึ้น อีกทั้งยังมีความเข้าใจต่อสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อสารได้เป็นอย่างดี คุณสามารถเลือกภาพที่น่าสนใจไปประกอบกับการทำ Artwork เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้น่าสนใจก็ได้ หรือจะเลือกใช้ภาพถ่ายเดี่ยวๆ ที่ไม่ผ่านการตกแต่งใดๆ แต่มี Message ที่ชัดเจน ก็ช่วยดึงดูดให้น่าสนใจได้ทั้งคู่
ใช้สีในการออกแบบให้เหมาะกับโฆษณา
อีกหนึ่งเทคนิคการออกแบบโฆษณาภาพ Artwork ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายคือการเลือกใช้สีที่เหมาะกับไอเดียและ Message ของภาพ ซึ่งการเลือกใช้สีมีผลต่อการตัดสินใจคลิกของกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างมาก คุณสามารถนำหลักการของสีมาใช้ได้ดังไม่ว่าจะเป็น
- การกำหนดสีของ CI Brand ที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายจำได้
- การปรับ Contrast แสงและเงาในส่วนของ Text เพื่อดึงดูดสายตา
- การเชื่อมโยงระหว่างสีและอารมณ์ความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมาย
ด้วยหลักการเหล่านี้จะเห็นได้ว่าการใช้สีมีความเชื่อมโยงต่อกลุ่มเป้าหมายทั้งในแง่ของการจดจำแบรนด์ การจดจำสินค้า รวมไปถึงความรู้สึกที่มีต่อโฆษณาชุดนั้น
ทำภาพโฆษณาแบบ Mobile-Friendly
สุดท้ายเป็นหลักการออกแบบ Artwork โฆษณาสำหรับยุคนี้ที่คำนึงถึงการใช้งานบนสมาร์ตโฟนเป็นหลัก เพราะจากสถิติการใช้ Facebook ตั้งปี 2020 เป็นต้นมาจะพบว่ากว่า 79% มีการใช้งานแพลตฟอร์มนี้ผ่านสมาร์ตโฟนมากกว่าอุปกรณ์หรือ Device อื่นๆ เป็นอย่างมาก ดังนั้นการออกแบบโฆษณาให้สอดคล้องกับขนาดภาพตามสมาร์ตโฟน สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิกที่ Ads โฆษณาของคุณได้มากกว่า
บทสรุปของการเทคนิคการออกแบบโฆษณาให้ดึงดูดความสนใจกลุ่มเป้าหมาย
การออกแบบโฆษณาไม่ว่าจะเป็น Artwork, วิดีโอ หรือแม้กระทั่งการนำภาพถ่ายมาใช้ ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ Ads โฆษณา Facebook มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการกำหนด Target Audience ที่ถูกต้องและเป็นกลุ่มเป้าหมายตัวจริงได้เป็นอย่างดี ดังนั้นในการทำตลาดบนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook นั้นไม่ควรละเลยการทำ Artwork ที่ดี เพราะผู้คนส่วนใหญ่บนสื่อโซเชียลมีเดียแห่งนี้ ล้วนมีความสนใจในคอนเทนต์ที่เป็นรูปภาพมากที่สุด หากคุณทำภาพไม่สอดคล้องกับ Message ละก็โฆษณาชุดนั้นก็อาจจะหมดควาหมายได้เลยทีเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง

Organic Traffic คืออะไร พร้อมวิธีเพิ่ม Traffic บนเว็บไซต์
