วงการ SEO มีเรื่องให้ตื่นเต้นอีกแล้วครับ ตั้งแต่ช่วงกันยายน 2025 ที่ผ่านมา หลายคนน่าจะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงว่า Google ยกเลิกการใช้งานพารามิเตอร์ &num=100 ใน URL ของหน้าผลการค้นหา หรือ SERP ทีมแองก้าจะมาเจาะลึกถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะนี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ อย่างแน่นอนครับ

คุณธีรวัชร เกียรติธีราภิวัฒน์ - SEO Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ SEO ของ ANGA (แองก้า) ได้แชร์ผลกระทบที่เกิดขึ้นในตอนนี้ว่า

“การทำ SEO ของเรา จะต้องสรุปรีพอร์ตให้ลูกค้าทุกเดือน การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อการเก็บข้อมูลโดยตรง ทำให้การรายงานผลภาพรวม โดยเฉพาะ Average Position ที่คลาดเคลื่อนไปอย่างมาก  เพราะเครื่องมือเก็บดาต้าได้ไม่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อ Traffic หรือ Conversion ทำให้ทีมต้องรีบชี้แจ้งและอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจในส่วนนี้ทันที”

Google ยกเลิกพารามิเตอร์ &num=100

จากรูปจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า Average Position ของลูกค้าเจ้านี้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่อันดับ 12 แต่หลังจากที่ Google ยกเลิกพารามิเตอร์ &num=100 ส่งผลให้อันดับเฉลี่ยตกลงมาอยู่ที่ 21

พารามิเตอร์ &num=100 คืออะไร เคยสำคัญยังไงกับการทำ SEO?

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ &num=100 เหมือนโค้ดพิเศษที่ใช้ต่อท้าย URL เวลาค้นหาบน Google เพื่อบอกว่า "Google, ขอผลการค้นหา 100 อันดับในหน้าเดียวเลยนะ" แทนการนั่งกด Next Page ไปเรื่อยๆ ทีละ 10 อันดับ เป็นหนึ่งในวิธีการเช็กอันดับเว็บไซต์ที่คนทำ SEO หลายคนนิยมใช้เลยก็ว่าได้

แล้ว &num=100 สำคัญกับคนทำ SEO และเครื่องมือต่างๆ ยังไงบ้าง?

  • เครื่องมือ Rank Tracking: ลองนึกภาพเครื่องมือที่ใชัติดตามผลการทำ SEO หรือ SEO Tracking อย่าง Ahrefs หรือ SEMrush ที่ต้องเก็บข้อมูลอันดับของ Keyword นับล้านๆ คำทั่วโลก การใช้ &num=100 ทำให้พวกเขาส่งคำสั่งแค่ครั้งเดียวแต่เก็บข้อมูลได้ถึง 100 อันดับในทีเดียว
  • ลดภาระและต้นทุนในการทำงาน: การส่ง Request ไปหา Google น้อยลง ก็หมายถึงการใช้ทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์น้อยลงด้วย ต้นทุนของผู้พัฒนาเครื่องมือเครื่องมือ Rank Tracking ก็ถูกลง ทำให้เราได้ใช้เครื่องมือในราคาที่สมเหตุสมผล
  • ช่วยให้วิเคราะห์คู่แข่งได้ลึกขึ้น: เราสามารถเห็นภาพรวม Keyword ของคู่แข่งได้กว้างขึ้น ไม่ใช่แค่ Keyword ที่ติดหน้าแรก แต่ยังเห็นไปถึงอันดับที่ 11-100 ทำให้ SEO Specialist วิเคราะห์คู่แข่งได้ว่าพวกเขากำลังพยายามปั้น Keyword ไหนอยู่

เปรียบเทียบการเก็บข้อมูล SEO "ก่อน" และ "หลัง" มีการเปลี่ยนแปลง

ประเด็นเปรียบเทียบก่อนยกเลิก &num=100หลังยกเลิก &num=100
การเก็บข้อมูล 100 อันดับ1 Request10 Requests (หรือมากกว่า)
ต้นทุนและทรัพยากรต่ำ (ประหยัดเวลาและ Server Load)สูงขึ้น 10 เท่าเป็นอย่างน้อย
ความเร็วในการเก็บข้อมูลรวดเร็วช้าลงอย่างมีนัยสำคัญ
การเข้าถึงข้อมูลอันดับ ข้อมูลอันดับ 11-100 เข้าถึงง่ายโฟกัสหลักอยู่ที่อันดับ 1-10 หรือ 11-30 (ประมาณหน้า 2-3)
ความแม่นยำของข้อมูลค่อนข้างแม่นยำอาจเห็นข้อมูล Impression ใน GSC ลดลง (จากการที่ Bot ของเครื่องมือไม่ได้โหลดหน้า 100 อันดับอีกต่อไป)

ผลกระทบกับการทำ SEO เมื่อยกเลิกพารามิเตอร์ &num=100

เมื่อวิธีการเก็บข้อมูลพื้นฐานเปลี่ยนไป กระบวนการทำงานในส่วนต่างๆ ของ SEO ก็ย่อมได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่เป็นเรื่องปกติ การเข้าใจผลกระทบเหล่านี้จะช่วยให้เราวางแผนรับมือและปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงที

1. SEO Tools & Data Providers

ถ้าถามว่าใครได้รับผลกระทบหนักสุด คงเป็นบริษัทผู้พัฒนาเครื่องมือ SEO และผู้ให้บริการข้อมูล (Data Providers) เพราะธุรกิจหลักของเครื่องมือเหล่านี้คือ การเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาลบน Google การยกเลิก &num=100 ส่งผลให้จากเดิมที่เคยส่งคำสั่งแค่ 1 ครั้งเพื่อเก็บ 100 อันดับ ตอนนี้ต้องส่งคำสั่งถึง 10 ครั้ง ซึ่งหมายถึงต้นทุนการดำเนินงาน ทั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ ค่าแบนด์วิดท์ (Bandwidth) และการประมวลผลต่างๆ พุ่งสูงขึ้นทันที

Ahrefs เองก็ออกมายอมรับผ่านบล็อกว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการข้อมูล (Data Providers) ที่พวกเขาใช้อยู่โดยตรง ทำให้การเก็บข้อมูลอันดับที่ไกลกว่าหน้าแรกทำได้จำกัดลง

ผลกระทบต่อคนทำ SEO:  ในฐานะผู้ใช้งานก็อาจต้องเจอผลกระทบแบบลูกโซ่ เช่น การอัปเดตข้อมูลที่ช้าลง ข้อจำกัดในการดูอันดับลึกๆ หรือแม้กระทั่งการปรับขึ้นราคาในอนาคตเพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

2. Competitor Analysis

การวิเคราะห์คู่แข่งเพื่อหา Keyword Opportunity หรือคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจซึ่งคู่แข่งอยู่อันดับ 11-30 การยกเลิก &num=100 นอกจากจะทำให้การทำงานของเราช้าลงกว่าเดิมเพราะต้องมากด Next Page ไปเรื่อยๆ ทีละ 10 อันดับ ยังทำให้การวิเคราะห์คู่แข่งทำได้ยากขึ้นมาก เพราะ SEO Tools & Data Providers มีต้นทุนที่สูงขึ้นส่งผลให้

  • ข้อมูลขาดหายหรือจำกัด: ผู้ให้บริการเครื่องมือบางรายอย่าง AccuRanker ประกาศชัดเจนว่าจะลดการติดตามอันดับเหลือแค่ 2 หน้าแรก (ประมาณ 20 อันดับ) เท่านั้น หมายความว่าโอกาสที่คุณจะเห็นอันดับที่ 21-30 ของคู่แข่งในรีพอร์ตนั้นแทบจะเป็นศูนย์
  • ข้อมูลอาจล่าช้า: ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น เครื่องมือต่างๆ จะให้ความสำคัญกับการอัปเดตข้อมูลอันดับในหน้าแรกบ่อยกว่าส่วนอื่น ทำให้อันดับที่ไกลออกไปอาจถูกตรวจสอบน้อยลง เช่น จากทุกวันเป็นทุกสัปดาห์ ทำให้ข้อมูลที่เราเห็นอาจไม่สดใหม่เท่าเดิม

คนทำ SEO ต้องรับมือกับการยกเลิกพารามิเตอร์ &num=100 ยังไง?

โจทย์ของคนทำ SEO ในตอนนี้คือ การวิเคราะห์ว่า Keyword และคอนเทนต์ไหนในหน้าแรกที่สร้าง Traffic และ Conversion ให้คู่แข่งได้จริง แล้วนำกลยุทธ์นั้นมาปรับใช้เพื่อพัฒนาคอนเทนต์ของเราให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เราจะไม่เน้นแค่ว่า “เว็บเราอยู่อันดับที่เท่าไหร่?" แต่จะต้องโฟกัสเรื่อง "อันดับที่เราอยู่สร้างผลลัพธ์อะไรให้ธุรกิจได้บ้าง?" เพิ่มเข้ามาด้วย และหันมาใช้ข้อมูลจากหลังบ้านของเราเองอย่าง Google Search Console (GSC) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตรงที่สุด

วิธีใช้ข้อมูลจาก GSC เพื่อพัฒนาคอนเทนต์ให้ดียิ่งขึ้น

GSC หรือ Google Search Console คือ เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลการแสดงผลของเว็บไซต์บนเครื่องมือค้นหาอย่าง Google เป็นข้อมูลหลังบ้านของ Google เอง จึงแม่นยำและไม่เปลี่ยนแปลงตามวิธีที่ Third-party เข้าถึงข้อมูล  

วิธีดู Keywords อื่นๆ ที่ไม่ได้ติดอยู่หน้าแรกใน GSC

ยกเลิกพารามิเตอร์ &num=100 รับมือยังไง
  1. ไปที่ Search results
  2. ติ๊กถูกช่อง Average position
  3. ตรง Filter rows เลือก Position
  4. ในช่อง Filter by Position เลือก Greater than แล้วใส่เลข 10

เท่านี้ก็จะได้ลิสต์ Keyword ทั้งหมดที่อันดับเฉลี่ยอยู่หน้า 2 ขึ้นไป จากนั้นก็ไปไล่ดูว่า Keyword ไหนมี Impression สูงๆ แต่ CTR ต่ำๆ นั่นแหละครับคือโอกาสในการปรับปรุง Title/Description หรือเนื้อหาเพื่อเพิ่ม CTR และดึงอันดับขึ้นมาได้

การยกเลิก &num=100 ส่งผลต่อการทำ SEO มากไหม?

ในมุมของแองก้าเราคิดว่า "ไม่ แต่เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญมาก" เพื่อผลักดันให้เราเปลี่ยนจากการสนใจแค่เรื่องอันดับเท่านั้น ไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Quality) และผลลัพธ์ที่จับต้องได้ทางธุรกิจมากขึ้น 

การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ทิศทางของ Google ในอนาคตคือการผลักดันให้คนทำ SEO และเจ้าของเว็บไซต์ โฟกัสที่สิ่งเดียวกันกับที่ Google โฟกัสคือ การสร้างคุณค่าทางธุรกิจและสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้งาน 

ผมว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำครับ ในเมื่อการดูคู่แข่งทำได้ยากขึ้น ทางที่ดีที่สุดก็คือการสร้างคอนเทนต์ของเราให้มีคุณภาพมากที่สุดจนคู่แข่งตามไม่ทัน เมื่อ Google เว็บไซต์ของคุณเป็นผู้รู้จริงในเรื่องนั้นๆ หรือที่เรียกว่ามี Topical Authority สูง Google จะให้ความไว้วางใจและจัดอันดับ Keyword หลักๆ ในหน้าแรกให้คุณเองครับ