เราเชื่อว่าหลายคนไม่กล้าคลิกลิงค์ยาวๆ ที่มีหน้าตาแปลกๆ เพราะรู้สึกไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย การย่อลิงค์ URL จึงมีความสำคัญกับการทำการตลาดออนไลน์อย่างมาก ยิ่งในโลกออนไลน์ทุกวันนี้ที่ผู้ใช้งานตัดสินใจในเสี้ยววินาที หน้าตาของลิงค์อาจเป็นตัวกำหนดได้เลยว่าพวกเขาจะคลิกหรือเลื่อนผ่าน การย่อลิงค์ URL จึงไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจ อัตราการคลิก และภาพลักษณ์แบรนด์
คุณกัณฐิกา แววสว่าง - Performance Media Team Lead ผู้เชี่ยวชาญด้านการรับทำโฆษณาออนไลน์ของ ANGA (แองก้า) ได้แชร์ว่า
“ส่วนใหญ่เราจะใช้ Short URL ในการติดตามผลของแคมเปญโฆษณาค่ะ เช่น การใช้ Short URL แยกตามแคมเปญโฆษณา Google Ads เพื่อดูว่าแคมเปญไหนสร้าง Conversion Rate ได้มากที่สุด หรือการใช้ Short URL แยกตามกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญ Facebook Ads เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย แล้วเอาข้อมูลมา Optimize Ads ในอนาคต รวมถึงการทำ Personalize Ads หรือ Content ให้กับลูกค้า ANGA ที่ยิงแอดกับเราด้วยค่ะ”
คุณปิยวัฒน์ ทรัพย์สินดำรง | Senior SEO Specialist ผู้เชี่ยวชาญด้านการรับทำ SEO ของ ANGA (แองก้า) ได้แชร์ว่า
"การย่อลิงค์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Backlink ได้ดีมากครับ คือตัวเว็บย่อลิงค์เค้าจะมีระบบ Tracking การคลิกของ User ที่ทำงานคล้ายๆ กับ UTM มาด้วย ทำให้เรารู้ว่า User คลิกลิงค์มาจากเว็บไซต์ไหน มี Traffic เข้ามาจากเว็บที่เราเอาคอนเทนต์ไปลงเท่าไหร่ ซึ่งเราจะดูและวัดผล Performance ได้ง่ายกว่าการทำ UTM ด้วยครับ”
การย่อลิงค์สำคัญกับการทำการตลาดออนไลน์ยังไง
การย่อลิงค์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานการตลาดออนไลน์ ไม่ใช่แค่ลดจำนวนตัวอักษรให้เหมาะกับแพลตฟอร์ม แต่ยังช่วยให้ลิงค์ดูน่าเชื่อถือและใช้งานง่ายขึ้น เพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี และที่สำคัญคือ ช่วยให้ติดตามประสิทธิภาพลิงค์ (Performance Tracking) ได้แม่นยำขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่นักการตลาดหลายคนอาจมองข้ามไป
การติดตามผลลัพธ์ (Performance Tracking) ที่เหนือกว่า UTM
เราอาจคุ้นเคยกับการใช้ UTM Parameters สำหรับลิงค์เต็มเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกไปที่ Google Analytics 4 (GA4) แต่เว็บย่อลิงค์หลายเจ้าออกแบบฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายสำหรับนักการตลาดระดับ Beginner ไปจนถึง Intermediate เลยครับ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้มักรวมถึง
- การแสดงแหล่งที่มาของการคลิก (Traffic Source)
- ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ (Geo-location)
- ประเภทของอุปกรณ์ (Device Type) ที่ผู้ใช้งานใช้คลิก
การเก็บดาต้าเหล่านี้ ช่วยให้เรามีข้อมูลไปวิเคราะห์และปรับปรุงแคมเปญการตลาดออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือที่ซับซ้อนเสมอไป
การสร้างความน่าเชื่อถือและการจดจำแบรนด์
วิธีการย่อลิงค์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและการจดจำแบรนด์ที่ดีที่สุดคือ
- Custom Domain เป็นการใช้ชื่อแบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของลิงค์ที่ย่อแล้ว เช่น https://link.yourbrand.co/promotion ผู้ใช้จะรู้สึกเชื่อถือมากขึ้นเพราะเห็นชื่อแบรนด์ ช่วยสร้าง Branding ทุกครั้งที่แชร์ลิงค์ และยังลดโอกาสถูกมองว่าเป็นลิงค์ Scam ด้วย
- Custom Path เป็นการกำหนดคำท้ายของลิงค์ด้วยตัวเองแทนตัวอักษรสุ่ม เช่น https://bit.ly/get-free-guide สามารถสื่อสารเนื้อหาผ่านลิงค์ได้ทันที ดูเป็นมืออาชีพและน่าคลิกมากขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงเนื้อหา
URL ที่สั้นลงช่วยให้ผู้ใช้งานแชร์ลิงค์ได้สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะผ่านอีเมล โพสต์โซเชียล ข้อความ หรือแม้แต่การบอกปากต่อปาก ยิ่งลิงค์เรียบง่ายและอ่านง่ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ผู้คนจะกล้าคลิกและนำไปส่งต่อ ส่งผลให้การเข้าถึงเนื้อหาเพิ่มขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ และยังช่วยกระตุ้น Conversion ได้มากกว่า เพราะผู้ใช้ไม่รู้สึกติดขัดหรือกังวลเมื่อต้องเปิดลิงค์นั้น
5 เว็บย่อลิงค์ฟรี ย่อลิงค์ URL ให้น่าคลิก
1. Rebrandly

Rebrandly เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่องานด้านการตลาดเป็นหลัก รองรับการสร้าง Brand Domain การติดตามสถิติ มีฟีเจอร์เสริมอย่าง QR Code และการทำงานร่วมกันเป็นทีม ช่วยให้ลิงค์ที่แชร์มีภาพลักษณ์เป็นมืออาชีพและมีโอกาสคลิกสูงขึ้น ตัวอย่างฟีเจอร์สำคัญๆ
- สร้าง Branded Links ใช้โดเมนของแบรนด์ตัวเอง เพิ่มความเชื่อมั่นก่อนคลิกและช่วยให้ CTR ดีขึ้น
- Dashboard วิเคราะห์ สถิติคลิก การอ้างอิง และแคมเปญในที่เดียว ใช้ในการช่วยวัด ROI แคมเปญ
- QR Code สร้างได้ทันทีจากลิงค์ที่ย่อ เหมาะกับสื่อออฟไลน์ เช่น โปสเตอร์, ใบปลิว
- ฟีเจอร์ Team Collaboration เหมาะกับทีมการตลาดที่ต้องแชร์และจัดการลิงค์ร่วมกัน
มีแผนบริการฟรี (Free Plan) สำหรับแผนบริการย่อลิงค์ฟรีส่วนใหญ่รวมถึง Rebrandly นั้น เพียงพอต่อการเริ่มต้นใช้งาน โดย Rebrandly จะจำกัดจำนวนลิงค์ที่ย่อได้ 10 ลิงค์ต่อเดือน อย่างไรก็ตาม เพื่อการวัดผลแคมเปญอย่างจริงจังและเพิ่มความเป็นมืออาชีพ ผมแนะนำให้เปิดใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างรายงานวิเคราะห์ที่กำหนดเอง เพื่อเพิ่ม CTR ของครีเอทีฟโฆษณาได้อย่างชัดเจน ราคาเริ่มต้นประมาณ 260 บาทต่อเดือน สามารถย่อลิงค์ได้ถึง 250 ลิงค์ต่อเดือนเลยครับ
2. TinyURL

TinyURL โดดเด่นเรื่องการใช้งานง่าย เพียงวางลิงค์ก็ย่อได้ทันทีโดยไม่ต้องสมัคร เหมาะสำหรับงานเร่งด่วนหรือผู้ที่ต้องการทดลองใช้เว็บย่อลิงค์ฟรีก่อนใช้งานจริง อีกทั้งยังกำหนดคำท้าย URL (Custom Path) ได้ในระดับหนึ่ง และเป็นบริการฟรีที่ลิงค์ไม่หมดอายุ เหมาะกับเนื้อหาที่ต้องใช้ไปยาวๆ เช่น Landing Page หรือคอนเทนต์ Evergreen นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พื้นฐานอย่าง QR Code อัตโนมัติ ที่สร้างให้ทันทีเมื่อย่อลิงค์เสร็จ
มีแผนบริการฟรี (Free Plan)
แผนบริการฟรีจะจำกัดจำนวนลิงค์ที่ย่อได้ 100 ลิงค์ต่อเดือน และเมื่อเปิดบัญชีแบบฟรีจะสามารถดูประวัติการย่อลิงค์ทั้งหมดได้ หากต้องการใช้ฟีเจอร์เสริมอย่างการติดตามและวิเคราะห์การเข้าชม การสร้าง Brand Domain และการแก้ไขชื่อลิงค์ที่สร้างไปแล้ว จะต้องชำระเงินในราคาเริ่มต้นประมาณ 420 บาทต่อเดือนเท่านั้น แต่สามารถย่อลิงค์ได้ถึง 250 ลิงค์ต่อเดือน และติดตามลิงค์ได้แบบไม่อั้นเลยครับ
3. BL.INK

BL.INK เป็นแพลตฟอร์มระดับองค์กรที่รวม Link Management + Analytics + QR ไว้ในที่เดียว เหมาะมากสำหรับคนทำแคมเปญการตลาดที่ต้องการเห็นภาพรวมประสิทธิภาพแบบแม่นยำจริงๆ เพราะมี Dashboard ให้ดูข้อมูลเชิงลึก เช่น ลิงค์ไหนถูกคลิกมากที่สุด, ผู้ใช้มาจากช่องทางไหน, ใช้อุปกรณ์อะไร หรือแม้แต่การติดแท็กเพื่อจัดหมวดหมู่ลิงค์แต่ละแคมเปญได้อย่างเป็นระบบ ช่วยให้วิเคราะห์ผลและปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่ม ROI ได้ชัดเจนขึ้น จุดเด่นที่คนทำแคมเปญจะชอบมากคือ
- รวมข้อมูลลิงค์ทั้งหมดไว้ที่เดียว ไม่ต้องไล่ดูหลายแพลตฟอร์ม
- ส่งออกข้อมูลไปเชื่อมกับ GA4 ได้ ทำให้วิเคราะห์ขั้นสูงได้ง่าย
- มี Attribution แบบชัดเจน (การระบุว่ายอดคลิกหรือ Conversion มาจากช่องทางใด) ช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นยำ
- เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงทีมการตลาดที่ต้องการรายงานครบจบในเครื่องมือเดียว
มีแผนทดลองใช้งานฟรี (Trial Plan)
ทุกแพ็กเกจเปิดให้ทดลองใช้งานฟรี 21 วัน เพื่อให้ผู้ใช้ทำความคุ้นเคยกับระบบ ซึ่งแผนทดลองนี้ยังเปิดให้ใช้ฟีเจอร์บางส่วนจากแผน SMB ที่ราคาประมาณ 3,200 บาทต่อเดือน เช่น ลิงค์แบบไดนามิก (Dynamic Links) และระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ละเอียดขึ้น (Robust Analytics) ช่วยให้เห็นภาพรวมข้อมูลแบบละเอียด พร้อมได้ทดสอบการใช้งาน Dashboard จริง ก่อนตัดสินใจอัปเกรด
4. Short.io

Short.io ให้ฟีเจอร์ครบถ้วนตั้งแต่ Branded Domains, ระบบ Analytics, การใช้งานผ่าน API, ไปจนถึงการตั้งค่าปลายทางแบบมีเงื่อนไข ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ช่วยเพิ่ม Conversion อย่างเป็นระบบ โดยสามารถกำหนดปลายทางตามอุปกรณ์ ประเทศ ภาษา หรือช่วงเวลาได้ เหมาะมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการจัดการลิงค์แบบอัตโนมัติและแม่นยำ ทั้งยังรองรับการทำงานเป็นทีมและ Automation ช่วยลดภาระและลดการใช้เวลา Dev จุดเด่นที่เหมาะกับนักการตลาดและเอเจนซี่ คือ
- ตั้งค่าปลายทางแยกตามอุปกรณ์ (Desktop → หน้า A / Mobile → หน้า B)
- ปรับปลายทางตามประเทศ ภาษา หรือวันที่–เวลา
- ทำ A/B Testing ระหว่างอุปกรณ์หรือ Landing Page ได้ง่าย
- จัดการหลายเวอร์ชันของแคมเปญโดยไม่ต้องพึ่งทีมพัฒนา
มีแผนบริการฟรี (Free Plan)
ตอบโจทย์ทั้งผู้เริ่มต้นและธุรกิจขนาดเล็ก สามารถย่อลิงค์ได้สูงสุด 1,000 ลิงค์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ด้วย Custom Domain ได้สูงสุดถึง 5 โดเมน ถือว่าเพียงพอสำหรับการทดสอบแคมเปญ หรือการเริ่มสร้างโครงสร้างลิงค์ของแบรนด์แบบจริงจังโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และราคาแพ็กเกจเริ่มต้นเพียง 160 บาทต่อเดือนเท่านั้น
5. Sniply

Sniply ไม่ได้เป็นเพียงเว็บย่อลิงค์ธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเปลี่ยนผู้อ่านให้กลายเป็นผู้ติดตามของคุณ ด้วยฟีเจอร์การเพิ่มปุ่ม Call-to-Action (CTA) ลงบนหน้าบทความที่คุณแชร์ เช่น Pop-up, แถบ Banner หรือปุ่ม Subscribe ช่วยดึง Traffic จากเนื้อหาที่แชร์กลับมาสร้าง Conversion ให้แบรนด์ตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะมากสำหรับสายการตลาดที่เน้นสร้างผู้ติดตามหรือทำ Lead Generation แต่ก็มีข้อควรระวัง คือ
- Overlay อาจรบกวน UX ของผู้อ่าน
- ควรทดสอบ A/B เพื่อดูผลกระทบต่อ Bounce Rate และ Engagement เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้
มีแผนทดลองใช้งานฟรี (Trial Plan)
ทุกแพ็กเกจเปิดให้ทดลองใช้งานฟรี 14 วัน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 290 บาทต่อเดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบฟีเจอร์ก่อนตัดสินใจใช้งานจริง สามารถย่อลิงค์ได้สูงสุด 250 ลิงค์ต่อเดือน และสร้าง CTA ได้สูงสุด 5 แบบ พร้อมรับ 5,000 การแสดงผล CTA ต่อเดือน ถือว่าเพียงพอสำหรับทดลองการทำงานจริงของแคมเปญ และใช้วัดผลว่าจะช่วยเพิ่ม Conversion หรือ Engagement ให้ธุรกิจได้มากน้อยแค่ไหน
ข้อดีของการย่อลิงค์ที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม
ข้อดีของการย่อลิงค์ (Shortened URL)
- ลิงค์ดู สะอาดตา เป็นระเบียบ และสวยงาม
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้ใช้กล้าคลิกมากขึ้น
- เหมาะสำหรับแพลตฟอร์มที่จำกัดจำนวนตัวอักษร เช่น X (Twitter)
- ใช้กับงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ได้ดี เพราะไม่ทำลายเลย์เอาต์
- ทำหน้าที่เป็น Analytics Tool ช่วยติดตามประสิทธิภาพลิงค์ได้ละเอียด
- รองรับการตลาดแบบ Data-Driven ช่วยวิเคราะห์แคมเปญได้แม่นยำ
ข้อเสียของการไม่ย่อลิงค์ (Long URL)
- ลิงค์ดู ไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าคลิก
- อาจถูก ตัดทอน (Truncated) ในพื้นที่จำกัด ทำให้ลิงค์เสีย
- กระทบต่อ User Experience (UX) โดยตรง
- ทำให้แบรนด์ดูไม่เป็นมืออาชีพ
เปลี่ยนลิงค์ธรรมดาให้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนแคมเปญ
การย่อลิงค์ แปลงลิงค์ยาวๆ ให้สั้นกระชับ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามหรือความเป็นระเบียบของ URL เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของงานการตลาดออนไลน์ ลิงค์ที่กระชับและน่าเชื่อถือช่วยเพิ่มอัตราการคลิก (CTR) ได้จริง เพราะผู้ใช้มีแนวโน้มไว้วางใจและกล้ากดมากกว่า ขณะเดียวกัน 5 เว็บย่อลิงค์ฟรีข้างต้น ยังช่วยให้แบรนด์ติดตามข้อมูลเชิงลึกได้แม่นยำขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่มาของผู้ใช้ พฤติกรรมการคลิก หรือประสิทธิภาพของแคมเปญโดยรวม เมื่อรวมกับการใช้ Custom Domain และระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่เหมาะสม การย่อลิงค์จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับทั้ง UX และผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างแท้จริงเลยครับ







