
บทความ SEO คืออะไร เขียนอย่างไรให้ติดหน้าแรก Google 2025
บทความ SEO คือส่วนหนึ่งของการทำ Content Marketing ที่จะทำให้ธุรกิจเข้าถึงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำผ่านช่องทาง Google Search ที่เป็นช่องทางที่ผู้บริโภคใช้ในการหาข้อมูลสินค้าหรือความรู้มากที่สุด การเขียนบทความ SEO ที่ดีและมีคุณภาพจะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับ SEO บนหน้าแรกของ Google ได้ นอกจากจะทำให้คนมองเห็นและรู้จักธุรกิจของคุณมากขึ้นแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสในการขายสินค้าและทำให้แบรนด์เติบโตขึ้นได้อีกด้วย มาทำความเข้าใจว่าบทความ SEO คืออะไร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ SEO ได้อย่างไร พร้อมเรียนรู้วิธีการเขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับในปี 2025 ผ่านบทความนี้กับ ANGA ได้เลย

บทความ SEO คืออะไร
บทความ SEO (SEO Content) คือบทความที่ถูกเขียนขึ้นด้วยกลยุทธ์ SEO เพื่อให้บทความติดอันดับบน Google Search Results Page (SERPs) หรือหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google ซึ่ง SEO Content Writer จะต้องเขียนบทความ SEO ให้ตรงกับสิ่งที่ User มองหาและตรงกับ Google Anglorithm ในช่วงเวลานั้น ๆ ด้วย เนื้อหาในบทความก็ต้องเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพ ผ่านการเรียบเรียงอย่างมีศิลปะ เมื่ออ่านแล้ว User ก็จะเข้าใจได้ทันที
บทความ SEO จะถูกเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์เป็นหลัก มักถูกใช้ในการดึง Traffic เข้ามาสู่เว็บไซต์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการ ทำให้ผู้คนรู้จักและจดจำแบรนด์ และนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจบนโลกออนไลน์ โดยส่วนใหญ่แล้วบทความ SEO มักจะมีนื้อหาเป็นการให้ความรู้ อธิบายว่าสิ่งนั้นคืออะไร สอนทำสิ่งต่าง ๆ หรืออาจจะเป็นการเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาก็ได้ เช่น SEO คืออะไร, เสริมจมูกเจ็บไหม, MarTech คืออะไร, แจกไอเดียทำคอนเทนต์, บริษัทรับทำ SEO ที่ไหนดี ฯลฯ
บทความ SEO สำคัญต่อการทำ SEO อย่างไร
บทความ SEO มีความสำคัญอย่างมากต่อประสิทธิภาพของการทำ SEO ซึ่งบทความหรือเนื้อหาที่เขียนถูกต้องตามหลัก SEO นี้ จะช่วยให้ On-Page SEO แข็งแกร่งขึ้น ช่วยเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ และทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าเว็บไซต์ของเราเป็นประโยชน์ ทำให้ผู้ใช้อยากอยู่บนเว็บไซต์นาน ๆ > กดไปดูหน้าอื่นเพิ่มเติม > สนใจในสินค้าหรือบริการ และเปลี่ยนจากผู้เข้าชมเป็นลูกค้าในท้ายที่สุด
- ดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายที่สนใจในสินค้าหรือบริการอยู่แล้ว
- เว็บไซต์มีความเคลื่อนไหว มีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา ดูน่าเชื่อถือ
- เพิ่ม Organic Traffic อย่างต่อเนื่อง ทำให้เว็บไซต์ครึกครื้น โดยไม่ต้องยิงแอด
- สร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายและทำให้แบรนด์เติบโตขึ้น
- ลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดออนไลน์และยิงโฆษณาบน Google Ads หรือช่องทางอื่น ๆ
- กระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้อยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น และลด Bounce Rate ลง
10 วิธีเขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับ อัปเดต 2025
- ทำ Keyword Research เพื่อหาคีย์เวิร์ดที่ User ใช้ในการค้นหาจริง ด้วยเครื่องมือ Google Keyword Planner, Ubersuggest หรือ Ahrefs
- ศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องที่จะเขียนจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อให้สามารถเขียนเนื้อหาได้อย่างละเอียด ครอบคลุมในทุก ๆ หัวข้อ
- เขียนเนื้อหาตามหลัก E-E-A-T Factor เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ แต่ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีความละเอียดอ่อน อย่างเว็บไซต์สุขภาพ การเงิน หรือกฎหมาย ต้องเขียนให้ตรง YMYL Algorithm
- เขียนเนื้อหาให้ครอบคลุม เพื่อให้ Google เข้าใจบริบทของคีย์เวิร์ดในธุรกิจเรา (Entity SEO) โดยการใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องหรือใช้ศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณโดยตรง
- เขียนเนื้อหาขึ้นมาใหม่เอง มีการเรียบเรียงใหม่เอง เพื่อให้เนื้อหาสดใหม่ ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ไม่ซ้ำกับเว็บไซต์อื่น เพราะการคัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่น อาจทำให้คุณถูกลงโทษจาก Google
- เขียนบทความ SEO ที่มีความยาว 1,000 คำขึ้นไป และวางโครงสร้างเนื้อหาที่อ่านง่าย
- กระจายคีย์เวิร์ดบนเนื้อหาอย่างทั่วถึง แต่ไม่เกิน 2.5% ของเนื้อหาทั้งหมด ใช้คำพ้องความหมายและคำที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บทความดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- วางคีย์เวิร์ดบนตำแหน่งสำคัญตามหลัก On-Page SEO เช่น Title, Meta Description, URL Slug, H1, H2, พารากราฟแรก และบทสรุป
- แทรก Internal Link ลงไปในเนื้อหา (ลิงก์ไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้องภายในเว็บไซต์) เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันเข้าด้วยกันตาม Silo-based Structure
- อัปเดตบทความ SEO ลงไปบนเว็บไซต์เป็นประจำ พร้อมกับตรวจสอบและปรับปรุงบทความเก่าให้ทันสมัย เพื่อรักษาอันดับให้ดีดังเดิม เพราะ Google ชอบเว็บไซต์ที่มีความเคลื่อนไหวมากกว่าเว็บไซต์ที่ถูกปล่อยร้าง
บทสรุป
ถ้าคุณคิดจะทำ SEO ล่ะก็ บทความ SEO คือสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย เพราะเป็นเหมือนประตูในการดึงคนเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเรา ลองเริ่มต้นเขียนบทความ SEO ด้วยตัวเองผ่านวิธีที่เราแนะนำไปในบทความนี้ได้เลย อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณอยากเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรก Google คุณจะต้องมีการทำ SEO ส่วนอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ทุกอย่างเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเชิงเทคนิค การจัดโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบ การทำให้เว็บไซต์โหลดเร็ว หรือการทำ Backlink ก็ตามสุดท้ายนี้ ถ้าองค์กรของคุณไม่มี SEO Content Writer ในการเขียนบทความ, SEO Specialist ในการวางกลยุทธ์ SEO หรือ Web Developer สำหรับแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนเว็บไซต์ ขอแนะนำให้มองหา SEO Agency ที่เชี่ยวชาญและมีบริการรับทำ SEO ครบวงจรเข้ามาช่วยดูแลจะเป็นการดีที่สุด เพราะถ้าคุณจ้างเอเจนซี่ตั้งแต่ต้น โครงสร้างเว็บไซต์ของคุณก็จะดีจะตั้งแต่แรก ทุกอย่างถูกต้องตรงตามเกณฑ์ แถมยังได้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาเป็นที่ปรึกษาด้านการทำ SEO แบบส่วนตัวด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง

จดโดเมน .co.th ทำอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง จดที่ไหนดี 2025
