ทำความรู้จัก! Landing page คืออะไร? ทำให้ปังก็เพิ่มได้ทั้งยอดขายและ Traffic

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันการทำตลาดออนไลน์เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่ได้ทำการเคลื่อนย้ายตัวเองจากโลกออฟไลน์ไปสู่โลกออนไลน์เรียบร้อยแล้ว จะเห็นได้จากการที่พวกเขาจะทำการหาข้อมูลและซื้อสินค้าบริการผ่านช่องออนไลน์ ไม่ว่าต้องการซื้อสินค้าหรือบริการประเภทใดก็ตาม จึงทำให้เจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการต้องหันมาปรับกลยุทธ์ให้ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายที่อยู่บนช่องทางออนไลน์มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการทำสร้าง Landing Page ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ มาทำความรู้จัก Landing Page ในเชิงการตลาดออนไลน์กันให้มากขึ้นกันดีกว่า

Landing page คืออะไร?

หลายคนอาจสงสัยว่า Landing page คืออะไร? มีความแตกต่างจากเว็บไซต์ทั่วไปอย่างไร เพราะเมื่อเราคลิกเข้ามายัง Landing page ก็จะมีลักษณะเหมือนกับเว็บไซต์ปกติ โดยเว็บไซต์และ Landing page มีลักษณะหรือหน้าตาที่เหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือวัตถุประสงค์ในการสร้างสำหรับเว็บไซต์ทั่วไปมีวัตถุประสงค์หลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นอธิบายข้อมูลสินค้า ขายสินค้า แต่  Landing page ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวเท่านั้น

โดย Landing page หากเป็นในภาษาที่ใช้เชิงดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งแล้ว ต้องบอกว่า Landing page ก็คือ เว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นและออกแบบเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดโดยเฉพาะ หรือรองรับแคมเปญทางการตลาด การโฆษณาออนไลน์ การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม โฆษณาเพื่อแจ้งข่าวสาร หรือเผยแพร่ข้อมูลสินค้าและบริการ 

ในบางครั้งอาจถูกเรียกว่า Sale page เพราะส่วนใหญ่ Landing page ถูกนำมาใช้เพื่อขายสินค้าและบริการ เพราะว่าเปิดโอกาสให้เกิด Conversion สูงขึ้น โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดสำหรับหน้า Landing page คือ ปุ่ม Call to Action เพื่อกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายให้ปฏิบัติตามเป้าหมายที่นักการตลาดได้ตั้งเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้า การลงทะเบียน หรือการสมัครสมาชิกเป็นต้น 

Landing Page กับ SEO ทำงานร่วมกันสร้างผลลัพธ์ได้มากกว่า 

การทำ Landing Page ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต้องมีการปรับแต่ง SEO ทั้ง On-page และ Off-page ให้เหมาะสมสำหรับการเสิร์ชเพื่อช่วยการทำอันดับที่ดีบนหน้า Search Engine โดยการปรับแต่ง Landing Page ให้เหมาะสมตามหลักของ SEO มีดังต่อไปนี้ 

มี Keyword หลักใน URL

โดยปกติแล้ว URL ควรมีความยาวไม่เกิน 65 อักขระ และต้องมี Keyword หลักประกอบอยู่ด้วย เพื่อให้ Bot จัดกลุ่มและแบ่งประเภทของเนื้อหาคอนเทนต์ที่ได้เผยแพร่ออกไปได้

มี Keyword หลักในชื่อเรื่องและคำอธิบาย

Keyword หลักควรอยู่ด้านหน้าของชื่อเรื่องของบทความ (Title) รวมถึงมี Keyword หลักอยู่ในคำอธิบาย (Description) ด้วยเช่นกัน โดยต้องอธิบายเนื้อหาที่กระชับและตรงประเด็น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสนใจและคลิกเข้ามา 

Heading ของแต่ละหัวข้อควรมี Keyword หลักประกอบอยู่

ไม่เพียงแต่หัวข้อหลักที่ควรมี Keyword สำคัญประกอบอยู่ แต่หัวข้อรองหรือหัวข้อย่อยก็ควรมี Keyword ประกอบอยู่ด้วยเช่นกันตามความเหมาะสม 

มีการใส่ Internal links

มีการลิงก์เชื่อมโยงไปยังเนื้อหาอื่น ๆ บนเว็บไซต์เดียวกัน เพื่อให้ Bot เข้าใจเนื้อหาและบริบทความคอนเทนต์เพิ่มมากขึ้น 

รูปภาพและวิดีโอ

ควรมีภาพหรือวิดีโอประกอบที่มี ALT Text (Alternative Text) หรือคำอธิบายรูปภาพที่มี Keyword ประกอบอยู่อย่างเหมาะสม 

โดยหากมีการปรับแต่ง Landing Page ให้เหมาะสมตามหลักของ SEO จะสามารถดีงดูดทั้ง Bot และผู้อ่านให้เข้ามายังหน้า Landing Page มากขึ้น และสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าให้กับสินค้าและบริการของคุณ 

เทคนิคการทำ Landing page ให้ดึงดูดผู้ใช้งาน

อย่างที่กล่าวไปการทำ Landing page คือสิ่งที่มีความสำคัญเพราะสามารถเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) เพิ่มการซื้อขายผ่านเว็บได้มากขึ้น ดังนั้นถึงเวลาที่ธุรกิจจำเป็นต้องปรับแต่ง Landing page ให้ดึงดูดทั้ง Bot และคนให้สนใจสินค้าและบริการของคุณ 

1. กำหนดเป้าหมายชัดเจน 

Landing Page คือเครื่องมือสำคัญที่นำมาใช้ตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด ดังนั้นเป้าหมายของการสร้าง Landing Page ต้องชัดเจน อาทิ หากต้องการสร้างแคมเปญโฆษณา Landing Page ที่สร้างขึ้นต้องตรงตามวัตถุประสงค์แคมเปญ เพื่อสร้างโอกาสและขยายยอดขายออกไปได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขาย เพิ่มการสมาชิก รวมถึงการลงทะเบียน โดย Landing Page จะเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิด Call to Action ได้อย่างตรงจุด และทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการได้มากขึ้น 

2. การออกแบบ Landing Page

ปัจจุบันการสร้างหน้า Landing Page ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดอีกต่อไป โดยเราสามารถสร้างหน้า  Landing Page จากเว็บไซต์สำเร็จรูปด้วย โดยต้องคำนึงการจัดแต่งองค์ประกอบให้สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฟอนต์ การจัดหน้า Layout รวมถึงให้ความสำคัญกับ Mobile-Friendly เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน 

3.หัวข้อต้องโดดเด่น 

นอกจากในหัวข้อหรือชื่อเรื่องบทความให้มี Keyword หลักประกอบอยู่ด้วยแล้ว ยังต้องสร้างสรรค์หัวข้อให้โดดเด่น รวมถึงบ่งบอกสินค้า บริการ หรือสิ่งที่ต้องการนำเสนอได้อย่างชัดเจน ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพราะกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจต่อสินค้าและบริการของเรามากขึ้น 

4.ลำดับความสำคัญของเนื้อหาให้ชัดเจน 

การจัดลำคับความสำคัญของเนื้อหาให้เรียบง่ายที่สุด เพื่อให้ประเด็นที่ต้องการนำเสนอมีความโดดเด่นและชัดเจนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของโปรโมชั่น คุณสมบัติหรือประโยชน์ของสินค้า รวมถึงการนำเสนอสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายจะได้รับหลังจากตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ โดยมีการจัดวาง Layout ที่สบายตา รวมถึงมีภาพประกอบการตัดสินใจ 

5.เชื่อมไปยังโดเมนหลักของธุรกิจได้ 

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญของหน้า Landing Page คือ อย่าลืมเพิ่ม Tracking และ Custom Scripts Embed บน Google Analytics เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์โดยอาจจะมีเครื่องมือ CRM เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า และเชื่อมไปยังโดเมนหลักของธุรกิจได้ เพื่อให้ลูกค้าได้ติดตาม หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม 

6. ปุ่ม CALL TO ACTION 

สุดท้ายแล้วคือการสร้าง ปุ่ม CALL TO ACTION ที่น่าดึงดูด เพราะเป้าหมายส่วนใหญ่ของการทำ  Landing Page คือความต้องการให้เกิด Conversion ที่สูงขึ้น ดังนั้นการสร้างสรรค์ปุ่ม CTA จึงสำคัญเป็นอย่างมาก  เพราะช่วยในการกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภค ดึงดูดสายตาคนอ่าน และเกิดการตัดสินใจซื้อหรือเข้ารับบริการในที่สุด

ตัวอย่าง Call To Action ที่นิยมใช้ 

• การยื่นข้อเสนอ เช่น สมัครสมาชิกรับฟรี  ลงทะเบียนฟรี คลิกรับส่วนลด 
• การกระตุ้นยอดขาย เช่น กดสั่งส่งฟรี หยิบใส่ตระกร้า สินค้าชิ้นสุดท้ายจองเลย
• การเชิญชวนให้เข้าร่วม เช่น ดาวน์โหลดฟรี เข้าร่วมกิจกรรมลุ้นของรางวัล สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

บทสรุปของ Landing page กลยุทธ์เพิ่มยอดขายทำได้ไม่ยาก  

กลยุทธ์เพิ่มยอดขายด้วย Landing Page เป็นเครื่องมือสำคัญของนักการตลาดยุคใหม่ต้องรู้จัก เพราะสามารถสร้างโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจ โดยอาศัยแคมเปญการตลาดที่นักการตลาดและผู้ประกอบการได้ทำการปล่อยออกมา โดยวิธีการนี้จะส่งผลเชิงบวกในการค้นหาลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ นำมาซึ่งผลสำเร็จในการทำธุรกิจที่สามารถทำได้ไม่ยาก