1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. E-commerce คืออะไร? คู่มือสำหรับธุรกิจขายสินค้าออนไลน์
E-commerce คือ
เผยแพร่เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2023 | แก้ไขเมื่อ: กรกฎาคม 30, 2024

E-commerce คืออะไร? คู่มือสำหรับธุรกิจขายสินค้าออนไลน์

Table Of Contents

E-commerce คือ หนึ่งในรูปแบบธุรกิจที่ได้รับความสนใจอย่างยิ่งในยุคเทคโนโลยีดิจิทัล เนื่องจากผู้ประกอบการทั้งหลายเล็งเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมใช้บริการผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งก่อนจะเริ่มต้นการค้ารูปแบบใหม่นี้ ทุกท่านจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง 

อย่างไรก็ตามอีคอมเมิร์ซไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือเรียนรู้ยาก วันนี้ ‘ANGA’ ได้ทำคู่มือฉบับเริ่มต้นแก่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ให้เข้าใจครอบคลุมทั้งความหมาย ประเภท ข้อดี-ข้อเสีย วิธีการโปรโมตธุรกิจและช่องทางการขายที่มีมากกว่าโซเชียลมีเดียที่คุ้นเคยกัน หากพร้อมแล้วมาเริ่มต้นเรียนรู้เลย!

เจาะลึกความหมาย E-commerce คืออะไร?

คำว่า E-commerce ย่อมาจาก ‘Electronic Commerce’ ดังนั้น E-commerce คือ ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ รวมถึงโฆษณาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างเว็บไซต์ แพลตฟอร์มและแอพปพลิเคชัน ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงร้านค้าได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา ในทางตรงกันข้ามหากคุณเป็นผู้ประกอบการเมื่อมีสินค้าและอินเทอร์เน็ตในกำมือแล้ว การเริ่มต้นธุรกิจประเภทนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย

ชวนเช็ก 7 ประเภทหลักของธุรกิจ ‘E-commerce’

หลังจากทราบความหมายของธุรกิจอีคอมเมิร์ซกันแล้ว เราจะพามาดูกันต่อว่าประเภทของ ‘E-commerce’ มีอะไรบ้าง แล้วสินค้าและบริการของคุณใช้โมเดลแบบไหน มาดูพร้อมกันเลย

7 ประเภทหลักของธุรกิจ ‘E-commerce’
  1. Business to Consumer : B2C

ธุรกิจประเภทซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคโดยตรง

  1. Business to Business : B2B

ธุรกิจประเภทซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ

  1. Consumer to Business : C2B

ธุรกิจประเภทซื้อขายระหว่างบุคคลธรรมดาและผู้ประกอบการ เช่น ฟรีแลนซ์กราฟิก 

  1. Business to Government : B2G

ธุรกิจประเภทซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการกับรัฐบาล

  1. Consumer to Consumer : C2C

ธุรกิจประเภทซื้อขายระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค เช่น เสื้อผ้ามือ 2

  1. Government to Consumer : G2C

ธุรกิจประเภทซื้อขายระหว่างรัฐบาลกับประชาชน 

  1. Government to Government : G2G

ธุรกิจประเภทซื้อขายระหว่างรัฐบาลกับภาครัฐเพื่อทำข้อตกลงหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูล

เผยหมดเปลือก ข้อดี-ข้อเสียของการทำธุรกิจ ‘E-commerce’

แน่นอนว่าก่อนเริ่มต้นธุรกิจคุณจะต้องทราบจุดเด่นและจุดด้อยของประเภทธุรกิจที่จะลงไปเล่น สำหรับอีคอมเมิร์ซมีหลายแง่มุมที่คุณควรตระหนัก ดังนี้

ข้อดีของการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์

มาเริ่มกันที่แง่ดีของธุรกิจประเภทนี้กันก่อน อย่างแรกที่เห็นได้ชัด คือ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านและพนักงานเพราะมีระบบรองรับการซื้อขายอัตโนมัติจึงลดต้นทุนไปได้มากโข สามารถนำเงินไปลงทุนในด้านอื่น เช่น การโฆษณา ใช้บริการรับทำเว็บไซต์คุณภาพเพื่อประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า หรือขยายธุรกิจก็ได้ แถมยังเพิ่มโอกาสในการขายเนื่องจากคนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตถึง 70% 

นอกจากนี้อัตราการเติบโตของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประเทศไทยยังส่งสัญญาณดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่สำคัญเคยติดอันดับ 1 ของอาเซียนอีกด้วย จากการคาดการณ์ช่วงหลังโควิดผู้คนยังชื่นชอบการช้อปออนไลน์อยู่ซึ่งเป็นผลมาจากการเคยชินกับความสะดวกสบาย

ข้อเสียของการประกอบธุรกิจผ่านอินเทอร์เน็ต

มาต่อกันที่ข้อเสียของการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เรื่องแรกที่ต้องระมัดระวังคือระบบความปลอดภัย อาจมีมัลแวร์โจมตี แถมธนาคารในไทยยังไม่มีการรองรับความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์อีกด้วย ที่สำคัญมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ช่วงเริ่มต้นอาจจะต้องใช้เวลาในการสร้างความน่าเชื่อถือ และอย่าลืมเรื่องสินค้าต้องห้ามและกลโกงของผู้ซื้อสินค้าเด็ดขาด

3 ช่องทางการประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องรู้ก่อนเริ่มต้น!

เมื่อพิจารณาข้อดีและข้อเสียของธุรกิจบนโลกออนไลน์และตัดสินใจไปต่อ เราจะพามาส่อง 3 ช่องทางหลักบนอินเทอร์เน็ตที่สามารถขายสินค้าและบริการของคุณได้ แต่ละประเภทจะน่าสนใจอย่างไร มาดูกันเลย

3 ช่องทางการประกอบธุรกิจ

เว็บไซต์ทางการของแบรนด์

สำหรับช่องทางการขายสินค้าบนเว็บไซต์ของแบรนด์ไปยังลูกค้าโดยตรงสามารถเก็บข้อมูลและพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจได้ นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบ UX/UI รูปลักษณ์และประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าได้ แถมมีความน่าเชื่อสูง ในช่วงแรกอาจใช้ต้นทุนสูงและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ

โซเชียลคอมเมิร์ซ

มาต่อกันที่การซื้อขายบนแพลตฟอร์มโซเชียลที่เราคุ้นเคยกันดีไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Instagram, TikTok หรือ Twitter ใช้ต้นทุนต่ำ สามารถชำระเงินได้บนแพลตฟอร์มแถมมีฟีเจอร์ Insight วิเคราะห์ธุรกิจให้อีกด้วย นอกจากนี้การติดต่อกับลูกค้ายังรวดเร็วและง่ายมาก อย่างไรก็ตามการใช้โซเชียลมีเดียมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างต่ำ

อีมาร์เก็ตเพลส

มาร์เก็ตเพลส คือ เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมแบรนด์สินค้า ที่ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาสามารถเข้ามาทำการซื้อขายได้ โดยบางแห่งสามารถช่วยขยายฐานลูกค้าระดับเอเชียหรือทั่วโลกได้ สำหรับ Marketplace ที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น Shopee, Lazada และ JD Central โดยมีความน่าเชื่อถือขึ้นมา เพราะลูกค้าสามารถตรวจสอบและดูรีวิวได้ แถมจัดการง่ายด้วยระบบที่ทันสมัย แต่ทั้งหมดนี้ต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมรวมถึงค่า GP ส่วนแบ่งจาดยอดขายด้วย

5 กลยุทธ์การตลาดที่ผู้ประกอบการ E-commerce ต้องจับตามองให้ดี!

ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่าการแข่งขันธุรกิจบนโลกออนไลน์นั่นสูงลิ่ว การตลาดจึงต้องมีประสิทธิภาพและเข้ากับกลุ่มลูกค้าบนอินเทอร์เน็ต มาดูกันดีกว่าว่า 5 กลยุทธ์ E-commerce Marketing ที่น่าจับตามองมีอะไรบ้าง

5 กลยุทธ์การตลาด

  1. การตลาดบนโซเชียลมีเดีย

Social Media จะพาสินค้าและบริการของคุณเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

  1. Influencer Marketing

อินฟลูเอนเซอร์ คือ ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ช่วยแนะนำสินค้าและบริการให้แก่ผู้ชมอย่างน่าเชื่อถือ เพราะมีความเป็นกันเองและใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายสูง

  1. SEO

SEO เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้ผู้ที่สนใจสินค้าและบริการมองเห็นผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อค้นหาข้อมูลบนเสิร์ชเอนจินต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีเอเจนซี่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการเพียบไม่ว่าจะหาลูกค้า B2B หรือประเภทอื่น ๆ ก็ตาม

  1. Affiliate Marketing

สำหรับการตลาดแบบพันธมิตรจะช่วยเชื่อมโยงสินค้าและบริการของคุณกับนักการตลาดที่มีฐานลูกค้าแน่น ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสซื้อผลิตภัณฑ์สูงได้

  1. Email Marketing

หลายคนอาจมองว่าอีเมลค่อนข้างล้าหลัง แต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกยังให้ความสำคัญแก่อีเมล เพราะช่วยแจ้งเตือนสินค้าลดราคาและกระตุ้นยอดขายได้ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ANGA เปิดรับสมัคร AMC รุ่น 2 (2025)

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องกับโครงการ AMC (ANGA Management Candidates) รุ่น 2 ที่ใคร ๆ หลายคนต่างรอคอย หลังจากที่โครงการ AMC รุ่น 1 ประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก  เพราะเป็นโครงการที
88

Demand Gen คือโฆษณารูปแบบใหม่ที่ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญโฆษณา Google Ads พร้อมเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วย Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Discovery Ads โดยการดึงเอาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้งาน พร้
101

DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากที่สุด

อย่างที่เรารู้กันว่า Google เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แล้วรู้ไหมว่าใครคืออันดับสอง? คำตอบคือ DuckDuckGo นั่นเอง ซึ่ง DuckDuckGo คือ​ Search Engine ที่มีจุดเด่นด้านความปลอดภัยท
95
th