1. หน้าหลัก
  2. อัปเดตการตลาด
  3. Keyword Research คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO
เผยแพร่เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2021 | แก้ไขเมื่อ: เมษายน 28, 2023

Keyword Research คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO

Table Of Contents

ด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของพวกเรามากขึ้น ทำให้พฤตกรรมการเข้าถึงข้อมูลสินค้าและบริการต่าง ๆ ของผู้บริโภคล้วนมาจากการเข้าสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเครื่องมือที่เรียกว่า Search Engine คือเทคโนโลยีดิจิทัลที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลที่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้งานอยากรู้ โดยผู้ให้บริการที่นับว่าเป็นช่องทางหลักของยุคนี้ก็คือ Google นั่นเอง และการที่ผู้บริโภคเท่านั่นจะเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้นั้นต้องมีการใช้ Keyword เพื่อค้นหา หลายคนอาจไม่ว่า Keyword ที่ว่านั้นคืออะไร?

สำหรับความหมายของ Keyword นั่นถ้าจะให้อธิายก็คือคำหรือประโยคที่ผู้คนใช้ในการค้นหาข้อมูลจาก Search Engine ซึ่งมีความหมายตรงกับความต้องการหรือปัญญาที่ผู้ใช้งานอยากรู้ยกตัวย่างเช่นคำว่า “สามาร์ตโฟนรุ่นใหม่” คำนี้เป็น Keyword ที่หมายความว่าผู้ใช้งานอาจต้องการหาข้อมูลสินค้าเกี่ยวกับสมาร์ตโฟนเป็นต้น

Keyword Research คืออะไร?
Keyword Research คืออะไร?

การทำ Keyword Research คืออะไร?

Keyword Research คือขั้นตอนในการเลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของเรา โดยไม่จำเป็นต้องเลือกใช้เพียงคำเดียว แต่ยังสามารถเลือกใช้หลายคำที่ใกล้เคียง คำที่เป็นไวพจน์ (ความหมายเดียวกันแต่ใช้คนละคำ) หรือคำที่สามารถนำมาประกอบการอธิบายสินค้าได้ โดยคำเหล่านี้ควรจะต้องเป็นคำที่คนส่วนใหญ่มากจจะใช้ค้นหาใน Google ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือวิธีการเลือก keyword เพื่อไปทำ SEO ต่อนั่นเอง

วิธีการเลือก Keyword สำคัญอย่างไรกับ SEO

Keyword นั้นถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับเส้นทางที่เชื่อมระหว่างผู้บริโภคกับเว็บไซต์ หากเราเลือกคำหรือ Keyword ได้แม่นยำและถูกต้อง ก็ถือเป็นช่องทางในการคัดกรองผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่สนใจในเนื้อหาและสินค้าของเราจริง ๆ และมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะแปรสภาพจากผู้บริโภคทั่วไปเข้ามาเป็นลูกค้าของเราได้หากเราเลือกใช้ Keyword ที่มีคุณภาพและมี Search Volume ที่ดีพอมาสร้างคอนเทนต์บนเว็บไซต์ได้อย่างเหมาะสม  ดังนั้นในการทำ SEO จึงได้มีขั้นตอนที่เรียกว่า “การทำ Keyword Research” ขึ้นมา

ประเภทของ Keyword แบ่งได้ 2 ประเภทคือ

  • Short-Tail Keywords
    คือคำค้นหาหลักแบบสั้น อาจจะเป็นคำเพียงคำเดียวหรือคำสั้นที่ไม่เกิน 4 คำ โดย Keyword ประเภทนี้มีเนื้อหาหรือขอบเขตกว้างมาก จุดประสงค์ในการค้นหาคำสั้น ๆ แบบนี้ส่วนมากจะเป็นคำที่อยู่กระบวนการที่อาจจะตัดสินใจหรือลังเลใจที่จะทำอะไรบางอย่าง เช่น เที่ยวสมุย เป็น keyword ที่ค่อนข้างกว้างเพราะสามารถแตกจุดประสงค์ออกไปได้หลายทางเหมือนกัน

    ข้อสังเกต ของ Short-Tails Keyword คือ Search Volume (ปริมาณการค้นหา) สูงและมีการ Competition (การแข่งขัน) สูงด้วยเช่นกัน เพราะคำสั้นเป็นคำที่ค้นหาบ่อย ๆ อยู่แล้วจึงทำให้จำนวน Search Volume สูงไปโดยปริยาย และด้วยการค้นหาที่สูงก้ทำให้เกิดการแข่งขันในการเลือกใช้คำประเภทนี้สูงตามไปด้วย ทำให้เห็นว่าคู่แข่งของคุรก็อาจใช้คำเหล่านี้เหมือนกัน
  • Long-tail Keywords
    คือ Keyword ชนิดยาว ที่มีมิติของการใช้คำที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทำให้จุดประสงค์ในการค้นหาแคบลงไปได้มาก แต่การเลือกใช้ Keyword ประเภทนี้ก็ต้องแลกกับปริมาณ Search Volume ที่ลดน้อยลงตามไปด้วยเพราะจำนวนการค้นหาจะไม่มากเท่ากัน Short-tail Keywords

    ข้อสังเกต ของ Keyword ประเภทนี้คือปริมาณการค้นหาน้อย แต่ด้วยจำนวนที่น้อยก็สามารถช่วยกรองคนที่เข้าถึงเว็บไซต์ด้วย Keyword ประเภทนี้ เป็นการค้นหาแบบเจาะจง หรือที่เรียกว่า High Search Intention ในด้านของ Competition ก็จะลดลงไปด้วยเหมือนกัน ทำให้การแข่งขันในคำค้นหาไม่หนักเท่าไหร่

ลักษณะที่ดีของ Keyword

ในขั้นตอนการทำ Keyword Research มีหลักสำคัญคือ วิธีการเลือกลักษณะของ Keyword ที่จะนำมาใช้กับ SEO มีหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  1. คำที่เกี่ยวข้องกับสินค้า
    ต้องเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือเป้าหมายบนเว็บไซต์ของคุณ ยิ่ง Keyword มีความเกี่ยวข้องหรือเจาะจงไปถึงสินค้ามากเท่าไหร่โอกาสที่จะได้จบการขายก็มีสูงมากขึ้น
  2. คำที่มีคนใช้ค้น
    ไม่จำเป็นต้องเป็นคำที่บอกถึงลักษณะสินค้าแบบตรง ๆ หรือใช้ภาษาที่ถูกต้องเสมอไป เพราะในบางครั้งคำที่มีความหมายเดียวกันแต่คำสะกดไม่ถูกต้องแต่มี Search Volume สูงก็ยังถือว่าเป็นคำค้นหาที่ดีได้
  1. ปริมาณของ Search Volume
    Keyword มีดีคือต้องมี Search Volume ในปริมาณพอสมควร ยิ่งยอดการค้นหาสูงถือว่าคำ ๆ นั้นมีคุณภาพที่ดี แต่ถ้าคำที่มียอดการค้นหาน้อยเกินไปย่อมส่งผลเสียากกว่าผลดีแน่นอน
  2. คำที่มีการแข่งขัน
    Keyword ที่คุณภาพดีต้องสามารถแข่งขันได้ เมื่อเราเลือกคำ ๆ ไปใช้ ต้องหวังถึงในเรื่องของการติดอันดับค้นหาในหน้าแรกของ Google ได้ ยิ่งมีอันดับทีเหนือกว่ายิ่งดี แต่ในการวิเคราะห์ความยาก-ง่าย (Keyword Difficulty) ในการแข่งขันอาจจะต้องมีการใช้ Keyword Research Tools เข้ามาช่วยวิเคราะห์จะทำให้ภาพที่ชัดเจน
  3. เลือกคำประเภท High Commercial Intent
    High Commercial Intent คือ Keyword ที่มีคนต้องการค้นหาอยู่เสมอ ซึ่งคำประเภทนี้ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ สำหรับคำแบบ High Commercial Intent แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
    Buy Now Keyword คือกลุ่มคำที่ใช้ในการค้นหาอยากเร่งด่วนของคนที่มีกำลังซื้อสูง
    – Product Keyword คือคำที่ระบุถึงลักษณะของสินค้าและบริการ ซึ่งยอดการค้นหาอาจจะสู้กับ buy Now Keyword ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กัน

สรุปเกี่ยวกับวิธีการทำ Keyword Research

สำหรับวิธีการทำ Keyword Research นั้นคือการเลือก Keyword เพื่อนำไปทำ SEO ต่อ นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการนำไปปรับปรุงเนื้อหาบนเว็บไซต์หรือเพื่อนำไปสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องผ่านขึ้นตอนการค้นคว้ากว่าที่จะมาลงมือทำจริง ประเภทหลัก ๆ ของ Keyword จะมี 2 ประเภทคือ Short-tail Keyword (คำค้นหาแบบสั้น) และ Long-tail Keyword (คำค้นหาแบบเฉพาะเจาะจง) โดยสิ่งที่เป็นข้อสังเกตคือเรื่องของ Search Volume และ Competition ซึ่งการใช้คำสั้นที่มีความหมายกว้าง ๆ อย่าง Short-tail Keyword จะเห็นได้ว่ามี Long-tail Keyword สูงเพราะใคร ๆ ก้ค้นหาคำเหล่านั้น ส่วนคำประเภท Long-tail Keyword จะมี Search Volume และ Competition ที่ต่ำกว่าเพราะมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่าทำให้การค้นหาน้อยกว่า

ส่วนปัจจัยที่ช่วยให้เลือก Keyword ได้คุณภาพจะต้องใช้หลายปัจจัยในการวิเคราะห์คำค้นหน้าคำนั้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือ keyword research tools เข้ามาช่วย เพื่อทำการวิเคราะห์ความน่าสนใจของ Keyword ทั้ง Search Volume และ Competition ว่าน่าสนใจมากน้อยเพียงใด บางครั้งก็อาจจต้องใช้ไอเดียในการค้นหาเข้ามาช่วยเพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่ผู้ใช้งานจะใช้คำค้นหาแบบไหนนั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

HubSpot คืออะไร? ช่วยดูแลธุรกิจ ครบจบในตัวเดียวจริงไหม?

สำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้ ทีมที่องค์กรขาดไปไม่ได้เลยคือทีมการตลาดและทีมขาย ทั้งสองทีมนี้ต้องทำงานร่วมกัน ในการดึงลูกค้าเข้ามาและปิดการขาย แต่ด้วยความที่ต่างทีมต่างมีลำดับขั้นตอนและรายละเอียดของเนื้องา
38

Google Analytics 4 คืออะไร ต่างจากเวอร์ชันเก่าอย่างไร

Google Analytics (GA) เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมาก สำหรับนักการตลาดและแบรนด์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพราะ GA จะช่วยให้คุณรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้งานบนเว็บไซต์มากขึ้น และทำให้คุณได้ข้อมูล
27

Technical SEO คืออะไร? กับ 8 เทคนิคการปรับปรุงฉบับพื้นฐาน

Search Engine Optimization (SEO) เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบน Google ได้อย่างยั่งยืนและนำมาซึ่งผลลัพธ์ด้านการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งการทำ SEO จะประกอบไปด้วยฝั่งของ On-Page S
32
th